ฝากถึงพ่อแม่ทุกคน “จงเลี้ยงลูกให้เป็นดั่งนกอินทรี แล้วเขาจะได้ดี”

 


ฝากถึงพ่อแม่ทุกคน “จงเลี้ยงลูกให้เป็นดั่งนกอินทรี แล้วเขาจะได้ดี”

นกอินทรีได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งนก ที่มี อ า ยุ ยื น ย า ว ที่สุดในโลก ซึ่งพวกมันสามารถมีอายุอยู่ได้นานถึง 70 ปี เรามักจะมองนกอินทรีเป็นนกที่แข็งแกร่ง มีความสง่างาม และน่าเกรงขาม แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่า กว่ามันจะได้เป็นราชานกที่สง่างามแบบนี้ต้อง

ผ่ า น อะไรมาบ้างสิ่งสำคัญของเหล่านกชนิดต่าง ๆ ก็คือการทำรัง และนกอินทรีก็เช่นกัน ซึ่งก่อนจะวางไข่ พ่อแม่นกอินทรีจะช่วยกัน

สร้างรังบนหน้าผาที่สูงชันเพราะเป็นการหลีเลี่ยงการถูกรบกวนจากสัตว์อื่นได้เป็น

อ ย่ า ง ดี โดยนกอินทรีจะสร้างรังถึง 5 ชั้นดังนี้

ชั้นที่ 1 จะเป็นก้อนหิน นกอินทรีจะหาก้อนหินก้อนใหญ่มาวางให้เป็นวง ที่มีขนาดพอตัวของมัน

ขั้นที่ 2 จะเป็นท่อนไม้ใหญ่ไขว้กันไปมา เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับรังของมัน

ชั้นที่ 3 จะเป็นกิ่งไม้ที่มีหนามขนาดใหญ่ ที่วางพาดไปมาบนท่อนไม้ ชั้นที่ 4 จะวางใบไม้หนา ๆ ไว้เป็นการป้องกันหนาม

ที่แหลมคมให้ลูกนก และยังเป็นที่นอนได้ ชั้นที่ 5 แม่นกจะจิกขนอ่อนใต้ปีกของตัวเอง แล้วนำมาปูทับด้านบนสุด เพื่อให้เป็นที่นอน

แสนนุ่มสบายทั้งหมดนี้เป็นการทำรังของนกอินทรี เตรียมพร้อมให้กับลูกนกตัวน้อยที่กำลังจะเผชิญกับโลกและเมื่อมันใช้เวลา

เลี้ยงลูกให้โตขึ้นระดับหนึ่ง จะเป็นการฝึกลูกนกอินทรีให้เข็มแข็ง และช่วยเหลือตัวเองได้ในขั้นต่อไป

ขั้นตอนการฝึกลูกของนกอินทรี

ขั้นที่ 1 แม่นกจะเริ่มฝึกลูกให้รู้จักกับความลำบากทีละน้อย ก่อนอื่นแม่นกจะเอาขนนุ่ม ๆที่ปูไว้บนรังออกเพื่อให้ลูกไม่ได้นอนสบาย

เหมือนเดิม แรก ๆ ลูกนกก็จะร้อง เพราะยังไม่ชิน แต่สักพักพวกมันก็จะเริ่มชินกับความลำบากที่เจอ

ขั้นที่ 2 แม่นกจะเอาชั้นต่อไปออก นั่นคือใบไม้ ตอนนี้จะเหลือแต่กิ่งไม้แข็ง ๆ กับหนามลูกนกก็ต้อง พ ย า ย า ม ปรับตัว

และนอนให้ได้ ข้อดีของการนอนบนหนาม ที่ฝึกลูกนกเวลาที่นอนพลิกตัวไปมา แล้วโดนหนามทิ่ม จะทำให้รู้สึกตัว

และมีสติอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะกำลังนอนอยู่ก็ตามที เป็นการระวังตัวในทุกเวลา

ขั้นที่ 3 เอาชั้นที่เป็นกิ่งไม้หนามออก ถึงตอนนี้แม้แต่กิ่งไม้หนามก็ไม่มีให้นอนแล้ว เหลือแต่ท่อนไม้แข็ง ๆ กับก้อนหิน

ชั้นล่างสุดลูกนก จึงต้องเรียนรู้ที่จะใช้ขาเกาะท่อนไม้ เพื่อฝึกให้กล้ามขาแข็งแรง และหลับโดยเกาะกิ่งไม้นอน

ขั้นที่ 4 เอาท่อนไม้ออก เหลือเพียงแค่ก้อนหินแข็ง ๆ ทำให้ลูกนกเจอกับความลำบากที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา แม้แต่ท่อนไม้ก็ไม่มีให้

เกาะ เป็นการสร้างความอดทน เตรียมความพร้อมให้ลูก ๆ ฝึกบิน

ขั้นที่ 5 สอนบิน เมื่อถึงการฝึกบิน แม่นกจะเริ่มคาบลูกนกทีละตัวออกไปโบยบินบนท้องฟ้า ให้ลูก ๆ ชินกับความสูงอากาศที่หนาว

เย็น ลมแรง ๆ แล้วพากลับรัง แล้ววนกลับไปคาบมาฝึกจนครบทุกตัวในรัง

ขั้นที่ 6 แม่นกจะพาลูกนกบิน แต่คราวนี้จะกางปีกให้ลูกนกไต่ปีกขึ้นมาแทน แล้วพาบินไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็พากลับรัง แล้วก็ทำ

แบบนี้เรื่อย ๆ จนลูกนกเริ่มชินกับการบินบนท้องฟ้า คราวนี้ แม่นกจะพาบินไปมา อ ย่ า ง รวดเร็ว และบินสูงขึ้นไป เรื่อย ๆ ลูกนกยังไม่

ทันตั้งตัว แม่นกก็จะสลัดปีกตัวเอง อ ย่ า ง แรง จนลูกนกลอยอยู่กลางอากาศ และตกลงมาด้วยความเร็ว ด้วยความตกใจ ลูกนกร้อง

ลั่น พ ย า ย า ม กางปีกออกมา เพื่อที่จะพยุงตัวเองแต่ยังไม่ทันได้กางปีก แม่นกก็จะรีบบินมารับไว้ แล้วพาบินกลับรัง

อ ย่ า ง ปลอดภัยแล้วก็ฝึกแบบนี้ไปจนครบทุกตัว แม่นกอินทรีจะฝึกลูก ๆ แบบนี้ จนในที่สุดลูกนกก็จะสามารถกางปีกและบินได้เอง

ถึงวันนั้นก็ถือว่าหน้าที่ของพ่อแม่นกเป็นที่สิ้นสุด และประสบความสำเร็จ การเลี้ยงลูกของนกอินทรี เป็นการฝึกให้ลูกเคยชินกับความ

ลำบากและให้รู้จักความอดทน สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เมื่อโตขึ้นลูกนกเหล่านี้ ก็จะกลายเป็นราชานกที่แข็งแกร่งและดูสง่างาม

ในที่สุด ดังนั้น พ่อแม่ก็ควรจะสอนให้ลูกช่วยเหลือตัวเองให้ได้ฝึกให้เขาพบเจอกับความลำบาก เพื่อให้เขามีภูมิคุ้มกัน

และแข็งแรงพอ ที่จะใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ เพราะพ่อแม่ไม่สามารถอยู่ดูแลลูกไปได้ตลอดชีวิตของพวกเขาหรอก

การปล่อยให้เขาได้เติบโตด้วยตัวเอง จะทำให้เขาปกป้องตัวเองได้ และไม่ถูกใครรังแก รักลูกก็ต้องรักให้เป็น อ ย่ า รักผิดวิธี

ขอบคุณที่มา meokayna