Home »
Uncategories »
หากรักด้วยใจ ต่อให้หน้าตาไม่ดี ไม่มีฐานะร่ำรวย ไร้การยอมรับ เขาก็รักอยู่ดี
หากรักด้วยใจ ต่อให้หน้าตาไม่ดี ไม่มีฐานะร่ำรวย ไร้การยอมรับ เขาก็รักอยู่ดี
วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของความรัก ถ้าความรักเป็นเรื่องของจิตใจจริงล่ะก็ แล้วทำไมยังหลงเสพสุขกับเปลือกนอกอยู่?
ทำไมจึงยังหลงสมมุติโลกว่าต้องเป็นแฟนกันหรือแต่งงานกัน? เป็นเพื่อนกันไปไม่ได้อย่างนั้นหรือ?
การที่เราจะรู้ได้ว่าเรารักด้วยใจจริงหรือไม่นั้น
ต้องทดสอบด้วยการปลดเปลื้องสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ในกรณีที่เราไปรักคนอื่น
เราอาจจะต้องค้นใจตัวเองว่า
คนดีมีตั้งมากมาย เราไปรัก ไปหลง ไปเสพอะไรกับเป้าหมายคนนี้อยู่
ถ้าเขาหน้าตาไม่ดีล่ะ บ้านจนล่ะ ทำงานที่ดูแล้วไม่น่าเจริญล่ะ
เป็นคนที่ผู้อื่นไม่ยอมรับล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นคนจิตใจดีนะ
เรายังจะรักเขาอยู่หรือไม่
หรือเรายังต้องการปัจจัยพื้นฐานเพื่อเสพสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่
ถ้ามีคนมารักเราก็ลองดูซิว่าเขามาเสพอะไรจากเรากันแน่
คุณสมบัติพื้นฐานทางโลกีย์นั้นอาจจะลดได้ยาก
แต่เราก็สามารถใช้ศีลเข้ามาคัดกรองได้
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราหน้าตาดีเราก็เลิกแต่งตัวแต่งหน้าเสีย
ถ้าเราฐานะดีเราก็สร้างนิสัยประหยัดอดออม
ถ้าเราหน้าที่การงานดีก็หัดออกไปทำงานฟรี ทำงานจิตอาสาบ่อย ๆ
หรือถ้าเราเป็นคนที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับมาก
ก็ให้เราลดความหลงในตัวตน
เช่น ยอมเป็นผู้น้อยสำหรับใครสักคน ยกตัวอย่างเช่น ยอมยกพระพุทธเจ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และน้อมรับคำสอนและวิธีปฏิบัติของท่านมาใช้
วิธีที่ยกตัวอย่างมานี้ก็ทำเพื่อที่จะคลายข้อสงสัยว่า
แท้จริงแล้วเขารักเราที่ใจหรือรักเปลือกที่ห่อหุ้มเราอยู่
เปลือกแห่งโลกีย์นั้นมีดูเหมือนสิ่งที่น่าได้น่ามี
คนเขลาย่อมเข้าใจว่ามีรสหวาน
ซึ่งคงไม่มีใครอยากรับเอาคนที่หวังจะเสพสุขแค่เปลือกเข้ามาในชีวิตแน่นอน
แต่เราก็มักจะหลงทำในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อมีใครที่เราชอบเข้ามาในชีวิต
เราก็จะเริ่มแต่งตัว ทำตัวเองให้ดูดี พรั่งพร้อมไปด้วยกาม ลาภ ยศ สรรเสริญ
ทั้งหลายเพื่อให้เขาเข้ามาสนใจเรา
ใช้ความเป็นโลกีย์ล่อเหยื่อที่เราอยากเสพเข้ามาในชีวิต
แล้วเราจะได้พบกับคนที่รักด้วยใจได้อย่างไร?
เราสามารถใช้ข้ออ้างว่าการคบกันก็ควรมีความเหมาะสมกันบ้าง
นั่นหมายถึงความต้องการพื้นฐานทางโลกีย์
ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่าเรามีมาตรฐานในการยอมรับการสนองกิเลสขั้นต่ำได้มากน้อยเท่าไหร่
และนั่นก็หมายความว่าเรายังมีกิเลสเท่าไหร่ ถ้ามีมากก็ต้องการมาก
ถ้ามีน้อยก็ต้องการน้อย
การรักที่ใจอย่างแท้จริงนั้น จะมองข้ามเปลือกแห่งโลกีย์ที่ห่อหุ้มอยู่
จะสามารถข้ามผ่านสมมุติโลกที่หลอกให้เราหลงเสพหลงติดหลงยึด
ไม่ว่าจะเป็นการคบหากันเป็นแฟนหรือคู่แต่งงาน
ซึ่งจะก้าวข้ามสิ่งที่ไร้สาระเหล่านั้นไปเสีย
เหลือแต่คุณค่าแท้จริงของจิตวิญญาณดวงหนึ่งที่ควรได้รับความรัก
ถึงอย่างนั้นก็ตาม ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่สมควรได้รับความรักเลย
เราจึงควรเพิกถอนความหลงติดหลงยึดในตัวบุคคล
กระจายความรักออกไปโดยไม่ต้องมีกรอบใด ๆ
มาขวางกั้นพลังแห่งเมตตาอันไม่มีประมาณนี้
แหล่งที่มา: ดิณห์
เรียบเรียงโดย esancuisine.com