เวลาโกรธ ทำไงดี ปัญหาที่คิดไม่ตก ลองมาดูวิธีกำจัดความโกรธ
ดับอารมณ์ร้อน ควบคุมความโกรธให้อยู่หมัดด้วยวิธีเหล่านี้
ก่อนจะกลายเป็นนิสัยร้าย ๆ ที่ใครก็เบือนหน้าหนี
ความโกรธ
อารมณ์ในแง่ลบที่ส่งผลเสียทั้งต่อร่างกายและจิตใจ
ที่หลายคนต้องเคยประสบพบเจอ
ซึ่งถ้าหากเราไม่สามารถควบคุมความโกรธได้ก็รังแต่จะมีผลร้ายตามมา
และถ้ายิ่งปล่อยให้ความโกรธนั้นอยู่กับเรานาน ๆ
ก็อาจจะกลายเป็นนิสัยที่ใครเจอก็แทบไม่อยากเข้าใกล้
ถ้าไม่อยากให้ชีวิตพังต้องมาดูวิธีระงับความโกรธที่เริ่มต้นได้ด้วยตัวคุณเอง
แค่เพียงใจเย็นลงเท่านั้น รับรองว่าทุกอย่างดีขึ้นแน่นอน
1. ควบคุมลมหายใจ
เมื่อไรที่คุณกำลังเริ่มรู้สึกโกรธละก็ ก่อนที่จะปล่อยให้ตัวเองขาดสติจนแสดงอารมณ์ด้านร้าย ๆ ออกมา ลองหยุดอยู่นิ่ง ๆ แล้วหายใจเข้า-ออกลึก ๆ ควบคุมลมหายใจให้เข้า-ออกช้า ๆ อย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับนับ 1-10 ช้า ๆ จะช่วยทำให้คุณใจเย็นลงได้ หรือถ้าจะให้ดี ลองทำสมาธิดูค่ะ
2. หยุดเพื่อให้เวลากับตัวเอง
เวลาที่คุณโกรธ สิ่งที่ควรจะทำคือการหยุดพักสักครู่ เพื่อให้คุณมีเวลาอยู่กับตัวเอง และทำให้ตัวเองได้สงบสติอารมณ์ลง หรือถ้าหากคุณกำลังอยู่ท่ามกลางต้นเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกโกรธละก็
แค่เพียงเดินออกมาอยู่คนเดียวสักครู่จนเริ่มใจเย็นแล้วถึงค่อยกลับเข้าไปเผชิญหน้าใหม่อีกครั้ง
แบบนี้จะช่วยทำให้ใจเย็นลงได้เยอะเลย
3. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ร่างกายของเราเวลาที่โกรธนั้น กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ในร่างกายก็จะตึงเครียดตามไปด้วย ดังนั้นวิธีระงับความโกรธอีกวิธีที่ง่าย ๆ คือการผ่อนคลายกล้ามเนื้อค่ะ
โดยการยืดเส้นยืดสาย ขยับตัวบิดซ้ายบิดขวาสักหน่อย
จะช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึงเครียดจากอารมณ์โกรธค่อย ๆ
ผ่อนคลายขึ้นและทำให้ใจเย็นลงค่ะ
4. คิดทบทวนให้ดี
หากคุณยังพอมีสติอยู่บ้างในระหว่างที่โกรธ ลองหันกลับไปคิดถึงสาเหตุที่ทำให้คุณโกรธ ลองคิดถึงเหตุและผลอย่างใจเย็น วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณใจเย็นและคลายความโกรธลงได้อย่างช้า ๆ แถมยังช่วยทำให้คุณมีเหตุผลมากขึ้นอีกด้วย
5. นึกถึงสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ
ถ้าหากคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถปลีกตัวไปเพื่อสงบสติอารมณ์ละก็ ลองนึกถึงสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย อย่างเช่น
สถานที่ที่คุณไปพักร้อน บ้านที่คุณเคยอยู่สมัยเด็ก ๆ
ลองคิดถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับสถานที่เหล่านั้น
บอกได้เลยว่าวิธีนี้จะช่วยให้คุณอารมณ์เย็นลงได้ในเวลาเพียงไม่นาน
6. มองโลกในแง่ดี
ความโกรธเกิดขึ้นจากการมองโลกในแง่ลบ
ฉะนั้นจะขจัดความโกรธได้ก็ต้องเปลี่ยนมุมมองความคิด
แค่เพียงหันมามองเรื่องที่คุณโกรธในแง่บวกบ้าง
ลองคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะมีเหตุผลที่จำเป็น
ถึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มองหาแง่ดีของสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
แม้บางเรื่องอาจจะไม่ดีเท่าที่ควรแต่ก็ควรบอกตนเองว่าดีแล้วที่เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น
เพราะถ้าหากไม่เกิดขึ้นก็อาจจะมีเรื่องร้ายแรงกว่านี้เกิดขึ้นก็ได้
7. ปรึกษาใครสักคนที่คุณไว้ใจ
หากคุณรู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
ซึ่งทำให้คุณรู้สึกโกรธละก็
การหันหน้าไปปรึกษาใครสักคนที่คุณไว้ใจก็สามารถช่วยให้ปัญหาเหล่านั้นคลี่คลายลงไปได้ เพราะหลาย ๆ ครั้งการที่จะทำให้คุณใจเย็นลงนั้น
คำปลอบประโลมก็ไม่ได้ช่วยให้คุณหายโกรธได้เสมอไป
แต่คำพูดที่จริงใจและคำแนะนำที่ดีต่างหากที่สำคัญ
8. ออกกำลังกาย
การปลดปล่อยความโกรธอีกวิธีหนึ่งที่ดีต่อสุขภาพจิตและดีต่อร่างกายก็คือการออกกำลังกาย หากคุณรู้สึกโมโหใครสักคน ลองปลดปล่อยออกมาผ่านการออกกำลังกาย
วิธีนี้นอกจากจะช่วยทำให้คุณสบายใจขึ้นแล้วก็ยังช่วยให้สุขภาพแข็งแรงอีกด้วย
9. ปลดปล่อยออกมาเป็นตัวหนังสือ
แม้ว่าการปลดปล่อยความโกรธจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร แต่ถ้าคุณไม่สามารถเก็บความโกรธเอาไว้ได้จริง ๆ ก็ลองเขียนระบายลงในกระดาษดูค่ะ เขียนในสิ่งที่ทำให้คุณโกรธ
และสิ่งที่คุณไม่สามารถพูดออกมาได้
การได้ระบายก็สามารถทำให้คุณอารมณ์เย็นลงได้
แต่ขอแนะนำว่าควรจะเขียนลงในสมุดที่เก็บมิดชิดจะดีที่สุดนะคะ
อย่าระบายลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กเด็ดขาดไม่งั้นอาจจะนำมาสู่เรื่องเดือดร้อนในอนาคตได้เหมือนกันนะ
10. รู้จักการให้อภัย
การให้อภัยมีพลังอันยิ่งใหญ่มากเกินกว่าที่คุณจะคาดถึง เพราะไม่เพียงแต่มีผลต่อคนที่คุณโกรธเท่านั้น
แต่ยังช่วยในเรื่องของจิตใจของผู้ที่ให้อภัยได้อีกด้วย
เพราะเมื่อคุณให้อภัยใครสักคน
ความโกรธที่คอยทำให้คุณมีแต่ความทุกข์ก็จะหมดไป
ทำให้คุณสบายใจและมีความสุขมากขึ้นนั่นเอง
ความโกรธ
เป็นสิ่งที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้
แค่เพียงเรามองโลกในแง่ดีและเข้าอกเข้าใจคนอื่นให้มากขึ้น แค่เพียงเท่านี้
แม้ว่าจะเจอปัญหาหรืออุปสรรคใด ๆ
ก็รับรองได้เลยว่าจะไม่มีทางโกรธจนหน้าดำหน้าแดงอย่างแน่นอน