Home »
Uncategories »
ตำลึงผักริมรั้ว ไม่มีราคาแต่คุณค่ามหาศาล เสริมภูมิต้านทาน รักษาเบาหวานได้
ตำลึงผักริมรั้ว ไม่มีราคาแต่คุณค่ามหาศาล เสริมภูมิต้านทาน รักษาเบาหวานได้
ตำลึง ผักริมรั้วที่เรารู้จักกันดี วันนี้เรานำสาระดี ๆ มาฝากทุกคนค่ะ
สำหรับใครที่ชอบทานตำลึงถือว่โชคดีมาก ๆ ส่วนใครที่ไม่ชอบหลังจากอ่านจบแล้ว
รับรองเลยว่าจะหันมาทานทำลึงอย่างแน่นอน
ตำลึงเป็นผักพื้นบ้านที่เกิดขึ้นเองตามริมรั้ว สรรพคุณทางยาเพียบ
ยิ่งทานยิ่งดีต่อร่างกาย เราไปดูกันเลยค่ะว่าตำลึงมีดีอย่างไรบ้าง
1 บำรุงสายตา
แหล่งวิตามินเอที่สำคัญที่เราสามารถหาได้จากอาหารก็ต้องยกให้ตำลึงเป็นแหล่งที่ดี-องวิตามินเอเลยล่ะค่ะ
และนอกจากวิตามินเอแล้ว
เบต้าแคโรทีนในตำลึงยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสsะที่สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นวิตามินเอได้อีก
ดังนั้น ตำลึงจึงจัดเป็นอาหารบำรุงสายตาตัวจี๊ดที่หากินได้ง่าย ๆ
แถมยังอร่อยด้วย
2 เสริมภูมิต้านทาน
จะเห็นได้ว่าตำลึงมีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอค่อนข้างสูง
ส่วนนี้จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้เราไม่ป่วยไข้ได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะอาการไ
ข้หวัด ซึ่งหากร่างกายขาดวิตามินเอ ก็มีโอกาสจะป่วยไข้ได้ง่ายเลยนะคะ
3 ตำลึงรักษาเบาหวาน
สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า
ตำลึงเป็นผักที่มีสา รต้ านอนุมู ลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์ค่อนข้างสูง
สามารถช่วยรักษาและป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ ทั้งโรคเบาหวาน
เนื่องจากมีงานวิจัยที่พบว่า ตำลึงช่วยลดน้ำตาลในເลือดได้
ส่วนในใบตำลึงก็มีสารต้านอนุมูลอิสsะอยู่หลายชนิด
จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้นั่นเอง
ทั้งนี้การกินตำลึงเพื่อลดน้ำตาลในເลือด
สามารถทำได้โดยใช้เถาแก่ɤองตำลึงประมาณครึ่งถ้วย นำมาต้มกับน้ำ
หรือนำน้ำคั้นจากผลตำลึงดิบ ๆ ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
น้ำตำลึงก็จะช่วยลดน้ำตาลในເลือดได้
4 บำรุงกระดูก
จากการศึกษาของสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า
ใบตำลึงมีแคลเซียมสูง
และแคลเซียมจากตำลึงยังเป็นแคลเซียมชนิดที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้เทียบเท่ากับแคลเซียมที่อยู่ในนมวัว
ดังนั้นผู้ที่มีอาการแพ้นมวัว
หรือดื่มนมแล้วท้องเสียก็สามารถหันมารับแคลเซียมจากตำลึงแทนได้เช่นกัน
5 แก้อาการแสบคันจากเเมลงสัตว์กัดต่อย
ใบตำลึงมีฤทธิ์เย็น ช่วยดับร้อนจากเเมลงสัตว์กัดต่อยได้ในระดับหนึ่ง
โดยให้ล้างແผลด้วยน้ำไหลให้สะอาด
จากนั้นใช้ใบตำลึงไม่แก่จัดหรืออ่อนจัดจนเกินไป
ล้างใบตำลึงให้สะอาดจากนั้นขยี้ใบตำลึงแล้วมาประคบผิวบริเวณที่ถูกเเมลงสัตว์กัดต่อยสักพัก
อาการแ สบคันจะบรรเทาขึ้น แต่หากอาการแสบร้อนยังไม่หาย
ให้หมั่นเปลี่ยนใบตำลึงบ่อย ๆ แต่หากอาการแสบร้อนหาย แต่อาการคันไม่หาย
แนะนำให้ใช้ยาทาแก้คันแผนปัจจุบันร่วมด้วย
6 ช่วยย่อยอาหาร
ใบตำลึงและเถาตำลึงมีเอนไซม์อะไมเลสอยู่มาก
ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้มีคุณสมบัติช่วยย่อยอาหารจำพวกแป้งได้ดี
ดังนั้นใครมีอาการแน่นท้อง ท้องอืดจากอาหารไม่ย่อย
โดยเฉพาะคนที่กินแป้งเข้าไปมาก ๆ ให้ใช้ใบตำลึงประมาณ 1 กำมือ
ผสมกับเถาตำลึงเด็ดขนาดเท่านิ้วก้อย 1 กำมือ โขลกรวมกันจนเป็นเนื้อเดียว
จากนั้นคั้นเอาแต่น้ำตำลึงมาผสมน้ำอุ่น 1 แก้วกาแฟ กินก่อนอาหารประมาณ
5-10 นาที เพื่อเรียกน้ำย่อย หรือจะใช้ใบตำลึงแก่ลวกพอสุก
กินเป็นผักเคียงพร้อมกับอาหารในแต่ละมื้อเลยก็ได้
แหล่งที่มา : rahuslub.com