12 ต้นไม้ที่ควรปลูกในบ้าน ช่วยกรองมลพิษ ปอดสะอาด แบบไม่ต้องมีเครื่องฟอก
หลายคนชอบปลูกต้นไม้ แต่ต้นไม้บ้างต้นถ้าปลูกผิดที่ ผิดเวลา ก็อาจส่งผลเสียต่อเราได้ ใครที่สุขภาพไม่ค่อยดี อยากจะสูดอากาศสดชื่นๆ หันมาปลูกต้นไม้เหล่านี้ในบ้านกันเถอะค่ะ จะช่วยให้บ้านของคุณมีอากาศสดชื่นและส่งผลดีต่อสุขภาพของสมาชิกครอบครัวได้
1. ว่านหางจระเข้
นอกจากเจลใสๆในว่านหางจระเข้จะสามารถบรรเทาแผลไฟไหม้ แผลพุพอง และลดริ้วรอยด่างดำต่างๆได้เป็นอย่างดีแล้ว การปลูกว่านหางจระเข้ยังเหมาะที่จะนำไปไว้ในบ้านเพื่อฟอกอากาศ พร้อมกับดูดสารเคมีต่าง ๆ ที่ลอยวนอยู่ในบ้านเราด้วย
เคล็ดลับ ต้นไม้ชนิดนีเสามารถบอกว่าในบ้านมีอากาศเป็นพิษมากน้อยแค่ไหนได้ด้วย โดยดูจากลำต้นของว่านหางจระเข้นั่นเอง หากเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาล หมายความว่าอากาศเริ่มแย่แล้ว
2. ลิ้นมังกรเขียว
เป็นต้นไม้ที่ไม่ค่อยชอบแสงแดด และแม้จะไม่รดน้ำก็ยังอยู่รอดได้แบบชิล ๆ แถมยังสามารถดูดคาร์บอนไดออกไซด์ตอนกลางวัน แล้วคายออกซิเจนตอนกลางคืนได้อีกด้วย ดังนั้น จึงเป็นต้นไม้ที่เหมาะที่จะปลูกเพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ในบ้านจริงๆ
3. พลูด่าง
เป็นไม้เลื้อยโตไวที่ไม่ค่อยชอบแดด แถมมีดีในเรื่องการช่วยกำจัดสารฟอร์มาลดีไฮด์ภายในบ้านได้ด้วย
เคล็ดลับ แนะนำให้คุณแขวนพลูด่างในห้องครัว ห้องน้ำ หรือในห้องรับแขกก็ได้ แต่ต้องอย่าลืมเติมน้ำให้พลูด่างบ่อย ๆ นะคะ
4. ต้นวาสนา
ลองปลูกต้นวาสนาในกระถาง วางในจุดที่แสงแดดส่องรำไร ต้นวาสนาจะช่วยดูดสารพิษต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสารไซลีนที่แฝงตัวอยู่ในพลาสติก ฟอร์มาลดีไฮด์, โทลูอีนที่แผงอยู่ตามสีทาบ้านและสีเคลือบเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย, เบนซิน และไทรคลอโรเอทิลีน ได้
5. เศรษฐีเรือนใน
ต้นไม้โตไวที่ไม่ต้องดูแลมาก แต่สามารถช่วยดูดสารพิษในอากาศ คืนความปลอดโปร่งภายในบ้าน ได้เป็นอย่างดี
เคล็ดลับ ควรวางต้นไม้ชนิดนี้ห่างจากเจ้าแมวเหมียวสักหน่อย เพราะเศรษฐีเรือนในอาจมีพิษกับเจ้าเหมียวได้ ฉะนั้นอาจจะต้องแขวนต้นเศรษฐีเรือนในไว้ในตำแหน่งที่ปลอดภัยจากสี่ขา ไม่ให้มันเผลอมากัดกินใบได้
6. เดหลี
เดหลีเป็นไม้ในร่ม ใบสีเขียวเข้มเป็นมันวาว สามารถออกดอกได้แม้จะเจอเพียงแค่แสงจากหลอดไฟนีออนเท่านั้น แถมยังให้ดอกสีขาวแกมเหลืองสวยงามด้วย
ต้นไม้นี้จึงนิยมปลูกในบ้านเพราะเป็นพืชที่ดูดสารพิษจำพวกแอลกอฮอล์ อาซีโตน ไตรคลอไรเอทีรีน เบนซีน และฟอร์มาลดีไฮด์ได้ รวมทั้งยังช่วยฟอกอากาศได้ดีด้วยเช่นกัน
7. มรกตแดง
มรกตแดงเป็นพืชที่มีคุณสมบัติช่วยดูดสารพิษได้ดีที่สุดในบรรดาพันธุ์ไม้ตระกูลฟิโลเดนดรอนด้วยกันเอง อีกทั้งยังไม่มีปัญหาเรื่องพืชรบกวน ดูแลง่ายตามแบบฉบับไม้ปลูกในร่ม
8. เบญจมาศ
สีเหลืองสดใสจากดอกเบญจมาศช่วยเพิ่มสีสันภายในบ้านได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังลดมลพิษอย่างกลิ่นจากสีทาบ้าน กาว พลาสติก และผงซักฟอก ในบ้านได้ด้วย
9. กุหลาบพันปี
เป็นพันธุ์พืชอีกหนึ่งชนิดที่เป็นตัวช่วยในการดูดซับกลิ่นต่าง ๆ ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลิ่นเหม็นจากเฟอร์นิเจอร์ไม้อัด ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากโฟม และพลาสติก
10. ปาล์มไผ่
ปาล์มไผ่สามารถบรรเทากลิ่นเบนซิน น้ำยาฆ่าแมลง หรือกลิ่นซักแห้งได้ แค่ลองนำปาล์มไผ่มาวางไว้ใกล้ ๆ ตำแหน่งที่มีปัญหา รับรองเลยว่ากลิ่นเหม็นฉุนเหล่านี้ รวมทั้งสารเคมีแอบแฝงอย่างไตรคลอโรเอทิลีนก็จะค่อย ๆ สูญหายไปทีละนิดอย่างแน่นอน
ถ้านำต้นไม้เหล่านี้มาอยู่ในบ้าน บ้านของคุณก็จะมีอากาศที่บริสุทธิ์ขึ้นได้อย่างแน่นอน นับเป็นวิธีง่ายๆแบบไม่ต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศเลยสักนิด แถมยังเพิ่มสีเขียวให้ดูสบายตามากขึ้นกว่าเดิมด้วย
หลายคนชอบปลูกต้นไม้ แต่ต้นไม้บ้างต้นถ้าปลูกผิดที่ ผิดเวลา ก็อาจส่งผลเสียต่อเราได้ ใครที่สุขภาพไม่ค่อยดี อยากจะสูดอากาศสดชื่นๆ หันมาปลูกต้นไม้เหล่านี้ในบ้านกันเถอะค่ะ จะช่วยให้บ้านของคุณมีอากาศสดชื่นและส่งผลดีต่อสุขภาพของสมาชิกครอบครัวได้
1. ว่านหางจระเข้
นอกจากเจลใสๆในว่านหางจระเข้จะสามารถบรรเทาแผลไฟไหม้ แผลพุพอง และลดริ้วรอยด่างดำต่างๆได้เป็นอย่างดีแล้ว การปลูกว่านหางจระเข้ยังเหมาะที่จะนำไปไว้ในบ้านเพื่อฟอกอากาศ พร้อมกับดูดสารเคมีต่าง ๆ ที่ลอยวนอยู่ในบ้านเราด้วย
เคล็ดลับ ต้นไม้ชนิดนีเสามารถบอกว่าในบ้านมีอากาศเป็นพิษมากน้อยแค่ไหนได้ด้วย โดยดูจากลำต้นของว่านหางจระเข้นั่นเอง หากเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาล หมายความว่าอากาศเริ่มแย่แล้ว
2. ลิ้นมังกรเขียว
เป็นต้นไม้ที่ไม่ค่อยชอบแสงแดด และแม้จะไม่รดน้ำก็ยังอยู่รอดได้แบบชิล ๆ แถมยังสามารถดูดคาร์บอนไดออกไซด์ตอนกลางวัน แล้วคายออกซิเจนตอนกลางคืนได้อีกด้วย ดังนั้น จึงเป็นต้นไม้ที่เหมาะที่จะปลูกเพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ในบ้านจริงๆ
3. พลูด่าง
เป็นไม้เลื้อยโตไวที่ไม่ค่อยชอบแดด แถมมีดีในเรื่องการช่วยกำจัดสารฟอร์มาลดีไฮด์ภายในบ้านได้ด้วย
เคล็ดลับ แนะนำให้คุณแขวนพลูด่างในห้องครัว ห้องน้ำ หรือในห้องรับแขกก็ได้ แต่ต้องอย่าลืมเติมน้ำให้พลูด่างบ่อย ๆ นะคะ
4. ต้นวาสนา
ลองปลูกต้นวาสนาในกระถาง วางในจุดที่แสงแดดส่องรำไร ต้นวาสนาจะช่วยดูดสารพิษต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสารไซลีนที่แฝงตัวอยู่ในพลาสติก ฟอร์มาลดีไฮด์, โทลูอีนที่แผงอยู่ตามสีทาบ้านและสีเคลือบเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย, เบนซิน และไทรคลอโรเอทิลีน ได้
5. เศรษฐีเรือนใน
ต้นไม้โตไวที่ไม่ต้องดูแลมาก แต่สามารถช่วยดูดสารพิษในอากาศ คืนความปลอดโปร่งภายในบ้าน ได้เป็นอย่างดี
เคล็ดลับ ควรวางต้นไม้ชนิดนี้ห่างจากเจ้าแมวเหมียวสักหน่อย เพราะเศรษฐีเรือนในอาจมีพิษกับเจ้าเหมียวได้ ฉะนั้นอาจจะต้องแขวนต้นเศรษฐีเรือนในไว้ในตำแหน่งที่ปลอดภัยจากสี่ขา ไม่ให้มันเผลอมากัดกินใบได้
6. เดหลี
เดหลีเป็นไม้ในร่ม ใบสีเขียวเข้มเป็นมันวาว สามารถออกดอกได้แม้จะเจอเพียงแค่แสงจากหลอดไฟนีออนเท่านั้น แถมยังให้ดอกสีขาวแกมเหลืองสวยงามด้วย
ต้นไม้นี้จึงนิยมปลูกในบ้านเพราะเป็นพืชที่ดูดสารพิษจำพวกแอลกอฮอล์ อาซีโตน ไตรคลอไรเอทีรีน เบนซีน และฟอร์มาลดีไฮด์ได้ รวมทั้งยังช่วยฟอกอากาศได้ดีด้วยเช่นกัน
7. มรกตแดง
มรกตแดงเป็นพืชที่มีคุณสมบัติช่วยดูดสารพิษได้ดีที่สุดในบรรดาพันธุ์ไม้ตระกูลฟิโลเดนดรอนด้วยกันเอง อีกทั้งยังไม่มีปัญหาเรื่องพืชรบกวน ดูแลง่ายตามแบบฉบับไม้ปลูกในร่ม
8. เบญจมาศ
สีเหลืองสดใสจากดอกเบญจมาศช่วยเพิ่มสีสันภายในบ้านได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังลดมลพิษอย่างกลิ่นจากสีทาบ้าน กาว พลาสติก และผงซักฟอก ในบ้านได้ด้วย
9. กุหลาบพันปี
เป็นพันธุ์พืชอีกหนึ่งชนิดที่เป็นตัวช่วยในการดูดซับกลิ่นต่าง ๆ ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลิ่นเหม็นจากเฟอร์นิเจอร์ไม้อัด ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากโฟม และพลาสติก
10. ปาล์มไผ่
ปาล์มไผ่สามารถบรรเทากลิ่นเบนซิน น้ำยาฆ่าแมลง หรือกลิ่นซักแห้งได้ แค่ลองนำปาล์มไผ่มาวางไว้ใกล้ ๆ ตำแหน่งที่มีปัญหา รับรองเลยว่ากลิ่นเหม็นฉุนเหล่านี้ รวมทั้งสารเคมีแอบแฝงอย่างไตรคลอโรเอทิลีนก็จะค่อย ๆ สูญหายไปทีละนิดอย่างแน่นอน
ถ้านำต้นไม้เหล่านี้มาอยู่ในบ้าน บ้านของคุณก็จะมีอากาศที่บริสุทธิ์ขึ้นได้อย่างแน่นอน นับเป็นวิธีง่ายๆแบบไม่ต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศเลยสักนิด แถมยังเพิ่มสีเขียวให้ดูสบายตามากขึ้นกว่าเดิมด้วย