Home »
Uncategories »
รู้แล้วอย่าทำอีก 8 กิจวัตรประจำวันทำลายสุขภาพ ขืนยังทำอยู่อายุสั้นแน่นอน
รู้แล้วอย่าทำอีก 8 กิจวัตรประจำวันทำลายสุขภาพ ขืนยังทำอยู่อายุสั้นแน่นอน
แต่ละคนมีกิจวัตรประจำวันที่แตกต่างกัน
ซึ่งแน่นอนว่าบางพฤติกรรมที่ทำนั้น ส่งผลต่อสุขภาพ วันนี้เรามี 8
กิจวัตรประจำวัน ที่ทำลายสุขภาพการนอน ส่งผลให้ร่างกายไม่ปกติ
ใครยังทำแบบนี้อยู่ประจำอายุสั้นแน่นอน
1. การดูหน้าจอทีวีหรือมือถือก่อนนอน
สมองของคุณต้องการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายก่อนเข้านอน
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการนอนให้หลับสนิท
ทีวีหรือหน้าจอมือถือจะกระตุ้นสมองของคุณมากเกินไปซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกกังวลและทำให้สมองตื่นตัวโดยที่คุณไม่รู้ตัว
ทั้งนี้แสงสีฟ้าจากหน้าจอต่างๆยังมีผลยับยั้งการสร้างเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ
ทำให้คุณนอนหลับสนิทได้ยากยิ่งขึ้น
แนะนำ: ปิดโทรศัพท์ของคุณ (หรือหน้าจออื่น ๆ ) อย่างน้อย 30
นาทีก่อนเข้านอนและอ่านหนังสือหรืออาบน้ำเพื่อให้คุณเองรู้สึกผ่อนคลาย
หากคุณสวมแว่นตาอยู่แล้วคุณควรเลือกเลนส์ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงสีฟ้าเพื่อป้องกันการรับแสงสีฟ้าได้ด้วยอีกทางหนึ่ง
2. การไม่มีรูปแบบการนอนที่เหมือนกันในแต่ละวัน
นาฬิกาชีวิตของคุณจะควบคุมจำนวนชั่วโมงที่เรานอนหลับในแต่ละวัน
มันจะควบคุมจังหวะชีวิตในการตื่นนอนและการนอนหลับ
การที่เราเข้านอนผิดเวลาแม้เพียงครั้งเดียวก็อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพการนอนหลับของคุณและอาจส่งผลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน
แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องตื่นนอนตอน 7โมงเช้าทุกวัน
ผู้ที่ทำงานกะกลางคืนมักจะนอนหลับหลังเที่ยงคืนและตื่นสายหน่อย
ซึ่งมีประมาณ 20% ของประชากรทั้งหมดที่เป็นแบบนี้
แนะนำ:คุณควรค้นหาว่ารูปแบบของการนอนหลับของคุณเป็นแบบไหนและควรทำมันให้เป็นปกติในทุกวัน
และหากคุณต้องออกไปข้างนอกตอนดึกหรือต้องตื่นแต่เช้าตรู่ในบางวัน
เราแนะนำให้ลองงีบหลับระหว่างวันเพื่อทดแทนเวลานอนที่หายไป
แล้วควรเข้านอนในเวลาปกติเหมือนเดิม
3. การกินมากเกินไปก่อนเข้านอน
หากคุณทานอาหารมื้อใหญ่หลัง 15.00 น.
นั่นหมายถึงว่าคุณเป็นคนกินอาหารดึก
มีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการกินดึกมีผลกับภาวะกรดไหลย้อนและอาหารไม่ย่อยซึ่งส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับของคุณ
การรับประทานอาหารดึกไปยังทำให้การลดน้ำหนัnของคุณยากขึ้น
เสี่ยงต่อโรคอ้วน
ทั้งนี้อาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับและเกิดความผิดปกติอื่นๆในการนอนหลับได้
แนะนำ:ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารมื้อใหญ่อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
อาหารว่างในตอนเย็นไม่ควรเป็นของหวานและอาหารขยะต่างๆ
ควรดื่มชาคาโมมิลล์ที่ไม่ใส่น้ำตาล
4. การทานคาเฟอีนก่อนนอน
คาเฟอีนทำให้ร่างกายของคุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าไม่รู้สึกเหนื่อยล้า
แม้ว่าผลของคาเฟอีนจะค่อยๆลดลงหลังจากผ่านไปสองสามชั่วโมง
แต่ในร่างกายของคุณก็ยังมีคาเฟอีนค้างอยู่มาก
เอสเปรสโซ1ช็อตมีผลต่อร่างกายของคุณนานถึง10ชม.
และน่าเสียดายที่คนจำนวนมากคิดว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มชนิดเดียวที่มีคาเฟอีน
ช็อคโกแลต, เครื่องดื่มให้พลังงาน, ชาและโซดาส่วนใหญ่ก็มีคาเฟอีนสูง
แม้แต่โกโก้ร้อนก็มีคาเฟอีนที่ทำให้คุณนอนหลับได้ยากขึ้นเช่นกัน
แนะนำ: จำกัดการบริโภคคาเฟอีนและลองดื่มเฉพาะในตอนเช้า การดื่มคาเฟ่อีนน้อยลงมีผลดีกับคุณแน่ ๆ ลองทำดูได้เลย
5. การขอนอนต่อหลังจากนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ดังขึ้นมาแล้ว
การนอนต่อหลังจากที่นาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ดังขึ้น มันไม่ดีต่อตัวคุณเลย
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการหลับแบบนั้นมันไม่ดีต่อตัวคุณเอง และ
การหลับเพิ่มสัก 5-15 นาทีก็ไม่ได้จำเป็นกับคุณมากนัก
ในความเป็นจริงการหลับต่อหลังจากที่ถูกปลุกแบบระยะสั่นที่ใช้เวลา 5-15 นาที
กลับเพิ่มระดับคอร์ติซอลของคุณหรือที่เรียกว่าฮอร์โมนความเครียด
เพราะความจริงที่เกิดขึ้นคือ
จิตใจของคุณจะกังวลกับเวลาที่กำลังมาถึงและทำให้คุณไม่ได้นอนหลับจริง ๆ
นั้นเอง
แนะนำ:คุณควรตื่นนอนตามเวลาตามที่ตั้งใจไว้
เพื่อเริ่มต้นวันใหม่ของคุณด้วยความสดใส
คุณควรคำนวณรอบการนอนหลับของคุณให้ดี และตั้งนาฬิกาปลุกตามนั้นเลยจะดีกว่า
หรือ หากต้องการนอนต่อและไม่มีกิจกรรอื่นๆที่ต้องไปทำ ก็ควรจะนอนต่อแบบยาว
ๆ กันไปเลย
6. การทานอาหารไม่มีประโยชน์
จากการศึกษาครั้งนี้พบว่าการได้รับวิตามิน A, B1, D, แมกนีเซียม,
แคลเซียมและสังกะสีไม่เพียงพอส่งผลต่อการนอนหลับยาก การศึกษาอื่น ๆ
นอกจากนี้แสดงให้เห็นว่าอาหารที่มีแคลอรี่สูงยังมีส่วนทำให้นอนหลับยากอีกด้วย
ในขณะที่อาหารที่มีปริมาณใยอาหารมากอาจช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นหากได้ทานต่อเนื่องในระยะยาว
แนะนำ:คุณควรทานผลไม้และผักที่มีไฟเบอร์เพิ่มขึ้น
หรืออาจเป็นธัญพืชและข้าวแบบไม่ขัดสี
และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรืออาหารแปรรูปที่มีปริมาณน้ำตาลสูง
7. การไม่ออกกำลังกาย
น่าแปลกที่มีการศึกษาและงานวิจัยน้อยมากที่พยายามพิสูจน์ว่าการนอนไม่หลับและการขาดการออกกำลังกายนั้นเกี่ยวข้องกันหรือไม่
การออกกำลังกายแอโรบิคแบบปานกลางช่วยลดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเข้านอนจนถึงนอนหลับได้
และโดยภาพรวมหลังจากออกกำลังกาย 24 สัปดาห์
ทำให้ผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับจะสามารถหลับได้เร็วขึ้น
นอนหลับได้นานขึ้นและคุณภาพการนอนหลับดีขึ้นกว่าก่อนเริ่มออกกำลังกาย
แนะนำ: ควรออกกำลังกายในระดับปานกลางทุกวันด้วยการเดิน 30
นาทีที่นับว่าเป็นการออกกำลังกายแอโรบิคแบบปานกลาง
คุณควรลองใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือปั่นจักรยานแทนการนั่งรถส่วนตัว
เพราะเป็นการออกกำลังกายง่ายๆอีกทางหนึ่ง
8. การมีห้องนอนที่รก
การมีห้องนอนที่สะอาดเรียบร้อยและการนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
จากการศึกษาในเด็กและผู้ใหญ่พบว่าการมีห้องนอนที่รกทำให้เกิดความเครียดได้
สำหรับผู้ใหญ่เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่วางอยู่รอบๆ
ตัวนั้นกระตุ้นพวกเขา ทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น
แนะนำ:ควรหลีกเลี่ยงการวางเอกสารที่เกี่ยวกับงาน
หนังสือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ในห้องนอนของคุณ
การเปิดเพลงที่ไม่ดังจนเกินไปจะช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบได้
แหล่งที่มา : btwinmylife.com,brightside.me