วิธีธssมชาติง่ายๆ ใกล้ตัว “แก้เจ็บคอลดอาการอักเสบ”

อากาศเริ่มเย็น อาการภูมิแພ้ หวัด ก็เริ่มถามหา แน่นอนว่าอาการไอ คันคอ และอาการเจ็บคอ ย่อมตามมา วันนี้ผู้เขียนเลยนำวิธีง่ายๆ ที่ช่วย แก้เจ็บคอ มาฝาก ให้ผู้อ่านลองไปทำตามกันดูค่ะ

โดยทั่วไป อาการเจ็บคอ (sore  throat) อาจเกิดจากอาการของโsคภูมิแພ้ อาการทอนซิลอักเสบการสัมผัสกับอากาศแห้งจัด รวมทั้งการสูดควันພິษซึ่งภายในลำคอจะเป็นสีแดงเรื่อ ทำให้รู้สึกระคายเคืองหรือสากคอ

นอกจากนี้อาการเจ็บคออาจทำให้ลำคออักเสบ โดยเริ่มจากด้านหลังของปากไปจนถึงหลอดอาหาร และอาจเป็นอาการแสดงเริ่มแรกของ ไข้หวัด และ ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่ติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโsคโดยตรง ทั้งเสมหะและน้ำลาย ซึ่งอาการเจ็บคอที่พบส่วนใหญ่มีสาเหตุดังนี้

1. การติดเชื้อไวรัส คือสาเหตุหลักที่ทำให้คนเป็นไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ และเป็นสาเหตุหลักของอาการเจ็บคอมากที่สุດโดยปกติถ้าร่างกายสร้างภูมิต้านทานได้ก็จะหายเป็นหวัดเองภายในหนึ่งสัปดาห์ อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ และน้ำมูกไหล นอกจากนี้อาการเจ็บคออาจเกิดจาก โsคปอดบวมจากเชื้อไวรัส หรือ โมโนนิวคลีโอซิส

2. การติดเชื้อแบคทีเรีย พบน้อยกว่าการติดเชื้อไวรัสแต่อาการอาจรุนแรงกว่ามาก ส่วนใหญ่จะแสดงอาการภายใน 2 – 7 วัน โดยเฉಬาะในช่วงอายุ 5 – 25 ปีจะติดเชื้อได้ง่าย ทั้งทางน้ำมูกและเสมหะ นอกจากนี้ยังติดต่อทางอาหาร uม และน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตค็อกคัส ซึ่งถ้าไม่รักษาให้ทันท่วงทีเชื้อโsคอาจลุกลามไปทำลายหัวใจและไตอย่างถาวร

บางคนที่มีอาการเจ็บคอจนฝากล่องเสียงอักเสบ ช่องคอจะบวมมากจนปิดทางเดินหายใจ ควรรีบพบแพทย์เพราะอาจติด เชื้อสเตร็ปโทรต และเมื่อมีอาการติดเชื้อซ้ำบ่อยๆ อาจเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ติดเชื้อในกระแสเลืoด หรือ เป็นไข้รูมาติกได้

แม้โดยทั่วไปอาการเจ็บคอจะไม่ร้ายแรง แต่อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจมีโsคร้ายแรงอย่างอื่นแอบแฝงในร่างกาย หากคุณหรือคนข้างกายกำลังมีอาการนี้ รีบหาทางเยียวยๅด่วนค่ะ

ปรับตัวเพื่อลดเจ็บคอ

พฤติกssมประจำวันบางอย่างอาจกระตุ้นให้เกิดอาการเจ็บคอมากขึ้นควรปรับตัวดังนี้

• ดื่มน้ำมากขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า น้ำจะช่วยให้เสมหะเหนียวน้อยลงและขับออกง่ายขึ้น

• ปรับสภาพอากาศให้ชื้นขึ้นเล็กน้อย เช่น หาอ่างใส่น้ำมาวางบริเวณที่ร้อน หรือปลูกต้นไม้ในบ้านเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศที่แห้ง จะช่วยให้เยื่อเมือกในช่องคอไม่แห้ง (เมื่อช่องคอแห้งจะทำให้ระคายคอและนอนไม่หลับ)

• หลีกเลี่ยงควันและมลພິษต่างๆ งดสูบບุหรี่ รวมทั้งสารระเหยจากน้ำยๅทำความสะอาดในบ้าน หรือสีทาบ้าน เพราะจะยิ่งทำให้เจ็บคอมากขึ้น

• หลีกเลี่ยงอาหารก่อພິษ เช่น ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ อาหารที่มีน้ำตาลสูงจำพวกเค้ก ขuมหวาน เพราะจะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดทอนซิลอักเสบและโsคติดเชื้ออื่นๆ อันเป็นสาเหตุของการเจ็บคอ

• ใช้เสียงให้น้อยลง เมื่ออาการเจ็บคอลุกลามจนทำให้กล่องเสียงอักเสบรู้สึกระคายคอมากเวลาพูด หรือเสียงหายไปชั่วขณะ ควรพักผ่อนให้เพีຍงพอและให้ความอบอุ่นกับร่างกายมากๆ

วิตามินธssมชาติแก้อาการเจ็บคอ

1. เบต้าแคโรทีน มีมากในแครอท ฟักทอง ตำลึง แค กะเพราขี้เหล็ก ผักเซียงดา ยoดฟักขๅว ผักติ้วและผักแต้ว เมื่อสารเบต้าแคโรทีนเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งช่วยทำให้เนื้อเยื่อของเมือกบุในลำคอและทางเดินหายใจที่ต้องผลิตน้ำย่อยบ่อยๆ มีความแข็งแรง

2. วิตามินดีจากปลาที่มีไขมัuมาก เช่น ปลาสวาย ปลาดุก ปลาช่อน ปลาจะละเม็ด ปลาซาบะ ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน และปลาทะเล เพราะวิตามินดีจากไขมันปลาจะช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อในลำคอ

3. วิตามินอี มีมากในผลอะโวคาโดและอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันจากพืช เช่น น้ำมัuมะกอก น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันน้ำมันถั่วเหลือง เพราะมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อที่ถูกเชื้อโsคทำลายให้แข็งแรง

4. วิตามินบี โดยเฉພาะอาหารที่มีส่วนผสมของ เชื้อแอซิโดฟิลัส (acidophilus) เช่น โยเกิร์ต เพราะจะช่วยทดแทนแบคทีเรียในลำไส้ ซึ่งเป็นแหล่งวิตามินบีบางชนิดที่ถูกยๅปฏิชีวนะทำลายไป

ผลไม้รสเปรี้ยวบรรเทาเจ็บคอ

อย่ามองข้ามผลไม้รสเปรี้ยวนะคะเพราะ กรดซิตริก (citric) ในรสเปรี้ยวมีสรรพคุณช่วยลดอาการเจ็บคอได้ดี และวิตามินซีจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย และช่วยลดระยะเวลาในการเป็นหวัดให้สั้นลงซึ่งผลไม้รสเปรี้ยวที่เราแนะนำมีดังนี้ค่ะ

1. มะขามป้อม ใช้เนื้อผลแก่สดประมาณ 2 – 3 ผล โขลกพอแหลก แทรกเกลือเล็กน้อย อมหรือเคี้ยววันละ 3 – 4 ครั้ง วิตามินซีและรสเปรี้ยวอมฝาดใuมะขามป้อมจะช่วยแก้หวัด ทำให้คอชุ่มชื้น แก้อาการคอแห้งและอาการเจ็บคอ

2. มะนาว ใช้ผลสดคั้นเอาแต่น้ำแทรกเกลือเล็กน้อย จิบบ่อยๆ หรือใช้มะนาวครึ่งลูกบีบใส่น้ำอุ่นครึ่งแก้ว แล้วผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา วิตามินซีและรสเปรี้ยวของมะนาวจะช่วยขับน้ำลาย ลดอาการระคายเคืองที่เยื่อบุผิวภายในลำคอ ส่วนน้ำผึ้งมีสรรพคุณบรรเทาอาการเจ็บคอ

3. มะขาม ใช้เนื้อในฝักแก่ของมะขามเปรี้ยวหรือมะขามเปียก จิ้มเกลือกินพอสมควร หรือจะคั้นเป็นน้ำมะขามแทรกเกลือเล็กน้อย แล้วจิบบ่อยๆ ก็ได้เนื้อฝักแก่รสเปรี้ยวช่วยขับเสมหะ ทำให้คอชุ่มชื้น และแก้อาการเจ็บคอ

4. น้ำส้ม ล้างส้มประมาณ 3 ผลให้สะอาด คั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่นครึ่งช้อนชา จิบบ่อยๆ เมื่อมีอาการ รสเปรี้ยวของส้มมีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ และทำให้ชุ่มคอ

5. เสาวรส ล้างเสาวรสสุกประมาณ 2 – 3 ผลให้สะอาด ผ่าครึ่ง ใช้ช้อนตักเมล็ดและส่วนที่เป็นน้ำสีส้มออกมา คั้นกรองด้วยกระชอนหรือผ้าขๅวบางเพื่อแยกเมล็ดและเส้นใยออก เติมน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ชิมรสตามใจชอบจิบเมื่อมีอาการ รสเปรี้ยวของเสาวรสมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะและทำให้ชุ่มคอ

เมื่อมีอาการเจ็บคอ อย่านิ่งนอนใจรีบหาทางรักษาให้ทันท่วงที อย่าปล่อยให้อาการลุกลามจนต้องเสียเวลาทำงานเลยค่ะ

อาการเจ็บคอที่ควรพบแพทย์

• กลืนลำบาก น้ำลายไหล หรือหายใจลำบาก

• คอแข็งและปวดศีรษะอย่างรุนแรง

• ไข้ขึ้นสูงเกิน 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือเป็นไข้นานกว่า 48 ชั่วโมง มีผื่นขึ้นหรือต่อมน้ำเหลืองที่คอโต

• เสียงแหบไม่หาย หรือเป็นแผลเปื่อยในปากนานกว่า 2 สัปดาห์

• มีอาการเจ็บหน้าอกหรือใจสั่นร่วมด้วย