วันนี้มีสูตรอร่อยดั้งเดิมมาแบ่งปัน “ค้างคาวเผือก” เป็นอาหารว่างไทยโบราณ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เห็นกันแล้วค่ะ ขนมมีชื่อนี้เพราะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม เหมือนค้างคาวตอนห้อยหัวค่ะ
*ส่วนผสม
1.ไส้ขนม
– เนื้อกุ้งสด 1 ถ้วย (เก็บมันกุ้งมาใส่ด้วยเพื่อให้สีสวย)
– มะพร้าวขูดขาว 1 ถ้วย
– สามเกลอ (กระเทียม พริกไทย รากผักชี โขลกรวมกัน)
– น้ำตาลปี๊บ 2 ชต.
– ดอกเกลือ 1/2 ชช.
– น้ำมันสำหรับผัด 2 ชต.
– ใบมะกรูดซอย 1 ชต.
2.ตัวแป้งเผือก
– เผือกนึ่งสุก 3 ถ้วย
– แป้งสาลี 3 ชต.
– แป้งข้าวจ้าว 2 ชต.
– ดอกเกลือ 1/4 ชช.
– น้ำมันสำหรับทอด 2 ถ้วย
* ใช้แป้งสาลี 2 ชต.เป็นแป้งนวลตอนปั้นขนม ไม่ให้ติดมือ และใช้โรยถาดขนม ด้วยค่ะ
3.แป้งชุบทอด
– แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
– แป้งข้าวจ้าว 1/2 ถ้วย
– ไข่เป็ด 1 ฟอง
– หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
– ดอกเกลือ 1/4 ชช.
– น้ำปูนใส 1/3 ถ้วย
4.น้ำจิ้มอาจาด
– น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
– น้ำส้มสายชู 3/4 ถ้วย
– ดอกเกลือ 1/4 ชช.
– แตงกวาซอย 1 ถ้วย
– หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
– พริกเหลืองซอย 2 ชต.
**วิธีทำ
1.ไส้ขนม สับกุ้งกับมะพร้าวให้เข้ากัน ตั้งกระทะ ผัดสามเกลอกับน้ำมันให้หอม ใส่มันกุ้งลงผัด ตามด้วยกุ้งที่สับรวมกับมะพร้าว ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำตาล และเกลือ ผัดให้แห้งและเข้ากันดี ใส่ใบมะกรูดซอย ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้
2. ยีเผือก ให้แตกออก ใส่แป้ง และเกลือลงไปนวดให้เข้ากัน พักไว้ (ใช้ผ้าขาวบางปิดไว้)
3. เตรียมน้ำแป้ง สำหรับชุบทอด โดยร่อนแป้งทั้งสองชนิดใส่ชามไว้ ใส่ไข่(ใช้ช้อนตีให้เข้ากัน) ดอกเกลือ และหัวกะทิ ลงไปนวดให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำปูนใสลงไป คนให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอน แล้วพักไว้ อย่างน้อย 30 นาที (ส่วนผสมจะข้นขึ้น)
4. นำแป้งผสมเผือก มาปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว
– กดให้แบนลง ตักไส้ใส่ลงไป แล้วหุ้มให้มิด
– โดยจับเป็นลักษณะสามเหลี่ยม บีบให้เป็นสันขึ้นมาด้วย ทำจนหมดแป้ง
– นำไปชุบแป้งที่เตรียมไว้ แล้วนำไปทอดให้เหลืองทั่วทั้งชิ้น ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
5. ผสมน้ำตาล น้ำส้มสายชู เกลือ นำขึ้นตั้งเตาให้เดือด คนส่วนผสมให้เข้ากันดี ยกลงจากเตา
6. เวลาจะกิน จัดขนมใส่จาน คู่กับอาจาด (ใส่แตงกวา หอมแดง พริก ลงในถ้วย ตักน้ำเชื่อมราดด้านบน)
เพื่อนๆสมาชิกแฟนเพจอย่าลืมกลับไปลองหาโอกาสทำเมนู “ค้างคาวเผือก” ทานกันนะคะ หรือจะลองต่อยอดทำขายเพื่อสร้างรายได้อีกช่องทางก็นับว่าน่าสนใจทีเดียว อย่างน้อยก็เป็นการอนุรักษ์สืบสานเมนูอาหารไทยเอาไว้ให้คนรุ่นหลังต่อไปค่ะ ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ โปรดส่งต่อเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยจ้า
ขอขอบคุณข้อมูลสูตรและภาพจาก.Supaporn Kumnodnae