เที่ยวบ่อย ต้องรู้ 8 เทคนิค ขับรถขึ้น-ลงเขา จำไว้ใช้ได้แน่นอน

 


เที่ยวบ่อย ต้องรู้ 8 เทคนิค ขับรถขึ้น-ลงเขา จำไว้ใช้ได้แน่นอน

เชื่อว่าหลายคนคงจะมีสถานที่เที่ยวที่ชอบไปแตกต่างกันไป บางคนชอบไปเที่ยวทะเล บางคนชอบไปน้ำตก แต่บางคนก็ชอบไปเที่ยวเขา แล้วยิ่งในช่วงฝนตกแบบนี้การไปเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ มีความเขียวชอุ่มของต้นไม้นานาชนิดและได้รับความชุ่มชื่นรวมไปถึงบรรยากาศเย็นๆคงจะมีความสุขและผ่อนคลายน่าดู

และสำหรับใครที่เป็นมือใหม่ในการขับรถเที่ยวและวางแผนที่จะขับรถเที่ยวเขาเพื่อจะได้ขับรถไปชมบรรยากาศไปด้วยนั้นวันนี้เรามีเรื่องดีๆที่ควรได้ทราบก่อนที่จะขับรถกันนั่นคือเทคนิคในการขับรถขึ้นและลงเขา ที่ไม่ว่าจะมือใหม่หรือใครก็ตามควรได้ทราบเอาไว้เพื่อความปลอด ภัยและยังเป็นการช่วยลดภาระของรถยนต์ในการขึ้นและลงเขา มาให้ได้ทราบกัน

1 ระวังทางโค้ง

จะเห็นได้ว่าทางขึ้นหรือลงเขานั้นถนนจะเป็นทางโค้งคดเคี้ยวไปมา ยิ่งภูเขาสูงมากเท่าไหร่ ถนนก็ยิ่งคดเคี้ยว เนื่องจากทางโค้งใช้สำหรับลดความลาดชันของพื้นที่เพื่อให้รถสามารถขับขึ้นไปได้ และในเส้นทางนั้นมักจะมีต้นไม้บังถนนอีกฝั่ง เวลาเข้าโค้งจึงควรขับชิดซ้ายเอาไว้ เผื่อมีรถอีกฝั่งแซงมาในทางโค้งจะได้หลบหลีกได้ทัน

2 เวลาขึ้นเขาควรใช้เกียร์ต่ำ

ทางขึ้นเขาจะมีความชันมาก รถจึงต้องใช้แรงมากกว่าการขับรถบนถนนปกติทั่วไป และเกียร์ที่สามารถใช้ในการขับรถขึ้นทางชันได้ ก็มีเพียงเกียร์ 1 และ 2 เท่านั้น เพราะมีแรงมากกว่าเกียร์อื่น และหากรู้สึกว่ารถเริ่มไม่มีแรงก็ให้ลดเกียร์ต่ำลงมาอีก เช่น ขับมาเกียร์ 2 แล้วรถเริ่มอืดๆ ให้ลดเกียร์มาเป็นเกียร์ 1 แทน จะทำให้รถมีแรงมากขึ้น ส่วนรถเกียร์ออโต้ ให้ใช้เกียร์จากตำแหน่ง D ไปตำแหน่ง L

3 เวลาลงเขาไม่ควรใส่เกียร์ว่าง

หลายๆคนมักเข้าใจผิดๆว่า เวลาขับรถลงเขาให้ใส่เกียร์ว่างหรือเกียร์ N แล้วปล่อยไหล ซึ่งเป็นการขับรถที่ผิดหลักอย่างยิ่งในความเป็นจริงแล้วเวลาใส่เกียร์ว่างแล้วปล่อยไหล ล้อจะเป็นอิสระจากเครื่องยนต์ทำให้เราเสียการควบคุมรถได้ง่าย หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะยิ่งทำให้เราควบคุมรถไม่อยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง

4 เวลาลงเขาให้ใช้เกียร์ต่ำ

สำหรับการขับรถลงเขาควรใช้เกียร์ต่ำไว้ ซึ่งการใช้เกียร์ต่ำวิ่งลงทางชันนั้น จะทำให้เครื่องยนต์มีแรงฉุ ดมากทำให้เคลื่อนที่ได้ไม่เร็ว เข้าโค้งได้ปลอด ภัยยิ่งขึ้น และเป็นการลดภาระการทำงานของเบรก ไม่ต้องแตะเบรกบ่อยทำให้ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเจอปัญหาเบรคแตก

5 ควรคำนวณระยะเบรกในทางลง

เวลาที่เราขับรถลงเขา ทางลงเขาจะมีความชันมาก รถจะต้องการระยะเบรกเพิ่มกว่าปกติ เนื่องจากความลาดชันของพื้นที่และน้ำหนักของตัวรถจะมีผลให้รถเบรกได้ช้าลง ดังนั้นเวลาคุณเบรกขณะอยู่บนทางลงเขา ควรคำนวณระยะเบรกให้เพิ่มขึ้นด้วยเพื่อให้สามารถเบรกได้อย่างเหมาะสม

6 ควรแตะเบรกเป็นระยะ

ในทางลงเขาเราต้องแตะเบรกช่วยเพื่อชะลอความเร็วของรถ แต่ไม่ควรแตะเบรกแช่ยาว เพราะจะทำให้เบรกไหม้ และ เบรกไม่อยู่ ควรแตะเบรกในจังหวะที่จำเป็นเท่านั้น และควรตรวจสอบเบรกรถยนต์ก่อนออกเดินทางเพื่อให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน

7 ควรเร่งเครื่องอย่างสม่ำเสมอ

การเร่งเครื่องขึ้นเขาเราต้องเร่งเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งกำลังให้รถมีกำลังขึ้นเขาอย่างต่อเนื่อง

8 เคารพเส้นจราจร

เนื่องจากถนนบนเขานั้นมีความแคบและคดเคี้ยวมาก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นรถอีกฝั่งได้ชัดเจน จึงไม่ควรขับแซงในเขตห้ามแซง หรือไม่ควรขับแซงในที่ที่ไม่สามารถมองเห็นรถอีกฝั่งได้

สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะขับรถไปเที่ยวเขาก็อย่าลืมตรวจสอบสภาพรถเพื่อให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานรวมไปถึงขับรถด้วยความระมัดระวังเพื่อให้เราได้เที่ยวและไปถึงที่หมายอย่างสวัสดิภาพ

ที่มา : kapook