มะม่วงหาวมะนาวโห่ ประโยชน์มากหลาย บำบัดโรคได้หลายชนิด

กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก สำหรับ “มะม่วงหาวมะนาวโห่” หลายคนยังคงไม่รู้ว่าเป็นสมุนไพรชั้นดีที่ช่วยบำรุงรักษาร่างกายของเรา แถมประโยชน์ที่ได้จากการกินนั้น สุดยอดมากจริงๆ วันนี้เราได้นำมาเสนอทุกๆคน ลองอ่านกันดูนะคะ

มะม่วงหาวมะนาวโห่ พืชสมุนไพรมหัศจรรย์ บำบัดโรคได้หลายชนิด


มะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นพืชสมุนไพรไทยชื่อแปลกชนิดหนึ่งที่ในช่วง 2-3 ปีนี้กำลังเป็นที่นิยม จัดเป็นผลไม้ประเภทรับประทานผลสุก มีรสชาติเปรี้ยวเฉพาะตัว มีผลขนาดเล็กสุกสีแดง คล้ายกับมะเขือเทศราชินีหรือองุ่นแดง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงราว 5-10 เมตร มีชื่อเรียกหลายชื่อตามแต่ภูมิภาค เช่น ต้นหนามแดง มะนาวไม่รู้โห่ มะนาวโห่ คุณสมบัติที่สำคัญของ “มะม่วงหาว มะนาวโห่” จะเป็นเรื่องของการป้องกันมะเร็ง เพราะภายในผลไม้ชนิดนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงโลหิต ชะลอการแก่ก่อนวัย ป้องกันโรคหัวใจ ขยายหลอดเลือด รักษาปอด รวมไปถึงอาการถุงลมโป่งพองก็ช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นได้ มะม่วงหาวมะนาวโห่ไม่ได้มีเพียงแค่การรับประทานผลสุกเท่านั้น แต่สามารถนำทุกส่วนของลำต้นมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น


“มะม่วงหาวมะนาวโห่” จัดเป็นผลไม้สมุนไพรชนิดหนึ่ง ลักษณะของผลจะมีสีแดงเรียวเล็กคล้ายกับมะเขือเทศราชินี สำหรับรสชาติของผลสุกจะออกหวานนุ่มลิ้น แต่ถ้ายังไม่สุกจะมีรสเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน มีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง เมื่อกัดไปแล้วจะมียางเหนียว ๆ ฝาดคอ (เป็นผลไม้ในวรรณคดีเรื่องพระรถเมรี (นางสิบสอง) ใครเคยอ่านคงทราบกันดี)

สิ่งที่น่าสนใจคือ เป็นสมุนไพรที่ช่วยซ่อมร่างกาย แค่กินสด-ต้องเลือกลูกที่สีดำ กินวันละ 5-7 ลูก แต่ให้ระวังยางสักหน่อย ไม่แนะนำสำหรับสตรีตั้งครรภ์ ส่วนคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ อาจเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ให้เริ่มจากกินวันละ 1 ลูกก่อนเพื่อปรับสภาพร่างกาย สักพักถึงเพิ่มปริมาณ ไม่ควรเกิน 10 ลูกต่อวัน กินติดต่อกันจะรู้สึกว่าเลือดลมหมุนเวียนดี สุขภาพแข็งแรงขึ้น

อีกสูตรที่ใช้บำรุงสุขภาพคือ ทำเป็นน้ำหมักสมุนไพร โดยเก็บชนิดผลสีแดง เด็ดขั้ว ทิ้งให้ยางจนแห้งก่อนจะล้างน้ำให้สะอาด

วิธีการหมัก


– ใช้ผล 3 กิโลกรัม ต่อน้ำตาล 1 กิโลกรัม


– น้ำผึ้ง 350 ซีซี หมักในโหลแก้วไว้ 1 เดือน จึงเติมน้ำ 5 ลิตร


– แล้วหมักต่อจนครบ 3 เดือน เป็นอย่างน้อย ดื่มวันละ 1 เป๊ก ร่างกายจะปรับสภาพจนสมดุลและแข็งแรงขึ้น


ประโยชน์ของมะนาวโห่ส่วนต่างๆ ที่ดีต่อร่างกาย


สรรพคุณส่วนผล


– เนื่องจากมีวิตามินซีสูง จึงสามารถรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้

– มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยชะลอความแก่ชรา

– ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน โรคเกาต์ โรคปอด โรคถุงลม โรคไต โรคโลหิตจาง เป็นต้น

– มีส่วนช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้ อาทิ เบาหวาน โรคเกาต์ โรคปอด โรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่ โรคไต โรค


สรรพคุณส่วนใบและยอดอ่อน


– แก้เจ็บคอ ท้องเสีย ไข้ ถอนพิษ

– ช่วยรักษาอาการคันตามผิวหนัง

– โรคริดสีดวงทวาร (ยอดอ่อน)


สรรพคุณส่วนเปลือก


– ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องเสีย

– แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ

– รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง


สรรพคุณส่วนราก


– ช่วยให้เจริญอาหาร ดับพิษร้อน

– บำรุงธาตุ บำรุงกระเพาะอาหาร

– มีประโยชน์รักษาแผลเบาหวาน


สรรพคุณส่วนลำต้นและเนื้อไม้


– ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระปรีกระเปร่า

– แก้อาการอ่อนเพลียและเมื่อยล้า

– ใช้รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง


สรรพคุณส่วนน้ำยาง


– แก้กลากเกลื้อน ใช้สมานแผล

– รักษาแผลเนื้องอก รักษาหูด รักษาตาปลา

หมายเหตุ


**หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทานเด็ดขาด ส่วนคนที่เป็นโรคหัวใจโตไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะเมื่อรับประทานผลเข้าไปแล้วประมาณ 10 นาที จะทำให้รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ควรรับประทานวันละ 1 ผลเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพจนชินก่อน เมื่อไม่มีอาการแล้วค่อยเพิ่มปริมาณเป็น 10 ผล รับประทานประมาณ 3 เดือนจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี


ขอบคุณข้อมูลจาก : naykhaotom