Home »
Uncategories »
ผลไม้ส่งออก ส่อแววล้นตลาด ราคาตก หลังล๊อกดาวน์เที่ยวบินพาณิชย์
ผลไม้ส่งออก ส่อแววล้นตลาด ราคาตก หลังล๊อกดาวน์เที่ยวบินพาณิชย์
วันนี้เราจะมาติดตามอีกหนึ่งเรื่องราวที่ยังคงเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้
สำหรับสถานการณ์ covid-19 ทำให้ทั่วโลก
ส่งผลกระทบในหลายหน่วยงานไม่น้อยเลยทีเดียว รวมไปถึงสินค้าส่งออกอย่าง
ผลไม้ของประเทศไทย ก็มีการชะลอตัว
และขณะนี้ไม่มีอoเดอร์จากประเทศคู่ค้าอีกด้วย ซึ่งการแพร่กระจายดังกล่าว
ทำให้หลายคนตื่นตัวเรื่องมลพิดในอากาศมากขึ้น ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก
ต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันตัวเอง
ซึ่งปัจจุบันหน้ากากอนามัยก็มีราคาพุ่งสูงขึ้นมาก ๆ และหาซื้อได้ยากมาก
ล่าสุดทางนายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยภายหลังการประชุมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาด
ของโควิด-19 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ว่า
กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับมาตรการดูแลราคาผลไม้ช่วงผลผลิตที่กำลังออกสู่ เป็น 5
มาตรการด่วน ได้แก่
1. มาตรการด้านการผลิต จะมีการบริหารจัดการเรื่องแรงงานเก็บผลไม้
โดยจะมีการผ่อนผันการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามเขต
แต่จะมีการเข้มงวดเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัຍ
การดูแลความเป็นธรรมเรื่องราคาและปริมาณ
จะมีการใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า
และกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการเข้ามาควบคุม
การส่งเสริมให้การซื้อขๅยผ่านสัญญาข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบการกับเกษตรกร,
การเชื่อมโยงการกระจายผลผลิตกับห้าง ผู้ใช้ ผู้แปรรูป
และการสนับสนุนกล่องบรรจุผลไม้ ขนาด 5 กิโลกรัม (ก.ก.) 10 ก.ก. และ 20 ก.ก.
2. มาตรการด้านตลาดในประเทศ จะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย
โดยการสนับสนุนค่าขนส่ง มีไปรษณีย์ไทยมาช่วยในการจัดส่งผลไม้ ปริมาณฟรี 200
ตัน และกำลังหารือจะเพิ่มปริมาณได้อีกหรือไม่
การผลักดันให้นำผลไม้จำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ , การส่งเสริมให้เกษตรกร
ผู้ประกอบการ ขๅยผลไม้ทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะเข้าไปช่วยสอนให้ ,
การรณรงค์การบริโภคผลไม้ในประเทศ
และส่งเสริมให้นำผลไม้มอบเป็นของฝากของขวัญ
3. มาตรการด้านตลาดต่างประเทศ จะจัดการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (บิสสิเนส
แมชชิ่ง) ระหว่างผู้ซื้อ ผู้นำเข้า กับผู้ประกอบการไทย
หากทำได้ก็จะดำเนินการต่อ
และจะเพิ่มการทำแมชชิ่งในรูปแบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งจะรวมถึงสินค้าตัวอื่น ๆ ด้วย
การจัดคาราวานผลไม้ไปจำหน่ายผลไม้ในประเทศเพื่อนบ้าน,
การประชาสัมพันธ์ผลไม้ในตลาดต่างประเทศ จะยังคงเดินหน้าต่อ ทั้งรูปแบบเดิม
คือ ผ่านห้างสรรพสินค้า การจัดโปsโมชั่uต่าง ๆ
แต่จะเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านออนไลน์มากขึ้น
และได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์เป็นเซลล์แมนขๅยผลไม้ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด
และช่วยดูในเรื่องการจัดหาสินค้านำเข้า เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งทางอากาศ
เช่น มะม่วง ส่งไปเกาหลีใต้และญี่ปุ่น มีการคิดค่าบริการเต็ม ทั้งไป-กลับ
แต่สินค้ามีแค่ขาไป ขากลับไม่มี แต่ถูกคิดราคาเต็ม ทำให้ค่าระวางสูง
จึงต้องแก้ไขให้มีสินค้าขากลับเข้ามาด้วย
เพื่อลดต้นทุนโดยได้ขอความร่วมมือไปยังกระทรวงคมนาคม บริษัท การบินไทย
จำกัด (มหาชน)
ว่าจะมีแนวทางใดที่จะช่วยเหลือให้การส่งออกผลไม้ไทยคล่องตัวมากขึ้น
4. มาตรการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ
จะสนับสนุนดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่รวบรวมผลไม้ในอัตรา 3% ระยะเวลา 10
เดือน ชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่รวบรวมผลไม้เพื่อส่งออกในอัตรา
3% ระยะเวลา 6 เดือน และช่วยค่าใช้จ่ายรวบรวมเพื่อส่งออกอีกก.ก.ละ 3 บาท
เป้าหมาย 1 หมื่นตัน
5. มาตรการเสริมศักยภาพการบริหารจัดการผลไม้ในเรื่องมาตรฐาน
จะดำเนินการผลักดันให้มีการยอมรับมาตรฐานการตรวจสอบร่วมกัน
หากผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานจากเซ็นทรัล แลป ของไทยแล้ว
เมื่อส่งออกไปจีน
ก็จะไม่มีการตรวจสอบจากองค์กรตรวจสอบและรับรองคุณภาพจีน (CCIC) อีก
และจะมีการสนับสนุนค่าตรวจสอบของแลปให้กับผู้ส่งออก
เพื่อลดต้นทุนในการส่งออกด้วย
“ในปีที่แล้วไทยส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง มูลค่ารวม 3,953
ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนปีนี้จะทำให้ดีที่สุด ในภาวะการระบาด ของโควิด-19
สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องการขนส่งล่าช้า
ได้ประสานกระทรวงคมนาคมให้เข้ามาช่วย รวมถึงกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยดูแล
เพราะการขนส่งสินค้าในประเทศ
ขณะนี้ บางจังหวัดมีการปิดจังหวัด ทำให้เวลาขนผลไม้เข้าไป
คนขับก็ถูกตรวจสอบ และกักตัว ซึ่งใช้เวลานาน กว่าจะขนตู้กลับมาได้
ส่วนขนส่งไปต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน มีการตรวจสอบ และกักตัว 14 วัน
แต่ถ้าทางอากาศ ปกติเคยส่งไปพร้อมเครื่องบินที่ส่งผู้โดยสาร
แต่ตอนนี้หยุดบิน ทำให้ค่าขนส่งสูงขึ้น
ซึ่งต้องขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการเข้ามาช่วยเหลือ”นายสรรเสริญ กล่าว
สำหรับมูลค่าการส่งออกผลไม้ของไทยปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 3,953
ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดอันดับ 1 คือ จีน มูลค่า 2095 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เวียดนาม 846 ดอลลาร์สหรัฐ ฮ่องกง 301 ดอลลาร์สหรัฐ ญี่ปุ่น 124
ดอลลาร์สหรัฐ สหรัฐอเมริกา 101 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายอลงกรณ์ พลบุตร เป็นที่ปรึกษารมว. เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า
ผลผลิตผลไม้ในปีนี้แนวโน้มว่าจะออกมามากเนื่องจากปีที่แล้วผลผลิตถูกส่งออกไปต่างประเทศจำนวนมากและได้ราคาดีโดยเฉพาะทุเรียน
มะม่วง มังคุด ลำไย
แต่ปีนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีการระบาดของโควิด-19
ทำให้การส่งออกผลผลิตไปต่างประเทศประสบปัญหาเนื่องจากประเทศผู้นำเข้ามีกำลังการซื้อลดลงรวมทั้งสถานการณ์ในหลายประเทศยังน่าห่วงทำให้มีการล็อกดาวน์ยุติเที่ยวบินเชิงพาณิชย์
รวมทั้งการขนส่งทางบก ก็มีปัญหาติดขัด
ขณะที่ประเทศไทยเองก็มีการล็อคดาวน์ในแต่ละจังหวัดมีมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามเขตซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับการขนส่ง
ดังนั้น ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงคมนาคม
และคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board)
จะมีการหารือร่วมกันเป็นระยะเพื่อประเมินสถานการณ์และร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกันมีเป้าหมายเพื่อกระจายผลไม่ให้ไปสู่
70,000 กว่าหมู่บ้านทั่วประเทศให้เร็วที่สุดภายใน 48 ชม.
รวมทั้งสามารถส่งออกผลไม้ไปยังต่างประเทศให้ได้มากที่สุดขณะเดียวกันก็จะรณรงค์ให้คนไทยบริโภคผลไม้ไทยเพื่อป้องกันผลผลิตล้นตลาดเพื่อป้องกันผลผลิตราคาตกต่ำ
ซึ่งทุกหน่วยงานจะพยายามทำให้ดีที่สุดในสถานการณ์วิกฤติการระบาดของโควิด-19
แหล่งที่มา: flowersbeauties
เรียบเรียงโดย esancuisine.com