กฎ 10 ข้อ สอนลูกให้ดูแลตัวเองเป็น ประสบความสำเร็จและจิตใจเข้มแข็ง

 


กฎ 10 ข้อ สอนลูกให้ดูแลตัวเองเป็น ประสบความสำเร็จและจิตใจเข้มแข็ง

ยุคนี้การสอนลูกให้เป็น เ ด็ ก ที่มีจิตใจเข้มแข็งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรปลูกฝังลูกตั้งแต่ยังเล็กวันนี้เรามี วิธีเลี้ยงลูกให้จิตใจเข้มแข็ง

มาฝาก ทั้งนี้ก็เพื่อให้ เ ด็ ก ๆ ได้คุ้นเคยกับทักษะชีวิตต่าง ๆที่จำเป็นต่อการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางอารมณ์ในอนาคต

เพื่อให้ลูกพร้อมเผชิญโลกกว้างได้ อ ย่ า ง ราบรื่น ในย ามต้องเจอกับปัญหาที่มากระทบกระเทือนจิตใจ ก็จะสามารถจัดการและ

รับมือกับความ ย า ก ลำบากนั้นๆ ได้การสอนให้ลูกมีความเข้มแข็งทางจิตใจในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการฝึกให้ลูกเป็นคนแข็งกร้าว

หรือการทำให้ลูกกลายเป็น เ ด็ ก เก็บกด ในทางกลับกัน คือ การสอนให้ลูกสามารถเรียนรู้ ที่จะรับมือและเผชิญกับสถานการณ์ ย า ก

ลำบากต่างๆ ที่หลากหลายได้ อ ย่ า ง ชาญฉลาดการช่วยให้ เ ด็ ก พัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจนั้น พ่อแม่ต้องใช้ วิธีการสอนด้วย

การสร้างสถานการณ์การเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติ สำคัญที่การสอนให้ เ ด็ ก เปลี่ยนความคิดเชิงลบต่างๆให้แทนที่ด้วยความคิดเชิงบวก

ซึ่ง ต่อไปนี้คือวิธีการสอน 10 ข้อที่จะช่วยให้ลูกของคุณพัฒนาทักษะความแข็งแข็งทางจิตใจและอารมณ์โตไปเป็นผู้ใหญ่ที่

ประสบความสำเร็จ ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่ างมีความสุขแน่นอนครับ

1 สอนทักษะเฉพาะ

เช่น การมีระเบียบวินัยในตัวเอง ตลอดจนทักษะการอดทนและแก้ปัญหาต่างๆที่ต้องเผชิญ เช่น การรู้จักควบคุมความ อ ย า ก ได้

อ ย า ก มี ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้ลูกคุณเรียนรู้ที่จะปรับตัวแม้ในขณะที่เขาเผชิญกับสถานการณ์ที่ ย า ก ลำบาก

2 ปล่อยให้ลูกได้ทำผิดพลาดบ้าง

สิ่งสำคัญคือการสอนลูกว่าการมีข้อผิดพลาด ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการเรียนรู้ปล่อยให้สิ่งที่ผิดพลาดเป็นประสบการณ์

เพื่อคอยสอนใจไม่ให้ลูกไม่ทำผิดซ้ำสองด้วยวิธีนี้ลูกจะไม่รู้สึกละอายใจที่จะทำผิดพลาดไปบ้าง และจะสามารถยกโทษให้ตัวเองได้

ไวหากเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ก็ตามในชีวิตของลูก

3 สอนให้ลูกรู้จักวิธีการพูดเชิงบวกกับตัวเองซ้ำๆ บ่อยๆ

วิธีนี้เรียกอีก อ ย่ า ง ว่าการสอน S e l f – T a l k  คือ การให้ลูกได้อธิบาย ว่าในวันนี้ลูกได้ทำอะไรบ้างตัว อ ย่ า ง เช่น ฝึกให้ลูก

พูดกับตัวเองในด้านบวกซ้ำๆ หากทำเป็นประจำจะช่วยเปลี่ยนภาพในจินตนาการในใจลูกให้มองตัวเองในแง่ดีสำหรับใน เ ด็ ก เล็ก

หากว่าเราฝึกให้ลูกพูดด้านบวกบ่อยๆ จิตใต้สำนึกของ เ ด็ ก จะรับรู้และซึมซับแต่สิ่งที่ดีๆ เข้าไป ผลลัพธ์ที่ เ ด็ ก แสดงออกมาก็จะ

มาจากใต้จิตสำนึกที่ดีในตัวเองวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยปลูกฝังให้ลูกเป็น เ ด็ ก ที่มีความมั่นคงทางอารมณ์ตลอดจนแสดงออก

ทางอารมณ์ต่างๆ ได้อย่ างเหมาะสมพอดี

4 กระตุ้นให้ลูกของคุณเผชิญหน้ากับความกลัว

หากลูกหลบเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกกลัวไปตลอด ลูกจะไม่มีวันได้รู้จักวิธีสร้างความมั่นใจเมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์ที่

ย า ก ลำบากไม่ว่าลูกของคุณจะกลัวความมืด หรือกลัวที่จะพบกับผู้คนใหม่ ๆ เป็นต้นคุณสามารถช่วยลูกให้ได้ลองเผชิญหน้า

กับความกลัวได้ อาจจะค่อยๆให้ลูกได้เผชิญกับความกลัวทีละนิด คอยอยู่เคียงข้างลูก และคอยชื่นชมในความ พ ย า ย า ม ของลูก

ที่สำคัญคือการให้รางวัลในความกล้าหาญแก่ลูก ด้วยวิธีนี้จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ว่าตัวเขาสามารถก้าวออกจากเซฟโซนได้ อ ย่ า ง มั่นใจเต็มภาคภูมิ

5 ปล่อยให้ลูกของคุณรู้สึกอึดอัดบ้าง จะเป็นไรไป

ใน ย า ม ที่ลูกตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกอึดอัดย ากลำบากใจ ให้คุณลองปล่อยให้ลูกได้ลองหาทางออกกับสิ่งที่เจอด้วย

ตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาแล้วคุณยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือลูกทุกๆ ครั้งร่ำไปจะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเขาต้องได้รับการช่วยเหลือ

จากคุณเสมอ ยิ่งทำให้ลูกไม่เกิดความภาคภูมิใจในตัวเองในการหาทางเอาชนะปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตัวเองได้

6 เป็นแบบอย่ างที่ดีให้กับลูก

นอกจากการสอนลูกด้วยวิธีต่างๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือการที่คุณต้องทำตัวให้เป็นแบบ อ ย่ า ง ที่ดีโดยเฉพาะ

เรื่องศีลธรรม จ ร ร ย า บ ร ร ณ ให้ลูกเห็น เพราะตราบใดที่ลูกยังไม่บรรลุนิติภาวะย่อมต้องการเข็มทิศทางศีลธรรม จ ร ร ย า ที่ดี

เ ด็ ก จะเรียนรู้ระดับของการให้ความสำคัญของการแสดงออกต่อเพื่อนมนุษย์ ทั้งการอยู่ร่วมกันในสังคมด้านการเห็นอกเห็นใจตลอด

จนความซื่อสัตย์ต่อตนเองครอบครัวและสังคมจากพ่อและแม่ อ ย่ า ง หลีกเลี่ยงไม่ได้ฉะนั้นการสอน อ ย่ า ง เดียวไม่เพียงพอ

คุณต้องทำตัวเป็นแบบ อ ย่ า ง ที่ดีอยู่เสมอด้วย

7 ให้ความสำคัญกับความกตัญญู

การสอนให้ลูกรู้จักความกตัญญูตั้งแต่ยังเล็ก วิธีสอนลูกให้กตัญญูไม่ใช่แค่คำพูดที่พร่ำสอนแต่การกระทำให้เห็นเป็นตัว อ ย่ า ง

นั้นสำคัญที่สุด เริ่มง่าย ๆจากการกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ทดแทนบุญคุณด้วยการเลี้ยงดูท่าน ย า ม แก่เฒ่าหรือ เ จ็ บ ป่วยเพื่อเป็น

ต้นแบบที่ดีให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องความกตัญญูกตเวที ด้วยการปลูกฝังให้ลูกรู้จักความกตัญญูกตเวทีจะทำให้ลูกของคุณรู้ว่าอะไรผิด

ชอบ ชั่ ว ดี ที่ควรกระทำและไม่ควรทำต่อเพื่อนมนุษย์นอกจากนี้ เมื่อลูกแสดงถึงความกตัญญู เช่น การช่วยเหลืองานบ้าน

หรือช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ แม้แต่เล็กๆ น้อยๆคุณควรให้คำชมเชยแก่ลูกตามสมควร ให้ลูกได้รู้สึกว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นเรื่องถูกต้อง

และน่ายกย่อง นอกจากนี้ หากพ่อแม่เห็นข่าว หรือเรื่องราวดี ๆก็สามารถนำเรื่องนั้นมาบอกเล่าให้ลูกเห็นภาพ เช่น เ ด็ ก คนนี้กตัญญู

ต่อพ่อแม่พอโตแล้วก็ช่วยทำงาน แบ่งเบาภาระพ่อแม่ด้วยการหารายได้พิเศษอย่ างไรก็ตาม การอบรมสั่งสอน เ ด็ ก ไม่ควรกดดัน

ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆสอน เรื่องราวต่าง ๆ ถ้าตอกย้ำมากเกินไป ลูกอาจจะกดดันจนรู้สึกต่อต้านได้

8 สอนลูกให้รู้จักการรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง

เมื่อใดก็ตามที่ลูกบกพร่องในหน้าที่ของตัวเอง เช่น ไม่ทำตามหน้าที่ในสิ่งที่คุณได้มอบหมายตามที่ตกลงกันไว้คุณควรเปิดโอกาส

ให้ลูกอธิบายสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ต้องไม่ใช่คำพูดแก่ตัวที่ฟังไม่ขึ้นเช่นพูดโทษสิ่งอื่นๆ การสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบ

การลงโทษว่ากล่าวตามสมควรเมื่อลูกบกพร่องในหน้าที่ของตัวเอง และชมเชยเมื่อลูกมีความรับผิดชอบตามความเป็นจริงจะหล่อ

หลอมให้ลูกโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักหน้าที่ของตัวเองและมีความมั่นคงทางอารมณ์หากเกิดข้อผิดพลาดต่างๆ ขึ้นมา เขาจะไม่กล่าว

โทษคนอื่น แต่จะยืด อ ก รับผิดด้วยตัวเอง อ ย่ า ง ภาคภูมิและสิ่งนี้เองที่จะทำให้ลูกเป็นผู้ใหญ่ที่ได้รับการยอมรับในสังคม

9 สอนทักษะการควบคุมและจัดการกับอารมณ์ทางด้านลบ

ในข้อนี้ สิ่งที่คุณไม่ควรทำ คือ การ พ ย า ย า ม ทำให้ลูกของคุณสงบในขณะที่ลูกกำลังโกรธหรือแสดงอารมณ์ด้านลบต่างๆ

หรือคอยให้กำลังใจ กระทั่งโอ๋ลูกทุกครั้งที่เศร้าหมองหรือผิดหวัง แต่คุณควรสอนลูกถึงวิธีจัดการกับอารมณ์ด้านลบด้วยตัวเอง

บ้างไม่เช่นนั้นลูกจะไม่รู้วิธีอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด

10 เป็นแบบอย่ างของความแข็งแกร่งทางจิตใจให้ลูก

ชี้แนะและเป็นแบบ อ ย่ า ง ให้ลูกได้เห็นว่าการหมั่นฝึกทำตัวเองให้มีจิตใจให้เข้มแข็งจนเป็นนิสัยถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดใน

การพัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจ ตลอดจนความมั่นคงทางอารมณ์หมั่นให้ลูกรับรู้ถึงแนวทางในการดำเนินชีวิตของคุณ

ที่ค่อนข้างให้ความสำคัญในเรื่องความเข้มแข็งและไม่ยอมแพ้ต่อความย ากลำบากต่างๆ ที่ต้องเจอในชีวิตประจำวันสิ่งนี้จะ

ทำให้ลูกมีแบบ อ ย่ า ง ในชีวิตที่ดี และกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ไม่ ย า ก