หนึ่งพันบาท มอบให้แม่ทุกเดือน แม้ไม่มีก็ต้องให้ เพราะผลที่ได้มันคุ้มค่า

หนึ่งพันบาท มอบให้แม่ทุกเดือน แม้ไม่มีก็ต้องให้ เพราะผลที่ได้มันคุ้มค่า

พ่อแม่คือคนที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เรายังเล็ก กว่าท่านจะเลี้ยงให้โต ส่งเสียให้เรียนหนังสือ กว่าที่เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ท่านเหนื่อยมากเพียงท่าน ในเมื่อเรานั้นประสบความสำเร็จแล้ว ก็ควรที่จะตอบแทนบุญคุณท่านบ้าง

เชื่อว่าการที่เราได้ตอบแทนพระในบ้าน จะทำให้ชีวิตของเรานั้น มีแต่ความเจริญ บางคนทำงานแต่ไม่เคยดูแลท่านเลย อ้างว่าเงินเดือนน้อยบ้างละ ค่าใช้จ่ายเยอะบ้างละ แต่ถ้าหากคุณได้อ่านบทความต่อไปนี้ คุณจะมความคิดเปลี่ยนทันที

บุคคลใดที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ อย่ าคิดว่าท่านเป็นภาระ เพราะลูกที่ดีต้องกตัญญูรู้คุณ และต้องทดแทนบุญคุณของพ่อแม่ แล้วสิ่งที่พวกคุณได้ทำจะช่วยให้ท่านได้อะไรมากกว่าที่คิด ดังตัวอย่ างเรื่องเล่าต่อไปนี้

หลังเลิกเรียนผมเห็นอาจารย์กำลังนั่งจดอะไรอยู่บนโต๊ะโดยมีสีหน้าที่ เ ค ร่ ง เ ค รี ย ด ด้วยความที่ผมสนิทสน มกับอาจารย์ และชอบช่วยงานท่านอยู่บ่อยๆ จึงเอ่ย ป า กถาม อาจารย์กำลังทำอะไรครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม

อาจารย์ตอบว่า กำลังตัดรายจ่ายอยู่ ผมต้องจ่ายค่าแม่ครัว คนขับรถ คนสวน ค่าใช้จ่ายในบ้าน และให้แม่เดือนละ 1,000 บาท ตอนนี้รายได้กับรายจ่ายมันไม่ค่อยสัมพันธ์กันนัก ต้องลดรายจ่ายบางส่วนลง

ผมเลยพูดว่า เงินเดือนที่ให้แม่ 1,000 บาท เอาออ กก็ได้นี่ครับ เดือนไหน มีเหลือเยอะค่อยให้ อยู่บ้านหลังเดียวกันค่าน้ำค่าไฟอาจารย์ก็รับผิดชอบหมด อาหารสามมื้ออาจารย์ก็จัดให้ท่านเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ซื้อให้ใหม่เดือนละชุด ไม่สบายอาจารย์ก็พาไปหาหมอ และ เ บิ ก ค่ า รั ก ษ าได้

อาจารย์ตอบกลับว่า ไม่ได้เลยนะ 1,000 บาทนี่สำคัญที่สุด เพราะเป็นเงินสำหรับหล่อเลี้ยง หั ว ใ จ แม่ ผมฟังแล้วอึ้งอยู่พักนึงกับคำว่าเงิน ห ล่ อเลี้ยงหั ว ใ จ แม่ เพราะไม่เคยได้ยินคำนี้ อาจารย์พูดต่อว่า ร่างกายต้องการอาหารมาหล่อเลี้ยงให้อิ่ม หัวใจของคนเราก็เช่นกัน ต้องมีอะไรมาหล่อเลี้ยง

ลองนึกดูคนที่ไม่มีเงินติดตัวเลยนี่เป็นอย่ างไร ใจมันจะหวิวๆ ไม่สดชื่นนะ มนุษย์เงินเดือนจะรู้ดีว่าช่วงปล า ยเดือนแล้วไม่มีเงินเหลือติดบัญชี มันจะรู้สึกประมาณนั้นแหละ มันเฉาไปจนถึงสิ้นเดือนเลยนะ

แม่อยู่กับเราก็จริง แต่ถ้าแม่ไม่มีเงินอยู่ในมือ หั ว ใ จ ท่านก็เฉา ท่านก็เฝ้ารอให้ถึงวันเงินเดือนออ กเหมือนกัน รับเงินเดือน มาใหม่ๆ หน้าต าสดใส เมื่อทุกสิ้นเดือนพอเงินเดือนออ กก็เข้าไปสวัสดีแม่ บอ กแม่ว่า วันนี้เงินเดือนออ กครับ ผมเอาเงินใส่มือแม่ 1,000 บาท แม่ก็ให้พรผมเเล้วเก็บเงินไว้ใต้หมอนไว้อย่ างมีความสุข

วันหนึ่งน้องของอาจารย์พาภรรย าไปคลอ ดลูก คุณแม่ก็ซื้อทองให้หลานด้วยเงินที่เก็บสะสมไว้ ท่านกอ ดหลาน และสวมสร้อยให้พร้อมให้พร พอหลานโตขึ้นพ อ รู้ ภ า ษ า ก็ถามว่าสายสร้อยนี้ใครกันซื้อให้ ก็บอ กหลานได้ด้วยความภาคภูมิใจว่าคุณย่าเป็นคนซื้อให้

คนที่อาวุโสที่สุดในบ้านคือคุณย่า เพราะเงิน 1,000 บาทที่เก็บสะสมนี้ทำให้ท่านดูน่าเกรงขาม และเป็นที่รักของหลานๆ ถ้าคุณแม่ไม่มีเงินจะรับขวัญหลานได้เช่นไร

เห็นไหมล่ะว่าเงิน 1,000 บาทที่เราให้ เป็นบันไดพาแม่ไปสู่ความสุขอีกเหตุการณ์หนึ่ง วันหนึ่งมีกำนัน มาอนุโมทนาบุญที่หมู่บ้าน แม่ของอาจารย์ก็นำเงินที่ลูกให้ไว้มาทำบุญ เมื่อ กำนันรับเงินเสร็จก็เดินผ่ านไปบ้านถัดไป

เห็นลุงข้างบ้านก็กำลังเก็บผ้าอยู่ในบ้าน กำนันก็ตะโกนข้ามรั้วเข้ามา ทำบุญสร้างศาลาวัดร่วมกันไหมครับลุง ลุงข้างบ้านตอบ ลุงไม่มีเงินหรอ กลุงอาศัยลูกสาวอยู่ เดี๋ยวเผื่อลูกเขากลับมาทันจะขอเงินเขาทำบุญนะ เพราะลูกเขาไม่ได้ให้เงินเดือนลุงไว้ใช้

ที่มา  kasetchaoban