💬 ปลุกสกิลแม่ศรีเรือนกันดีกว่า วันนี้เลยขอมาแจกสูตร วิธีทำบัวลอย 🍡 มาให้ทุกคนกัน เป็นวิธีง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ ฝึกทำไว้จะทำขายหรือทำทานในครอบครัวก็ได้ ชั้นตอนไม่ยาก ทำตามกันได้เลย ✨
แจกสูตร วิธีทำบัวลอย ง่ายๆ อยู่บ้านเหงาๆ ปลุกสกิลแม่ศรีเรือน
ช่วงโรคระบาด สาว ๆ หลายคนคงจะต้องมีกิจกรรมแก้เหงาทำระหว่างกักตัวอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสายเต้นอย่างดาวติ๊กต่อก สายรีวิวเสื้อผ้า แต่สำหรับสายกินก็คงต้องหาสูตรอาหารน่าอร่อยหรือทำขนมเพลิน ๆ วันนี้เราเลยมาแจกสูตร วิธีทำบัวลอย ขนมพื้นบ้านของไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ และยังได้รับความนิยมในการรับประทานมาจนถึงปัจจุบัน มาให้สาวๆ ได้ลองฝึกสกิลแม่ศรีเรือนกัน แถม วิธีทำบัวลอย ขั้นตอนก็ง่ายแสนง่าย ว่าแล้วก็ไปดูกันดีเลย
ทำความรู้จัก "บัวลอย"
บัวลอย ขนมไทยพื้นบ้านของไทย ที่กลายมาเป็นขนมหวานในยุคปัจจุบัน ก่อนที่จะเรียนรู้ วิธีทำบัวลอย มารู้จักกันก่อนดีกว่าว่า บัวลอย คืออะไร บัวลอย คือขนมพื้นบ้านที่มีอยู่ทั่วภูมิภาคในประเทศไทย ไม่ว่าคนไทยคนไหนก็ต้องรู้จัก และต้องเคยรับประทานขนมบัวลอยอย่างแน่นอน บางตำนานกล่าวว่า ขนมบัวลอย มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย มาจากตำหรับของท้าวทองกีบม้า หญิงสาวผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องขนม
ไทย เป็นคนคิดค้น วิธีทำบัวลอย และยังมีขนมไทยต่าง ๆ อย่างเช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เป็นต้น คนไทยมักจะทำขนมบัวลอยเพื่อนำไปใช้ในงานบุญต่าง ๆ อย่างเช่นงานบวช งานแต่ง งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ รับแขก งานลี้ยงพระ ซึ่ง วิธีทำบัวลอย ถือว่าง่ายมาก ๆ เพียงแค่ปั้นแป้งให้เป็นลูกกลม ๆ แล้วนำไปต้มกับน้ำร้อน เมื่อตัวแป้งสุกก็สามารถนำไปรับประทานคู่กันกับน้ำกะทิ บางภูมิภาคก็จะมีวิธีการทำบัวลอยที่แตกต่างกัน บางพื้นที่ก็มีการสอดแทรกไส้ผลไม้ข้างในตัวแป้ง บางพื้นที่ก็เปลี่ยนจากน้ำกะทิ เป็นน้ำเชื่อมหรือน้ำขิงแทน หรือบางพื้นที่มีการใส่ไข่ลงไปคู่กับบัวลอยกะทิ กลายเป็นเมนูบัวลอยไข่หวานนั่นเอง และสำหรับวันนี้ เราจะมาแจกสูตร วิธีทำบัวลอย ง่าย ๆ ในช่วงกักตัวที่บ้านกัน
ส่วนประกอบสำคัญในการทำบัวลอย
- แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
- บัวลอยจะขาดสีสันไปไม่ได้ จึงต้องมีฟักทอง สำหรับทำแป้งบัวลอยสีเหลือง ,เผือกสำหรับทำแป้งบัวลอยสีม่วง ทั้งสองอย่างนี้จะต้องนำไปนึ่งให้สุกแล้วบดให้ละเอียด นำไปผสมกับแป้ง ,ใบเตยนำมาทำแป้งบัวลอยสีเขียว , ดอกอัญชันนำมาทำแป้งบัวลอยสีฟ้า ทั้งใบเตยและดอกอัญชันนำไปต้มน้ำจนสีออกมาแล้วนำไปผสมกับตัวแป้ง หรือ ต้องการสะดวกก็สามารถใช้สีผสมอาหารในการทำสีสันต่าง ๆ ของแป้งบัวลอยได้เช่นกัน
- น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง
- กะทิ 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลมะพร้าว 50 กรัม หรือถ้าไม่มีเป็นน้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่
- เนื้อมะพร้าวอ่อน
- งาขาว งาดำ สำหรับโรยตกแต่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย
วิธีทำบัวลอย
1. นำแป้งข้าวเหนียวที่ชั่งตวงเรียบร้อยแล้ว นำไปผสมกัลป์น้ำเปล่า แล้วนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งตัวแป้งเราจะแบ่งออกเป็น 5 ก้อน ดังนี้ ส่วนที่ 1 เป็นแป้งนวดกับน้ำเปล่า จะได้แป้งบัวลอยธรรมดา มีสีขาว ส่วนที่ 2 เป็นแป้งที่นำไปนวดกับฟักทองที่บดละเอียดแล้วผสมน้ำเปล่าลงไป จะได้แป้งบัวลอยสีเหลือง ส่วนที่ 3 เป็นแป้งที่นำไปนวดกับเผือกที่นึ่งสุกและบดละเอียดแล้วผสมน้ำเปล่าลงไฟ จะได้แป้งบัวลอยสีม่วงอ่อน ส่วนที่ 4 เป็นแป้งที่นำไปผสมกับน้ำใบเตยแทนน้ำเปล่า นวดให้เข้ากัน จะได้แป้งบัวลอยสีเขียว ส่วนที่ 5 เป็นแป้งที่นำไปผสมกับน้ำอัญชันที่ต้มสุกแล้ว จะได้แป้งบัวลอยสีฟ้า
เมื่อส่วนผสมของแป้งเข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวแล้ว จึงบิเนื้อแป้งออกมาแล้วนำมาปั้นให้เป็นก้อนกลม ๆ นำไปคลุกกับแป้งบาง ๆ เล็กน้อยเพื่อกันเหนียว
2. จากนั้น ตั้งน้ำเปล่าให้เดือด แล้วนำแป้งบัวลอยที่ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เรียบร้อยแล้ว ใส่ลงไปในหม้อ เพื่อให้ตัวแป้งสุก รับประทานได้
3. ในขณะเดียวกัน ตั้งน้ำกะทิอีกหม้อหนึ่ง ใส่น้ำตาลมะพร้าว และเกลือป่นลงไป คนให้ละลายเข้ากัน จนน้ำเริ่มเดือด เป็นอันใช้ได้
4. จากนั้นนำบัวลอยที่ต้มเสร็จจนสุกแล้ว สะเด็ดน้ำให้แห้งหมาด ๆ แล้วตักใส่ถ้วย ตามด้วยราดน้ำกะทิลงไป
5. นำไข่ไก่ตอกใส่ถ้วย แล้วเทลงในหม้อที่เป็นน้ำเปล่าลงไป รอจนไข่แดงสุก ค่อยตักขึ้นมาแล้วใส่ลงไปในถ้วยบัวลอย
6. โรยงาขาว หรืองาดำลงไปเพื่อตกแต่งหน้าบัวลอย เป็นอันเสร็จ ก็จะได้บัวลอยไข่หวานหลากสี ตกแต่งหน้าด้วยงา พร้อมเสิร์ฟแล้ว