ขนมสูตรโบราณหม้อแกงเผือก หวานมัน รสชาติอร่อย

 


ขนมสูตรโบราณหม้อแกงเผือก หวานมัน รสชาติอร่อย

ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆทุกท่านมาเข้าครัว และเรามาพร้อมกับเมนูขนมโบราณแสนอร่อย กับการทำหม้อแกงเผือก ที่ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่ามีข า ยอยู่ตามร้านของฝากทั่วไป ด้วยรสชาติขนมหม้อแกงเผือก มีรสชาติที่หวานมัน มีความหอมกลมกล่อมรสชาติกำลังดี จึงเป็นขนมยอดนิยมของใครหลายๆคน

และเราไม่ได้มามือเปล่า เพราะเราได้มีสูตรการทำขนมหม้อแกงเผือกแบบฉบับที่ทำง่ายๆมาฝากให้กับเพื่อนๆทุกท่านได้ทำตามกันได้ ส่วนผสมอุปกรณ์หาได้ง่าย ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยาก เราตามมาดูกันเลยว่าจะต้องเตรียมและมีขั้นตอนการทำแต่ละขั้นตอนด้านล่างนี้อย่างไร ไม่ยากอย่างที่ใครหลายๆคนคิดเอาไว้

ส่วนผสม (ได้ขนมประมาณ 9 ชิ้น)

1 เผือกนึ่ ง 1 ถ้วย

2 น้ำกะทิ 1 ถ้วย

3 ไข่ 1 ถ้วย (ไข่เป็ด 2 ฟอง ไข่ไก่ 1ฟอง)

4 น้ำตาลโตนด 1/2 ถ้วย

5 หอมแดง 6 หัว

6 น้ำมันมะพร้าว 1/3 ถ้วย

7 เกลือปลายช้อน

8 ใบเตย 4 ใบ เพิ่มความหอม

ขั้นตอนการทำ

1 สำหรับขั้นตอนการทำนั้น ในขั้นตอนแรกเราจะเริ่มด้วยการนำหอมมาเจียวเข้ากับน้ำมันมะพร้าวให้มีความหอมและมีความเหลืองกรอบ จากนั้นให้เราตักขึ้นพักเอาไว้ ( ให้เก็บน้ำมันที่เราเจียวเอาไว้ สำหรับทาถาดขนมและตัวหน้าขนมด้วย )

2 เผือกที่เรานึ่ งเสร็จเป็นที่เรียบร้อยเราใช้ส้อมกดให้แตกออก หรือจะนำไปโขลกในครกก็ได้หากชอบเนื้อเนียน แต่หากใช้ส้อมกดๆขนมที่ได้นั้นจะมีลักษณะเป็นชิ้นเผือกเล็กๆอยู่ด้านในด้วย แล้วแต่ตามความชอบ

3 ผสมไข่ไก่ กะทิ น้ำตาลทราย และเกลือคนด้วยใบตองให้น้ำตาลละลายดี ให้ไข่ขึ้นฟอง จากนั้นให้เรานำส่วนผสมที่ได้ไปกรองด้วยกระชอน และให้ใส่เผือกที่เราเตรียมเอาไว้ใส่ลงไปคนให้เข้ากันดี

4 น้ำมันที่เราเก็บเอาไว้นำมาทาให้ทั่วถาด จากนั้นเทขนมที่ได้ใส่ลงไปและทำการอบด้วยไฟ 190 องศาเป็นเวลานานประมาณ 50 นาทีหรือจนกว่าตัวขนมของเราจะสุกดี จากนั้นนำออกจากเตาพักขนมให้อุ่นนำน้ำมันจากการเจียวหอมมาทาที่ด้านหน้าของขนมมีความเงาสวยงามและน่าทานมากขึ้น โรยหน้าด้วยหอมเจียวกรอบๆ ตัดเป็นชิ้นและพร้อมเสิร์ฟได้เลย

เป็นอย่างไรกันบ้ า งสำหรับสูตรขนมที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ เพื่อนๆที่ชื่นชอบหรืออยา กที่จะเข้าครัวลองทำตามก็ลองนำสูตรนี้ไปทำตามกันได้ไม่ยาก จะได้ขนมหม้อแกงเผือกที่ให้ความหอมหวานอร่อย มีหน้าตาที่น่ารับประทาน หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านกันค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : Supaporn Kumnodnae