แม่ค้าขายส้มตำ สู้ชีวิตจากมีรายได้หลักหมื่นเหลือหลักร้อย แต่ไม่ท้อจะขอฝ่าวิกฤตครั้งนี้ด้วยตัวเอง

ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมานานนับเดือนและส่งผลกระทบกับทุกสาขาอาชีพเช่น พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย แม่ค้าขายส้มตำ ที่ต้นทุนมีน้อยและหลายคนฝากความหวังไว้กับการช่วยเหลือจากภาครัฐเช่น เงิน 5,000 บาท แต่ก็ยังมีตัวอย่างคนที่สู้ชีวิตอีกหลายคนที่ยังยืนหยัดขอสู้ด้วยตัวเองเพื่อความอยู่รอดแม้ว่ารายได้จะลดลงก็ตาม

วันที่ 17 เม.ย. นางสังเวียน โตนวุฒิ อายุ 47 ปีเจ้าของร้านส้มตำเจ๊น้อย ปลายแหลมสมนอ่อน เขตเทศบาลนครสงขลา เปิดเผยว่า ตนจะนำรถเข็นส้มตำ ออกมาจอดขายที่บริเวณแหลมสนอ่อน ในวันธรรมดาตั้งแต่เวลา 13.00- 18.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ จะขายตั้งแต่ 12.00 น. ลูกค้าที่มาอุดหนุนจะปูเสื่อนั่งกินบนพื้นหญ้า ริมเขื่อนทะเลสาบสงขลา ใช้เวลาขายวันละประมาณ 5-6 ชั่วโมง จะต้องเก็บของกลับบ้าน

นางสังเวียน เปิดเผยต่อว่า ขายส้มตำหลากหลายชนิด ทั้งตำถาดทะเล ตำถาดไข่เค็มกุ้งสด ตำหอยแครง ตำผลไม้ ตำยอดมะพร้าว ตำข้าวโพด ตำป่า และมียำพล่ากุ้ง น้ำตกหมู ลาบหมู คอหมูย่าง ปลาดุกย่าง ไก่ย่าง แกงลาว เกาเหลาทะเล เกาเหลาหอยแครง ปลาเผา ลาบไก่น้ำตก ลาบทะเลและลาบปลาดุกมีรายได้ วันละหมื่นกว่าบาท ปัจจุบันเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนไม่ออกจากบ้านหรือออกมาน้อยมาก รายได้เหลือหลักร้อย

ยุคโรคโควิด-19 ระบาด ลูกค้าหายหมดลดน้อยลงทุกวัน แม้ในช่วงเสาร์อาทิตย์ก็มีลูกค้าเหมือนกันแต่มีไม่มาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่จะไม่ออกจากบ้านตามประกาศจังหวัดสงขลา และนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”

แม่ค้าได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงทุกร้าน แต่ก็ยังถือว่ายังมีโอกาสได้ประกอบอาชีพแม้ว่าเวลาจะมีจำนวนจำกัดก็ตาม ก็ยังมีรายได้อยู่

นางสังเวียน กล่าวอีกว่า ค้าขายยาก เพราะว่าเป็นช่วงโควิด-19 ขายไม่ได้เลย รายได้ลดลงเยอะเลย ปกติวันเสาร์อาทิตย์ขายได้วันละหมื่นกว่าบาท ทุกวันนี้วันละพันสองพันก็ได้ยากแล้ว ที่ขายอยู่ขายหลายอย่าง ขายมานานหลายปีแล้ว พอมาเจอวิกฤตนี้ ก็แย่ ลูกค้าลดลงเยอะเลยเกินร้อยละ 60-70

 

แหล่งที่มาจาก : khaosod.co.th