ปลูก ทุเรียน สายพันธุ์ใหม่ “ทุเรียนทองลินจง” ขายตลาดส่งออก ได้ราคาสูง

ปลูก ทุเรียน สายพันธุ์ใหม่ “ทุเรียนทองลินจง” ขายตลาดส่งออก ได้ราคาสูง

เป็นที่ทราบกันดีว่า “ทุเรียน” เปลี่ยนชาวสวนให้เป็นเศรษฐีมาหลายคน ในหลายพื้นที่ หลายยุคหลายสมัยมาแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ชัดจากบุคคลที่กำลังจะนำเสนอเรื่องราวต่อไปว่าเขามีชีวิต มีทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาได้ด้วย การทำสวนทุเรียน ซึ่งเป็นอาชีพเดิมของครอบครัว

แต่เมื่ออาชีพตกมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลาย การทำสวนทุเรียน จึงได้มีการประยุกต์ใช้ทั้งศาสตร์และศิลปะการจัดการทั้งในอดีตและปัจจุบันเข้ามาบริหารจัดการสวนทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนำมาซึ่งผลผลิตที่ดีมีคุณภาพป้อนตลาดไทยและส่งออกตลอดเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าเซียนทุเรียนคนนี้ที่มากด้วยประสบการณ์และความชำนาญต้องมีเทคนิคด้านการจัดการที่ไม่เป็นสองรองใครเพื่อให้ทุเรียนติดดอกออกช่อ ให้ผลผลิตที่ดีเสมอมา

นายกสมชาย ลินจง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ผู้นำท้องถิ่นคนเก่งที่มีความมุ่งมั่นพยายามทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมด้วยความเสียสละตลอดเวลาที่มา ไปพร้อมๆกับ การทำสวนทุเรียน สวนลำไยนอกฤดู สวนยางพาราบนเนื้อที่หลายร้อยไร่ทั้งในและนอกพื้นที่มานานกว่า 40 ปี

ภายใต้การประสบการณ์และความชำนาญเพื่อนำมาซึ่งการบริหารจัดการที่ดีตั้งแต่ต้นทางของการผลิตไปจนถึงกระบวนการเกี่ยวผลผลิตเพื่อส่งมอบให้กับตลาดปลายทางได้รับผลผลิตที่ดี “มีคุณภาพ” ที่จะทำให้อาชีพการทำเกษตรเดินต่อไปอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของการผลิตทุเรียนที่ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้บริโภคอย่างเคร่งครัด

เนื่องจากวันนี้อาชีพชาวสวนยังไม่มีกฎหมายขึ้นมารองรับเหมือนกับพืชบางตัวที่มีกฎหมายรองรับที่มีขั้นตอนการทำงานทุกอย่างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น “ผลผลิตที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน จากการผลิตของชาวสวนทุกคนจะเป็นเกราะคุ้มกันอย่างดีให้กับอาชีพนี้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคตได้อย่างแน่นอน”

โดยจะมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

1.สวนทุเรียนพันธุ์ลินจง การให้ความรู้แก่เกษตรกรในชุมชน ถึง วิธีการปลูกทุเรียน

2.การดูแลทุเรียนปลูกใหม่ และ การใส่ปุ๋ยทุเรียนเล็ก

3.ผลผลิตทุเรียนพันธุ์ลินจงเนื้อเต็ม เนื้อแน่น ผิวสวย ไม่เละ

4.การทำสวนทุเรียน แซมลำไย เนื้อที่กว่า 500 ไร่

5.ผลผลิตทุเรียนพันธุ์ลินจง-เนื้อเต็ม-เนื้อแน่น-ผิวสวย-ไม่เละ

การเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนพันธุ์ลินจง

สวนทุเรียน สายพันธุ์ใหม่ ” ทุเรียนทองลินจง “
ทุเรียนสายพันธุ์ใหม่นี้มีชื่อว่า “ ทุเรียนทองลินจง ” ซึ่งเป็นทุเรียนที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวมันเองที่รสชาติเป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นสายพันธุ์ประจำของสวน “ ทุเรียนทองลินจง ” แห่งนี้ด้วย ทุเรียนทองลินจง ทุเรียนทองลินจง ทุเรียนทองลินจง ทุเรียนทองลินจง ทุเรียนทองลินจง ทุเรียนทองลินจง

ซึ่งเป็นทุเรียนสายพันธุ์ใหม่ที่ยังมีการปลูกทั้งในและนอกพื้นที่ค่อนข้างน้อยทำให้ผลผลิตในวันนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ที่ชื่นชอบทุเรียนเป็นชีวิตจิตใจอย่างมาอย่างยาวนาน วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน

เริ่มจาก สายพันธุ์ “หมอนทอง” การใส่ปุ๋ยทุเรียน

นายกสมชาย ลินจง เผยถึงเส้นทางชีวิตทั้งด้านทำงานและการทำสวนให้ทราบว่า เดิมเป็นคนพื้นที่อ.เมือง จ.จันทบุรี ครอบครัวยึดอาชีพทำสวนมาอย่างต่อเนื่องเพราะตั้งแต่ที่จำความได้ก็ได้ช่วยครอบครัวทำสวนมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งนายกสมชายได้ย้ายมาอยู่ที่ ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรีตั้งแต่ปี 2520

เป็นต้นมาด้วยการซื้อที่ดินเนื้อที่กว่า 15 ไร่เพื่อปลูกทุเรียนสายพันธุ์ “หมอนทอง” ทั้งหมดในระยะ 10 x 10 เมตรหรือประมาณ 15 ต้น/ไร่ เพื่อให้แสงแดดส่งถึงต้นทุเรียนได้อย่างทั่วถึงเมื่อเจริญเติบโตขึ้น โดยการปลูกทุเรียนครั้งแรกนี้ไม่มีการใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมเลยแม้แต่น้อยเพราะสภาพดินค่อนข้างดีอยู่แล้ว

ประกอบกับผลผลิตทุเรียนหมอนทองในช่วงนั้นกำลังได้รับความนิยมมากที่สุดด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของทุเรียนหมอนทองที่ เนื้อเยอะ เม็ดลีบ กลิ่นหอม เนื้อแน่น ไม่เละ ที่เหมาะสมกับการผลิตในเชิงการค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งตลาดต้องการผลผลิตเป็นจำนวนมากต่อปีและการผลิตทุเรียนในสมัยนั้นยังไม่มีการผลิตทุเรียนนอกฤดู ชาวสวนทุเรียนส่วนใหญ่จึงต้องผลิตทุเรียนในฤดูเป็นหลัก วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน

การดูแลดอกบานให้สมบูรณ์

การดูแลทุเรียนปลูกใหม่ และ การใส่ปุ๋ยทุเรียนเล็ก
เมื่อต้นทุเรียนยังเล็กอยู่นั้นนายกสมชายได้มีการปลูกพืชแซมในสวนทุเรียนเพื่อสร้างรายได้เข้ามาในครอบครัวด้วยการปลูกพืชคลุมดินประเภทถั่วและข้าวโพดเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาต้นทุเรียนและใบอ่อนทุเรียนให้สมบูรณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อการเจริญเติบโตที่ดี วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน

จนกระทั่งทุเรียนเริ่มมีอายุได้ประมาณ 4 ปีก็จะเริ่มหัดให้ต้นทุเรียนไว้ลูกบ้างก่อนที่ต้นทุเรียนจะสามารถไว้ลูกเพื่อเก็บผลผลิตได้อย่างเต็มที่ครั้งแรกเมื่อมีอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ซึ่งการไว้ลูกแต่ละต้นจะขึ้นอยู่กับตามความสมบูรณ์ของทุเรียนแต่ละต้นเป็นหลัก วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน วิธีการปลูกทุเรียน

โดยเฉพาะการทำให้ทุเรียนสาวให้เปลือกบางหรือเปลือกหนานั้นมีเทคนิคและขั้นตอนอยู่ก็คือว่าหากไว้ลูกน้อยแล้วอาหารของต้นนั้นสมบูรณ์เปลือกทุเรียนก็จะหนา แต่ถ้าหากมีการไว้ลูกให้เหมาะสมกับความสมบูรณ์ของต้นจะทำให้ได้ผลผลิตที่เปลือกไม่หนา ผลผลิตที่ได้ก็จะเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งหมด การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน

จึงมองเห็นอนาคตของทุเรียนที่ยังไปได้ไกล จึงเริ่มเก็บหอมรอมริบนำเงินที่ได้จากการขายทุเรียนไปซื้อที่ดินเพื่อปลูกทุเรียนแบบพี่เลี้ยงน้องมาอย่างต่อเนื่องและเริ่มไม่ปลูกพืชแซมเมื่อต้นทุเรียนมีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป แต่ปัญหาในช่วงนั้นยังมีอยู่ก็คือว่าเมื่อเริ่มมีพื้นที่ปลูกทุเรียนมากขึ้น มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผลผลิตในฤดูกาลเกือบ 100%
ทำให้ในบางช่วงเวลาชาวสวนถูกกดราคาจากพ่อค้า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นที่มาของการทำทุเรียนล้า(ทุเรียนช่วงปลายฤดูการเก็บเกี่ยว)ของนายกสมชายในเวลาต่อมาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องราคาผลผลิต ซึ่ง “การผลิตทุเรียนล้า” ได้ผลดีเกินคาดเพราะในช่วงฤดูกาลผลผลิตจะค่อนข้างน้อย การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน

ทำให้ขายผลผลิตได้ราคาค่อนข้างดีและมีรายได้ที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง “ผมจำได้ตอนนั้นผมทำทุเรียนเมื่อปี 2538 ผมขยายสวนทุเรียนออกไปจนมีต้นทุเรียนที่เก็บเกี่ยวได้ทั้งหมดร่วม 1,000 ต้น ตั้งแต่แถวนี้มีสวนทุเรียนแค่ไม่กี่สวน ผมทำเรียนล้าทั้งหมดผมขายทุเรียนได้ 36 บาท/กก. จากราคาทุเรียนปกติช่วงนั้นอยู่ที่ 15-17 บาท/กก.เท่านั้น

ผมได้เงินจากการขายทุเรียนปีนั้นมายกบ้านสร้างบ้านเสร็จทั้งหลังในปี 2538 หมดไปประมาณ 2 ล้านกว่าบาทผมยังมีเงินเหลือเก็บ จากตอนแรกที่ผมคิดว่าผมต้องเป็นหนี้เขาถึงล้านกว่าบาทเพื่อกู้เงินมาสร้างบ้าน แต่ผมโชคดีและแจคพอร์ตมากปีนั้น เราเห็นรายได้ตรงนี้เป็นรายได้ที่ดี การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน

จึงตั้งใจจะทำทุเรียนล้าขายให้ได้ราคาดีและขยายพื้นที่ต่อไปด้วย เพราะทำทุเรียนปีเดียวก็ยกบ้านทั้งหลังได้ เราจึงมีกำลังใจที่จะทำสวนทุเรียนต่อไป” นายกสมชายเล่าถึงอดีตที่ผ่านมาที่ตั้งใจปักหลักยึดอาชีพ การทำสวนทุเรียน เรื่อยมาพร้อมกับการสร้างสวนทุเรียนแปลงใหม่ๆเพิ่มเติมขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน

การให้ความรู้แก่เกษตรกรในชุมชน

จนกระทั่งในปี 2542 นายกสมชายได้อาสาตัวเองเข้ามาทำหน้าที่ผู้นำท้องถิ่นควบคู่ไปกับ การทำสวนทุเรียน มากกว่า 70 ไร่ ด้วยการลงสมัครเป็น “ผู้ใหญ่บ้าน” เพื่อพัฒนาชุมชน มุ่งส่งเสริมอาชีพของประชาชนในพื้นที่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมาผ่านทางนโยบายรัฐที่มีออกมาในแต่ละช่วงจนกระทั่งได้รับรางวัลผู้นำดีเด่นที่ชื่อว่า “ผู้นำอาชีพก้าวหน้า”

ต่อมาในปี 2543 ก็ได้รับรางวัล “ผู้ใหญ่บ้านดีเด่น” นั่นคือรางวัลที่การันตีถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หรือที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกันในนาม “นายกสมชาย” ที่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาชุมชน พัฒนาอาชีพ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนในพื้นที่ตลอดมา การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน การใส่ปุ๋ยทุเรียน

ด้านการทำ “สวนทุเรียนล้า” ของนายกสมชายที่ยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบันที่มีต้นทุเรียนอายุเพียง 1 ปีไปจนถึงอายุ 30-40 ปีนั้นเพราะมีแรงจูงใจมาจากผลผลิตของทุเรียนในวันนี้มีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญยังเป็นผลไม้ที่มีการส่งออกมากที่สุดอีกชนิดหนึ่งของประเทศไทย

และต้องยอมรับว่าด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยมากขึ้นช่วยให้ การทำสวนทุเรียน มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับการทำสวนในวันนี้ก็คือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีผลต่อการติดดอกออกผลผลิตเป็นอย่างมาก โรคและแมลงก็มากขึ้นกว่าแต่ก่อนที่จำเป็นต้องใช้สารป้องกันและกำจัดแมลงมากขึ้น

เป็นการเพิ่มงานให้กับชาวสวนทำให้ต้องมีการจัดการที่เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งทำให้ชาวสวนมีต้นการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ทุเรียนออกมาสมบูรณ์ ดังนั้นชาวสวนจึงต้องมีการวางแผนที่ดี การจัดการที่ดีเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งเสียเวลาและเสียโอกาส

ผลผลิต ทุเรียนทองลินจง เนื้อเต็ม เนื้อแน่น ผิวสวย ไม่เละ

นอกจากนี้นายกสมชาย ยังเป็นเจ้าของสายพันธุ์ทุเรียน “ ทุเรียนทองลินจง ” ที่ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยเมื่อปี 2554-2555 ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากความบังเอิญที่ต้องการซื้อกิ่งพันธุ์พวงมณีประมาณ 80 เข้ามาปลูกแซมไว้ภายในพื้นที่แทนที่ต้นทุเรียนที่ตายลงไปในแต่ละปีด้วยการฝากคนอื่นซื้อมาให้เพราะช่วงนั้นพวงมณีกำลังเริ่มเป็นที่นิยมและตลาดมีความต้องการผลผลิตขึ้นมาเพื่อส่งออกไปยังสิงคโปร์และมาเลเซียที่ผลผลิตมีราคาแพง

จึงได้หาซื้อกิ่งพันธุ์พวงมณีมาปลูกไว้ไปพร้อมๆกับการบำรุงรักษาตามขั้นตอนข้างต้นจนกระทั่งตัดเก็บผลิตได้เป็นครั้งแรกก็ตั้งใจว่าจะนำผลผลิตไปขายให้กับพ่อค้าที่รับซื้อผลผลิต แต่ผู้รับซื้อกลับบอกว่าไม่ใช่ผลผลิตของพวงมณี ทำให้ช่วงแรกขายผลผลิตไม่ได้เลย จึงจำเป็นต้องขายผลผลิตแบบทิ้งๆไม่มีราคา จึงต้องขายให้หมดๆไปเท่านั้น

ต่อมาได้นำตัวอย่างผลผลิตไปให้กับศูนย์วิจัย สวพ.6 ช่วยตรวจสอบก่อนจะส่งตัวอย่างไปที่กรมคุ้มครองพันธุ์พืชที่ได้รับคำตอบว่ายังไม่มีทุเรียนสายพันธุ์นี้ในสารระบบจึงได้มีการตั้งชื่อว่า “ ทุเรียนทองลินจง ” เนื่องจากผลผลิตมีสีเหลืองทองและลินจงก็คือนามสกุลนั่นเอง แต่ในความเป็นจริงทุเรียนสายพันธุ์นี้มีอยู่แล้วในพื้นที่มานานกว่า 20 ปีที่ยังไม่มีคนรู้จักอีกมากมาย ทุเรียนทองลินจง ทุเรียนทองลินจง ทุเรียนทองลินจง

จนกระทั่งได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นสายพันธุ์ทองลินจงที่ได้มีการส่งผลผลิตเข้าไปประกวดในงานของดีเมืองจันท์ที่ได้รับรางวัลที่ 1 มา 2 ครั้งที่ทำให้คนเริ่มรู้จักทุเรียนสายพันธุ์นี้ที่มีความโดดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์คือเป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง ทนต่อโรครากเน่า โคนเน่าได้ดี สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เมื่อมีอายุตั้งแต่ 105-110 วันขึ้นไป

ผลผลิตมีสีเหลืองทอง เม็ดลีบ เนื้อละเอียดคล้ายกับก้านยาว เนื้อเหนียว เนื้อแน่น ไม่เละง่าย รสชาติหวาน กลิ่นหอม ไม่มีไส้ซึมไม่มีแกน ผลใหญ่กว่าพวงมณีน้ำหนัก 3.5-4 กก./ลูกขึ้นอยู่กับการไว้ลูกของแต่ละต้นด้วย ช่วยยืดอายุการขายได้เป็นอย่างดี การทําสวนทุเรียน การทําสวนทุเรียน การทําสวนทุเรียน การทําสวนทุเรียน การทําสวนทุเรียน

ซึ่งผลผลิตในวันนี้ได้มีการลองตลาดและส่งออกไปยังฮ่องกงที่ลูกค้าติดใจในรสชาติของผลผลิตทองลินจงมาก รับซื้อตลอด โดยมีราคารับซื้อที่หน้าสวนคือ 150-200 บาท/กก. โดยผู้ส่งออกกำลังจะขยายตลาดไปอีกหนึ่งมณฑล แต่ปัญหาใหญ่คือด้านการผลิตภายใต้ “สวนลินจง” นั้น มีต้น ทุเรียนทองลินจง ที่สามารถให้ผลผลิตได้เพียงไม่กี่ต้นในตอนนี้

ส่วนที่ปลูกไว้ในพื้นที่ส่วนใหญ่อายุก็ยังน้อยเพราะทุกพื้นที่ได้ปลูกทุเรียนไว้จนเต็มอยู่แล้ว การปลูก ทุเรียนทองลินจง จึงต้องปลูกแซมลงไปแทนต้นที่ตายลงไปมากกว่า ซึ่งปลูกไปแล้วประมาณ 300 ต้นซึ่งต้องรออีกประมาณ 2 ปีถึงจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งหมด

ประกอบกับทาง “สวนลินจง” จะเน้นการผลิต “กิ่งพันธุ์ทองลินจง” เองด้วยการใช้เมล็ดทุเรียนโบราณคุณภาพจากใต้ผลิตเป็นต้นตอก่อนจะทำการผลิตเป็นกิ่งพันธุ์คุณภาพทุกต้นเพื่อขยายการผลิตออกไปอย่างต่อเนื่อง

การทำสวนทุเรียน แซมลำไย เนื้อที่กว่า 500 ไร่

นอกจากนี้นายกสมชายยังมีการผลิต “ลำไยนอกฤดู” ในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อนและอ.สอยดาวรวม 500 ไร่ ที่มีอายุตั้งแต่ 7-20 ปีภายใต้สภาพดินที่ดี มีระบบน้ำรองรับทั้งการขุดสระ เจาะบ่อบาดาลและแหล่งน้ำสาธารณที่สามารถบริหารจัดการสวนลำไยได้อย่างเป็นระบบ เมื่อต้นลำไยอายุ 3-4 ปีก็จะเริ่มต้นเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

ซึ่งทุกปีนายกสมชายจะต้องเตรียมใบให้สมบูรณ์ให้ได้ชุดใบประมาณ 2-3 ชุดใบ ที่มีการบำรุงทางดินด้วยปุ๋ยสูตร 15-5-20 และ 17-17-17 ป้องกันใบอ่อนและใบแก่ลำไยด้วยสารป้องกันและกำจัดแมลงคุณภาพของ บริษัท เอ็กซตร้า อโกรเคมีคอล จำกัดเช่นเดียวการดูแลทุเรียน สารเร่งดอกทุเรียน สารเร่งดอกทุเรียน สารเร่งดอกทุเรียน

ก่อนที่จะบำรุงทางใบด้วยธาตุอาหารและฮอร์โมนคุณภาพ จากบริษัท อินฟัง ไทย จำกัด เพื่อขยายให้ลำไยผลโต ได้ผลผลิตไซซ์จัมโบ้ ก่อนจะใส่ปุ๋ยไตรฟอสเฟตสูตร 0 – 47 – 52 เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 3-4 รุ่น/ปี ซึ่งแต่ละรุ่นให้ผลผลิตได้ประมาณ 100-150 ตันภายใต้การรับซื้อในราคาประกันกับพ่อค้าซึ่งปีนี้สามารถขายได้ในราคา 42-45 บาท/กก.โดยทางล้งจะมีคนงานมาเก็บผลผลิตเองทั้งหมด สารเร่งดอกทุเรียน

ผลผลิตลำไยได้คุณภาพ

“ การทำเกษตรจำเป็นมากก็คือแรงงาน ผมจึงต้องใช้แรงงานประจำมากถึง 30 กว่าคนเพื่อดูแลสวนทุเรียนและสวนลำไยในทุกขั้นตอนการจัดการของทางสวนลินจง สิ่งสำคัญต่อมาก็คือระบบไฟฟ้าที่ต้องใช้ในการให้น้ำกับไม้ผล ทำให้สวนลำไยทั้ง 2 สวนมีต้นทุนค่าไฟบางเดือนมากถึง 60,000-70,000 บาท/เดือน สารเร่งดอกทุเรียน

ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูงที่ยังไม่รวมกับเข้าไปต้นทุนการผลิตอย่างอื่นโดยเฉพาะปุ๋ยยาและสารเคมี นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ต้นทุนการผลิตของชาวสวนเพิ่มขึ้น หากราคาผลผลิตทั้งทุเรียนและลำไยอยู่ในราคานี้ชาวสวนก็พออยู่ได้ แต่ถ้าในอนาคต 5-7 ปี หากราคาผลผลิตลดต่ำลงไปกว่านี้ชาวสวนอาจจะอยู่ลำบากขึ้น สารเร่งดอกทุเรียน

แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดชาวสวนต้องทำผลผลิตให้ได้คุณภาพอนาคตชาวสวนก็จะยั่งยืน ผู้ประกอบการมีแนวโน้มจะขยายกิจการอยู่แล้วขอแค่ให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ แต่ถ้าผลผลิตไม่มีคุณภาพ หลอกลวงผู้บริโภคความเสียหายก็จะย้อนกลับมาส่งผลกระทบต่อทั้งระบบแน่นอน” นายกคนเก่งกล่าวทิ้งท้าย สารเร่งดอกทุเรียน สารเร่งดอกทุเรียน

สอบถามเพิ่มเติม นายกสมชาย ลินจง (สวนลินจง)

49/6 ม.14 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 22170 โทร. 081-781-2008

แหล่งที่มา : ให้ความรู้.com