บ้าน รถ ผ่อนบ้านให้หมดไว ภายใน 5 ปี ของเศรษฐี ลีกาชิง


 

บ้าน รถ ผ่อนบ้านให้หมดไว ภายใน 5 ปี ของเศรษฐี ลีกาชิง

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บทความดีๆเกี่ยวกับการซื้อบ้างและผ่อนบ้าน มาให้เพื่อนๆได้อ่านและทำความเข้าใจ ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการใช้ชีวิตของมหาเศรษฐีชื่อดังคนหนึ่งที่ชื่อว่า ลีกาชิง เขาได้ออกมาพูดสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในช่วง 5 ปี เป็ยช่วงเวลา 5 ปีที่จำทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไปได้เลย

ปล มันเปลี่ยนชีวิตคุณได้เลยนะ หากคุณเข้าใจทุกบรรทัด

1 หยวนประมาณ 5 บาท

สมมติว่ารายได้ต่อเดือนของคนอยู่ประมาณ 2,000 หยวน สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำก็คือแบ่งเงิน 2000 หยวนนี้ ออกเป็น 5 ส่วน มีดังต่อไปนี้

เงินส่วนแรก 600 หยวน

ในส่วนนี้เราจะกันนะไว้เพื่อเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเราจะแบ่งเป็น 20 หยวนต่อวันพยายามอย่าให้เกินนี้ โดยมื้อเช้าของทุกวันกินบนเส้น ไข่ 1 ฟอง แล้วก็นม 1 แก้ว ส่วนมื้อกลางวันก็จะเป็นการกินอาหารเบา และผลไม้ มื้อเย็นก็เข้าครัวทำอาหาร โดยประกอบไปด้วยผัก เนื้อสัตว์เล็กน้อย และนม 1 แก้วอุ่นๆก่อนนอน ค่าใช้จ่ายก็จะตกอยู่ประมาณเดือนละ 500-600 หยวน อีกทั้งวิธีนี้ยังช่วยทำให้ร่างกายดีอีกด้วย

เงินส่วนที่สอง 400 หยวน

สำหรับเงินส่วนที่ 2 นี้มีไว้เพื่อเป็นการสร้างเพื่อสร้างมิตร สร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลรอบข้าง สิ่งนี้จะทำให้คุณมั่งคั่ง และร่ำรวยเพื่อน กันเอาไว้ 100 หยวนสำหรับค่าโทรศัพท์ กันเงินเอาไว้สำหรับค่าใช้จ่ายกินข้าวกับเพื่อน 2 มื้อต่อเดือนมื้อละ 150 หยวน ใครที่คุณควรสมควรจ่ายค่าข้าวให้คุณจำไว้ว่าคนนั้นคือคนที่จะเป็นคนคอยสนับสนุนในหลายๆเรื่องในอนาคตของคุณได้ เงินทองอาจจะทำให้คุณสุขสบาย แต่เพื่อนฝูงจะทำให้คุณเป็นคนที่น่าเคารพนับถือ การมีเพื่อนเยอะดีกว่าการมีเงินเยอะ

เงินส่วนที่สาม 300 หยวน

การเรียนรู้ คุณควรจะจ่ายเงินประมาณ 50 ถึง 100 หยวน ในการซื้อหนังสือ เพราะคุณมีเงินไม่มาก คุณควรเอาใจใส่กับการจ่ายเงินไปกับการเรียนรู้ เมื่อคุณซื้อหนังสือและอ่านมันอย่างระมัดระวัง จงเรียนรู้บทเรียนและกลยุทธต่างๆ ที่สอนไว้ในหนังสือ หลังจากอ่านหนังสือแต่ละเล่มให้เล่าเรื่องราวเป็นภาษาของคุณ การแบ่งปันกับคนอื่นจะช่วยให้คุณได้รับความน่าเชื่อถือและเป็นคนที่น่าสนใจ และประหยัดเงินเดือนละ 200 หยวนเพื่อเข้าคอร์สอบรมต่างๆ เมื่อคุณรายได้เพิ่ม ให้กันเงินส่วนนี้เพิ่มขึ้นและเข้าร่วมคอร์สอบรมในระดับที่สูงขึ้น เมื่อคุณเข้าร่วมคอร์สอบรมที่ดีมันจะไม่ช่วยแค่ให้คุณมีความรู้ที่ดี แต่ยังจะช่วยให้คุณเจอเพื่อนที่มีความคิดเหมือนกันซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆ

เงินส่วนที่สี่ 200 หยวน

เก็บไว้ใช้สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศในวันหยุด ให้รางวัลแก่ตนเองโดยการเดินทางไปต่างประเทศอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อการเติบโตของประสบการณ์ในชีวิตอย่างต่อเนื่อง พักในโฮสเตลราคาประหยัด ในเวลาไม่กี่ปีผ่านไปคุณจะเดินทางไปหลายประเทศและจะมีประสบการณ์หลากหลาย ใช้ประสบการณ์เหล่านี้เป็นการเพิ่มพลังใหม่ให้ตัวเองมีแรงขับดันในการทำงานต่อไป

เงินส่วนที่ห้า 500 หยวน

เอาไว้ลงทุน ประหยัด 500 หยวนเก็บไว้ในธนาคารเพื่อเป็นทุนในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เงินทุนสามารถใช้ในการเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ การเริ่มจากธุรกิจเล็กๆ มักจะดีมากๆในการเริ่มต้น ไปหาผู้ค้าส่งและหาสินค้ามาขาย แม้คุณจะขาดทุน คุณจะเสียเงินไม่มาก อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเริ่มหาเงิน มันจะช่วยเพิ่มความมั่นใจกับความกล้า และได้เรียนรู้ ประสบการณ์ใหม่ของการเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ เมื่อมีรายได้มากพอคุณสามารถเริ่มมองหาแผนการลงทุนระยะยาว และลงทุนในหลักทรัพย์ระยะยาวด้วยเงินของคุณและครอบครัวคุณ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะเงินจำนวนนี้ของคุณไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตคุณตกต่ำลง

อย่างไรก็ดี หลังจากคุณดิ้นรนเป็นเวลาผ่านไปหนึ่งปี ถ้าเงินเดือนคุณยังคง 2,000 หยวน นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้มีความก้าวหน้าขึ้นเลย คุณควรจะสำนึกละอายใจและสั่งสอนตัวเองด้วยการไปซื้อซุปเปอร์มาร์เก็ต และซื้อเต้าหู้ที่แข็งที่สุด แล้วเอามันปาใส่หัวตัวเองเพราะคุณสมควรโดนแบบนั้น

แต่ถ้าถึงตอนนั้นรายได้ต่อเดือนคุณอยู่ที่ 3,000 หยวน คุณต้องยังคงทำงานหนัก คุณต้องหางานเสริม จะเป็นการดีถ้าเป็นงานขาย ทำให้การขายเป็นเรื่องท้าทาย เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่คุณจะได้เรียนรู้ศิลปะในการขายและความรู้อย่างลึกซึ้งซึ่งสามารถนำไปใช้กับอาชีพคุณได้ เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเริ่มจากการเป็นนักขายที่ดี พวกเขามีความสามารถในการขายความฝันและวิสัยทัศน์ คุณจะพบผู้คนมากมายที่มีคุณค่าต่ออาชีพของคุณในภายหลัง เมื่อเริ่มขายคุณจะได้เรียนรู้ว่าอะไรขายได้และอะไรขายไม่ได้ ใช้ไหวพริบในการตรวจสอบตลาดเป็นวิธีในการดำเนินธุรกิจของคุณและหาผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นผู้ชนะในอนาคต

ซื้อเสื้อผ้าและรองเท้าให้น้อยที่สุด คุณสามารถซื้อมันทั้งหมดได้เมื่อคุณรวย ประหยัดเงินของคุณและซื้อของขวัญให้คนที่คุณรักและบอกพวกเค้าถึงแผนการและเป้าหมายทางการเงินของคุณ บอกพวกเค้าว่าทำไมคุณถึงต้องประหยัดอดออม บอกเค้าถึงความพยายาม ทิศทางที่คุณกำลังจะไป และความฝันต่างๆ ของคุณ

นักธุรกิจทุกคนต้องให้คุณเสนอตัวเองต่อพวกเขาในการทำงานนอกเวลาในโอกาสต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาความสามารถของคุณ และคุณจะได้พัฒนาทักษะในการเจรจาของคุณและในไม่ช้าคุณจะใกล้เป้าหมายทางการเงิน เมื่อเข้าปีที่สองรายได้ของคุณควรจะเพิ่มเป็น 5,000 หยวน อย่างน้อยสุดก็ควรจะเป็น 3,000 หยวน มิฉะนั้นคุณจะไม่สามารถสู้กับเงินเฟ้อได้

ไม่ว่าคุณจะหารายได้เพิ่มมาขึ้นเท่าไร จำไว้เสมอว่าแบ่งเงินเป็นห้าส่วน ทำตัวเองให้เป็นประโยชน์อยู่เสมอ จงใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นไปกับการสร้างเครือข่าย เมื่อคุณรู้จักผู้คนมากขึ้นเครือข่ายของคุณขยายมากขึ้นคุณจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จงใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นไปกับการเรียนรู้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเองมากขึ้น จงใช้เงินเพิ่มขึ้นไปกับการท่องเที่ยวในวันหยุดในที่ใหม่ที่ยังไม่เคยไป จงเพิ่มการลงทุนไปกับอนาคตคุณซึ่งมันจะสร้างรายได้ให้คุณอย่างมหาศาล

รักษาสมดุลนี้ไว้ และคุณจะเริ่มมีเหลือกินเหลือใช้เรื่อยๆ คุณกำลังเดินทางมาถูกทางสำหรับการวางแผนในชีวิต ร่างกายของคุณจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณได้รับสารอาหารและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อนจะมีมากมายคุณจะสามารถสร้างคุณค่าจากเครือข่ายของเพื่อนได้ในเวลาเดียวกัน คุณจะได้รับโอกาสในการฝึกฝนตัวเองในทักษะระดับสูง และคุณจะได้รับผิดชอบโครงการที่ใหญ่กว่าเดิม โอกาสที่ใหญ่กว่าเดิม ในไม่ช้าคุณจะตระหนักว่าคุณมีความฝันมากมาย ซื้อบ้าน ซื้อรถ และเตรียมค่าเล่าเรียนของลูกของคุณ

ชีวิตและเส้นทางชีวิตสามารถออกแบบได้ซึ่งจะนำไปสู่ความสุข คุณควรเริ่มแผนตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อคุณจนให้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านให้น้อยกว่าการใช้เวลาอยู่ข้างนอก เมื่อคุณรวยอยู่ที่บ้านมากขึ้นอยู่ข้างนอกให้น้อยลง นี่คือศิลปะการใช้ชีวิต เมื่อคุณจนให้ใช้จ่ายเงินไปกับผู้อื่น แต่เมื่อคุณรวยใช้เงินไปกับตัวคุณเอง คนส่วนใหญ่ทำตรงกันข้ามกัน

เมื่อคุณจนจงทำดีกับผู้อื่นอย่ามัวแต่คิดเรื่องผลประโยชน์ เมื่อคุณรวยคุณต้องเรียนรู้ที่จะทำให้ผู้อื่นดีต่อคุณ คุณต้องเรียนรู้ที่จะทำตัวเองให้ดีกว่าเป็นคนที่ดีกว่าที่เป็น เมื่อคุณจนคุณต้องผลักดันตัวเองออกมาในที่คนอื่นสามารถจะมองเห็นคุณได้เพื่อให้คนอื่นใช้งานและทักษะที่คุณมี เมื่อคุณรวยคุณต้องรู้จักปกป้องตัวเองอย่าปล่อยให้ใครมาหลอกใช้คุณได้ง่ายๆ เป็นความซับซ้อนในเส้นทางของชีวิตที่หลายคนยังไม่เข้าใจ

เมื่อคุณจนให้คุณใช้เงินเพื่อทำให้ผู้อื่นรู้จักคุณ แต่เมื่อคุณรวยจงอย่าโอ้อวดว่าคุณรวย ใช้จ่ายเงินของคุณในการซื้อของอย่างเงียบๆ เมื่อคุณจนคุณต้องเป็นคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเมื่อคุณรวยคุณต้องไม่ถูกมองว่าเป็นคนฟุ่มเฟือย ชีวิตของคุณจะวนกลับมาสู่สามัญคุณควรจะอยู่อย่างเรียบง่ายเมื่อคุณมาถึงจุดนี้

ไม่มีสิ่งใดผิดเมื่อคุณยังหนุ่มสาว คุณไม่ต้องกลัวว่าคุณจน คุณต้องรู้วิธีลงทุนในตัวคุณเองที่จะเพิ่มปัญญาและระดับความสำเร็จ คุณต้องรู้ว่าอะไรจำเป็นและไม่สำเป็นต่อชีวิต คุณต้องรู้ว่าอะไรควรหลีกเลี่ยงและไม่จ่ายเงินฟุ่มเฟือยไปกับมัน นี่คือวินัยที่จำเป็นอย่างยิ่ง พยายามหลีกเลี่ยงในการใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อเสื้อหลายๆ ชุดแต่รู้จักเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ดูดีเพียงไม่กี่ชุด พยายามกินข้าวนอกบ้านให้น้อยที่สุด ถ้าคุณกินข้างนอกบ้านคุณต้องแน่ใจว่าคุณซื้อมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นที่คุณจ่าย คุณจ่ายเพื่อกินกับผู้คนที่มีความฝันใหญ่กว่า ทำงานหนักกว่าคุณ

เมื่อการทำมาหากินของคุณไม่เป็นเรื่องที่ต้องกังวลอีกต่อไป ใช้เงินที่เหลือไล่ตามความฝันของคุณ สยายปีกของคุณและกล้าที่จะฝันทำให้คุณแน่ใจว่าชีวิตของคุณเป็นสิ่งวิเศษ

ทฤษฎีที่มีชื่อเสียงจากฮาร์วาร์ด ความแตกต่างของโชคชะตาของแต่ละคนถูกตัดสินจากสิ่งที่เค้าจ่ายในเวลาว่างระหว่าง 20.00 น. ถึง 22.00 น. ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนี้ในการเรียนรู้ คิด และเข้าร่วมในการเข้าร่วมการบรรยายหรือการสัมมนาที่มีความหมาย ถ้าคุณทำแบบนี้สักปีสองปี ความสำเร็จจะเข้ามาหาคุณ

ไม่สำคัญว่าคุณหาเงินได้เท่าไร จำไว้ว่าแบ่งเงินเป็นห้าส่วน ดูแลตัวเองรักษารูปร่างให้ดีอยู่เสมอ ลงทุนในการเข้าสังคมพบผู้คนใหม่อย่างต่อเนื่องและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้จากคนเหล่านี้ การขยายเครือข่ายทางสังคมจะทำให้รายได้คุณเพิ่มขึ้น เดินทางทุกปีในที่แตกต่างกันออกไป และคอยติดตามการพัฒนาการล่าสุดของโลกอุตสาหกรรมด้วย ถ้าคุณทำตามแผนนี้อย่างขยันขันแข็ง คุณจะมีเงินทุนเหลือมากมาย

อะไรที่ผ่านไปแล้วในอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านไป อย่ามัวจมอยู่กับความผิดพลาด ไม่จำเป็นที่จะมัวมานั่งเสียใจกับสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว ทุกคนเคยทำผิดพลาด และคุณจะได้เรียนรู้จากมัน และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่พลาดซ้ำอีก เมื่อคุณพลาดโอกาสอย่ามัวเศร้าเสียใจ มีโอกาสใหม่รออยู่ข้างหน้าเสมอ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยิ้มรับกับความทุกข์และความสุข ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ มันบอกว่าคุณเป็นคนที่มีความใจกว้าง

เมื่อคุณโดนคนอื่นพยายามเอารัดเอาเปรียบ แล้วคุณยัง นั่นบอกถือว่าคุณเป็นคนที่รู้จักการให้อภัยกัน เป็นคนอ่อนโยน หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันได้

ในโลกใบนี้ยังมีคนอีกมากมายที่ดิ้นรน ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะได้เงินมาใช้จ่ายในแต่ละวัน และนี่ก็คืออีกหนึ่งบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากมหาเศรษฐีชื่อดัง ที่ชื่อว่า ลี กา ซิง

เรียบเรียงส่วนหนึ่งโดย : Postsod, hostingrc