Home »
Uncategories »
เพียงดื่มน้ำกระเจี๊ยบเขียวสูตรนี้วันละ 1 แก้ว สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นผลได้ชัด
เพียงดื่มน้ำกระเจี๊ยบเขียวสูตรนี้วันละ 1 แก้ว สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นผลได้ชัด
เพียงดื่มน้ำกระเจี๊ยบเขียวสูตรนี้วันละ 1 แก้ว สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นผลได้ชัด
กระเจี๊ยบเขียว เป็นพืชสมุนไพรที่เรียกได้ว่า มีประโยชน์ต่อร่ า งกายหลากหลายมากเลยทีเดียว
และด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เวลารับประทานจะมีเมือกลื่น
ส่วนใหญ่จะนิยมนำไปต้มรับประทานคู่กับน้ำพริก ให้รสชาติที่อร่อย
นอกจากนี้น้ำกระเจี๊ยบเขียว ยังช่วยบำรุงร่ า งกายและช่วยบรรเทา โ ร ค
ต่างได้อีกมากมายเลย
ส่วนผสม
1. กระเจี๊ยบเขียวสด 4 ฝัก
2. น้ำเปล่า 1 ถ้วย
สูตรการทำน้ำกระเจี๊ยบเขียว
1. ให้นำกระเจี๊ยบเขียวไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นก็หั่นด้านข้างของฝักออก
2. นำฝักกระเจี๊ยบใส่ลงในขวด และใส่น้ำให้เต็มขวด แช่ทิ้งไว้ 8 ชั่ วโมง หรือ 1 คืน (แต่ไม่ควรเกิน 24 ชั่ วโมง)
3. ตอนเช้าค่อยบีบน้ำในฝักกระเจี๊ยบเขียวออก และเก็บน้ำไว้ ส่วนฝักก็เอาทิ้งได้เลย นำน้ำที่ได้มาดื่มทันที
วิธีการดื่ม : ให้ดื่มตอนเช้าขณะที่ท้องว่าง ควรดื่มก่อนทานมื้อเช้า 30 นาทีเป็นอย่างน้อย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและเห็นผลเร็วที่สุด
การทานกระเจี๊ยบเขียว
สามารถรับประทานแบบสดเลยก็ได้ โดยใหนำไปล้างน้ำให้สะอาด
จากนั้นก็หั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วรับประทาน
หรือจะจะนำไปแช่ใส่น้ำแล้วดื่มก็ได้
หรือใครจะนำไปย่างไฟอ่อนให้สุกแล้วรับประทานก็แล้วแต่ความชอบ
แต่ส่วนใหญ่มักจะนำไปต้ม แล้วทานคู่กับน้ำพริก
ได้รสชาติที่อร่อยบอกไม่ถูกเลยล่ะ
คำแนะนำ : หากอย า กจะได้รับคุณค่าทางอาหารให้มากที่สุด แนะนำทานแบบสด
ประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียว
1. ช่วยเคลือบ แ ผ ล
ในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ เนื่องจากฝักกระเจี๊ยบเขียวมีเมือกจำพวกเพกทิน
และกัม ป้องกันการ ลุ ก ล า ม ข อ ง แ ผ ล ได้ดี
2. ช่วยบรรเทาอาการ ป ว ด ท้ อ ง ข อ ง โ ร ค กระเพาะ
3. นำฝักกระเจี๊ยบมาต้มในน้ำเกลือแล้วใช้กิน จะช่วยแก้อาการ ก ร ด ไหลย้อนกลับได้
4. เส้นใยของกระเจี๊ยบเป็นตัวช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้
5. ช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นไม่แตกแห้ง
6. กระเจี๊ยบเขียวมีใยอาหารสูง และมีเมือกที่ช่วยให้ อุ จ จ า ร ะ อ่อนตัวขึ้น ทำให้ขับถ่ายสะดวก แก้อาการท้องผูก
7. ใช้เป็น ย า ขับปัสสาวะ โดยจะนำฝักมาต้มกับน้ำดื่มเพื่อช่วยขับปัสสาวะ
8. ให้รับประทานฝักกระเจี๊ยบติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน ช่วยขับ พ ย า ธิ ตั ว จี๊ ด ได้
ขอบคุณข้อมูล : ความรู้สนุก แบบหมอแมว