1. กินสลัดผักในมื้อเย็นเป็นประจำ
มื้ออาหารเย็นเป็นมื้อที่สาวๆ หลายคนเสี่ยงน้ำหนักขึ้นมากที่สุด และเป็นอาหารที่ทานอะไรก็อร่อยแบบหยุดไม่อยู่อีกด้วย ดังนั้น จงตั้งสติก่อนทานให้ดีๆ นะคะสำหรับมื้อนี้ ขอแนะนำให้สาวๆ เลือกทานสลัดผักที่ราดน้ำสลัดไขมันต่ำก่อนเลยอันดับแรก จากนั้นจึงทานอาหารหลักตามปกติ แต่เน้นว่าอาหารมื้อเย็นที่ทานหลังจากสลัดนั้นจะต้องแคลอรีต่ำ ไม่มีแป้ง ไขมันและน้ำตาลเยอะนะคะ ยิ่งหากหลีกเลี่ยงไปได้ยิ่งดีมากทีเดียว และหลังจาก 6 โมงเย็นหรือ 1 ทุ่มไปแล้วก็ไม่ควรทานอะไรแล้วทั้งสิ้น แบบนี้ลดน้ำหนักได้สำเร็จรวดเร็วแน่นอน
2. ดื่มน้ำก่อนกินอาหารทุกครั้ง
น้ำเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง หากคุณดื่มน้ำก่อนกินอาหารมื้อหลักทุกครั้งจะส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญยังช่วยควบคุมอาหารไม่ให้เราหิวโหยจนเผลอกินเยอะเกินไปได้ดีอีกด้วย
3. กินขนมที่ชอบแค่เล็กน้อยพอ
อาจจะมีกันบ้างในยามลดน้ำหนัก เวลาเราหิวโหยของโปรดสุดๆ เราก็ย่อมหักห้ามใจไม่กินไม่ไหวไม่ได้แน่ๆ แก้วใสว่าเราจะเคร่งกับชีวิตเกินไปมันก็ทำให้เราท้อใจในการลดน้ำหนักได้เหมือนกันจริงมั้ย ดังนั้น อนุญาตให้กัดขนมที่ชอบนั้นๆ สัก 2-3 คำเล็กๆ พอค่ะ เอาแค่พอหอมปากหอมคอ แล้วเก็บอีกครึ่งที่เหลือไว้ทานในวันอื่นๆ ต่อไป ถือเป็นรางวัลให้ตัวเราพอมีแรงใจลดน้ำหนักอย่างค่อยๆ เป็นไปด้วย เพราะการหักดิบเสียทีเดียว แก้วใสเข้าใจค่ะว่ามันทำใจได้ยากมาก และวันอื่นๆ เราอาจจะเผลอตบะแตกท้อแท้จนไม่อยากลดน้ำหนักอีกเลยก็เป็นได้
4. เติมผักในอาหารจานหลักทุกมื้อ
ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานด่วนนอกบ้านหรืออาหารที่เราทำทานเองทุกมื้อ แนะนำให้เติมผักต่างๆ ลงไปให้ได้ปริมาณครึ่งต่อครึ่งกันไปเลยค่ะ ยิ่งทานผักได้เป็น 2 เท่ากว่าอาหารประเภทแป้ง ไขมันและน้ำตาลมากเท่าไร น้ำหนักก็ยิ่งลดลงสมใจมากขึ้นเท่านั้น
5. กินถั่วต่างๆ ยามท้องว่าง
ปกติยามท้องว่าง เรามักจะหิวโหยขนมหวานต่างๆ ทำให้เรามีพฤติกรรมกินจุบจิบระหว่างมื้อและนี่ก็คือสาเหตุหลักที่ทำให้อ้วนโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง เพราะฉะนั้น แนะนำให้สาวๆ หันมากินเมล็ดถั่วกันยามท้องว่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถั่วอบต่างๆ แบบไม่ใส่เกลือหรือเมล็ดธัญพืช รับรองค่ะว่าของทานเล่นแบบนี้ไม่ทำให้อ้วนแน่นอน แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
