ก่อนจะยื้อใครสักคนไว้อยากให้ลองอ่าน
เคยคิดที่จะรักษาความสัมพันธ์ต่างๆไว้ จนสุดท้ายก็ยอมปล่อยไป เพราะมันคงมีแต่เราที่อยากให้รักษาทุกอย่างเหมือนเดิม “ในขณะ ที่เราพยายามทำให้ รักครั้งนี้อยู่ต่อไปได้ เขาก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้รักครั้งนี้มันจบลงเช่นกัน”ความสัมพันธ์ที่สวนกัน มันก็เปรียบเสมือน เชือก ที่ต่างฝ่ายก็ดึงไปคนละทาง ทางหนึ่งเป็นของ “คนที่ยังรักอยู่” ส่วนอีกทางหนึ่งเป็น “คนที่พร้อมจะไป” เพราะทุกคนมีเหตุผล ที่จะดึงมันจึงทำให้เกิดการแข่งขัน หลายคนคงคิดซินะว่า ใครที่ดึงเชือกเข้ามาตัวเองได้มากทุกที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ .. ถูกคนที่ชนะคนคือที่ดึงเชือกเข้าหาตัวเองได้มากที่สุด นั้นก็คือคนที่พยายามทำตามเหตุผลตัวเองได้ แต่อย่าลืมมองกลับไปดูมือที่ดึง มันมีทั้งเลือดและแผลจากดึงสิ่งที่เราทำ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะเลิกกันเพราะอะไร ถ้าการที่เรายังยื้อคนๆหนึ่งที่หมดใจ ด้วยการจะรักษาเขาไว้อยู่ สิ่งที่ได้กลับมาอาจจะเจ็บกว่าการปล่อยเขาไป เพราะฉะนั้น เจ็บครั้งเดียวแล้วจบ ดีกว่าจบเรื่อยๆไม่จบสักที เชื่อเถอะ “รักคนหมดใจ” มันไม่มีความสุขหรอก
เหตุที่คนเคยรักกัน คบกันมาหลายปี เมื่อทิ้งกันไป ทำไมจึงหมดเยื่อใยเร็วปานนั้น!
เคยมีคนถามว่า อยากทราบจังทำไมคนเคยรักกัน คบหากันมานานหลายปี เมื่อเขาทิ้งไป ทำไมจึงหมดเยื่อใยเร็วปานนั้น ไม่คิดถึงอดีตที่รวมฝ่าฟันมาเลยหรือ?
คำตอบก็คือ
หากคนปกติทั่วๆ ไป ที่ยังมีความรู้สึกทางดีมากกว่าความรู้ด้านไม่ดี เขาจะคิดถึงอดีตที่มีเราเสมอ นั่นทำให้เขาเห็นคุณค่าจนกว่าจะมีทุกวันนี้ แม้จะเบื่อหน่าย รำคาญเราในบางครั้ง เขาก็มีอดีตที่คอยเฝ้าคิดถึงทำให้ไม่จากไปไหน
แต่หากคนที่ทิ้งไปแล้วหมดเยื้อใยทันที นั่นก็เพราะเขามีความเลวในใจอยู่มาก เป็นประเภทอ่อนแอทางใจต้องการหนีไปให้พ้นๆ จากสภาพที่เป็นอยู่ ไม่ต้องการรับรู้ความรู้สึกของเราและคนรอบข้างว่าทุกข์ทรมานจากผลการกระทำของเขามากเพียงใด ยิ่งมีคนใหม่ด้วยแล้วทำให้อดีตไม่เคยสำคัญอะไรกับเขาอีก หรืออีกนัยคือ เขาไม่เคยรักเราหรอก คนแบบนี้เขารักตัวเองมากเกินกว่าจะแคร์ความรู้สึกคนที่รักเขา
หรือก็คือ…
เขาหมดเสน่ห์หาในตัวเราและไม่เห็นทางที่จะไปและใช้ชีวิตอยู่กับเราได้ เขาจึงไปแบบไม่หลงเหลือเยื่อใยอะไร แม้บางทีมีลูกสอง สาม ไม่ถามถึง ไม่ส่งเสียก็เห็นได้บ่อย และมักหาข้ออ้างสนับสนุนให้ตัวเองผิดน้อยลงด้วยการโยนความผิดให้เราก็ได้ คนแบบนี้จึงควรปล่อยไปมากกว่ามาอาลัยอาวรณ์ เพราะเขาไม่ได้คู่ควรกับเราแม้แต่น้อย มันอาจจะโชคดีกับเราก็ได้เพราะเราได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา แม้อดีตจะร่วมสร้างฝ่าฟัน อุปสรรคปัญหา แต่พอเขามั่งมีลืมตาอ้าปากได้ เขาก็เลือกจะไปอยู่กับคน
“ชีวิตคนเราหากทำความดีมากพอย่อมได้กินผลเงาะ หากมีความดีไม่พอย่อมได้กินแต่เปลือกของเงาะ”
อย่างไหนรสชาติมันจะหวานหอมกว่ากันล่ะ
คนเราทุกวันนี้หลงเปลือก หลงรูปเสียจนหลงลืมจิตใจ คุณงามความดี
ใครเลือกอย่างไหนก็จะได้อย่างนั้น
คนที่ไม่ดี ไม่มีวันอยู่ร่วมกับคนดีไปได้หรอกเพราะศีลมันไม่เสมอ มันคิดก็ต่างทำก็ต่างแล้ว
เก็บความรักของเรามารักตัวเองและครอบครัวดีกว่า
แล้ววันหนึ่งเราจะขอบคุณเขาที่ทิ้งไป
ขอบพระคุณบทความจาก : นามบุญ