Home »
Uncategories »
5 วิธี “เปลี่ยนนิสัยให้มีเงินเก็บ” ลองนำไปใช้กับตัวเองดูนะ
5 วิธี “เปลี่ยนนิสัยให้มีเงินเก็บ” ลองนำไปใช้กับตัวเองดูนะ
เค้าว่า…..เงินทองเป็นของนอกกาย แต่…. มันจะสายถ้าเก็บไม่อยู่
เงินเดือนออกทีไรกินอาหารญี่ปุ่นที่ร้าน แต่ปลายเดือน
กินอาหารญี่ปุ่นเป็นเส้นในห่อที่บ้านทุกที
เงินเดือนทำไมเป็นเงินครึ่งเดือน เก็บไม่อยู่
ส่วนเงินในอนาคตที่มาเป็นบัตร Plastic ก็ใช้จนเต็มวงเงิน แล้วอย่ างนี้
แก่ตัวไปจะมีเงินใช้ย ามแก่หรือเปล่า ทำไงดี!
หลายท่านเก็บเงินไม่อยู่เพราะความต้องการในการใช้สูง
หรือบางทีมีเหตุอันจำเป็นที่ต้องใช้ เช่นค่ารักษาพย าบาล ค่าซ่อมแซมรถ
หรือบ้าน ค่าเทอม ค่าอื่น ๆ แต่บางครั้งก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ค่อยจำเป็น
เช่นซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ทดแทนเครื่องเก่าที่ยังใช้งานได้อยู่แต่แค่ตกรุ่นไปบ้าง
ซื้อเครื่องเสียงใหม่เพราะเครื่องเสียงเก่าไม่รับ B l u e t o o t h
ของโทรศัพท์เครื่องใหม่ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ยังรอเวลาได้ ลองอ่ า
นบทความนี้ดูครับ เผื่อจะมีเงินเก็บขึ้นมานิด ๆ หน่อย ๆ
1. พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ก่อนที่จะซื้อของใหม่
ให้ลองคิดให้รอบคอบก่อนว่ามันจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องซื้อ
ชำรุดเสียหายแล้วจริง ๆ ใช้งานไม่ได้แล้วจริง ๆ
หรือแค่อย ากได้เพราะเพื่อนยุ เครื่องเก่าอย ากทันสมัย หรือมีโปรลดราคา
ถ้าคิดได้ว่าจำเป็นจริง ๆ หรือไม่แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ หรือ จะรอไปซักพัก
ก็จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นนิดหน่อยนะครับ
2. ไม่ต้องเป็นที่สุด กลัวจะตกรุ่นถ้าซื้อของชิ้นนี้
กลัวที่จะอายเพื่อนถ้าซื้อรุ่นต่ำ ถ้าซื้อรุ่นใหม่ที่สุดน่าจะอยู่ได้นาน
ความคิดแบบนี้ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปนะครับ ถ้าคุณกลัวตกรุ่นแล้วหล่ะก็
สินค้าที่คุณซื้อวันนี้ ปีหน้าก็ออกรุ่นใหม่มาอีก
แล้วเครื่องเก่าของคุณก็จะตกรุ่น กลัวที่จะอายเพื่อน แต่บางครั้งของใช้
ก็ไม่ใช่ของที่จะเอามาโชว์
ลองเปลี่ยนแนวคิดใหม่ซื้อเท่าที่จำเป็น
เพราะความจำเป็นของคนเราไม่เท่ากัน และเงินในกระเป๋าก็ไม่เท่ากัน
คุณอาจจะต้องซื้อรุ่นที่สูงที่สุดเพราะคุณต้องใช้งานมันแบบนั้น
แต่ถ้าคุณไม่จำเป็นก็ซื้อรุ่นที่ต่ำลงมาหน่อย
ก็ประหยัดเงินได้อยู่เหมือนกัน
3. เอาเงินไว้ไกลตัว เงินอยู่ใกล้ ๆ ตัวก็หยิบเอามาใช้ง่าย ๆ
ก็หมดไปเร็ว ถ้าลองเอาเงินไว้ไกล ๆ เช่นฝากธนาคารแบบไม่มีบัตร ATM
จะต้องไปเบิกที่สาขาอย่ างเดียว
โอกาสที่จะเบิกเงินส่วนนั้นมาใช้ ก็จะยิ่งย าก
แต่ก็ต้องแบ่งออกมาเป็นส่วนๆไปนะครับ
เช่นเงินที่ใช้ประจำวันหรือฉุกเฉินจะต้องนำมาใช้ได้อย่ างง่าย
ส่วนเงินเก็บก็ควรเอาไว้ไกล ๆ ยิ่งเบิกย ากยิ่งดี ยิ่งบัตรเครดิตละก็
ลืมเอาติดตัวไปบ้างก็ดีนะ จะได้ไม่รูดเล่นจนไม่เหลือวงเงิน
4. ไม่ไปแหล่งที่อั น ต ร า ย หนุ่ม ๆ สาว ๆ
ชอบเดินเล่นดูของที่ตัวเองชอบเสมอ ๆ ทำให้เกิดความอย
ากได้และก็หาเหตุผลให้กับของเก่าที่มีอยู่ เช่นเดินดูโทรศัพท์มือถือบ่อย ๆ
เพราะชอบความแปลกใหม่ของยี่ห้อต่าง ๆ พอกลับมาบ้าน
กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่มีอยู่ อยู่ดี ๆ ก็เกิดช้า เกิดอาการค้างขึ้นมา
ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เปิดก็ช้า ปิดก็ช้า ไม่มี f u n c t i o n
ที่เหมือนเครื่องที่เพิ่งสัมผัสมาตอนเย็น
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ใช้งานได้ดีมาโดยตลอด
ก็เลยคิดว่าควรจะเปลี่ยนเพราะไม่ตอบโจทย์แล้ว ซึ่งมันเป็นอั น ต ร า
ยต่อเงินในกระเป๋าอย่ างยิ่ง
5. ให้คนอื่นบังคับ ถ้าบังคับตัวเองไม่ได้จริงๆ
คงต้องพึ่งคนอื่นแล้วละครับ ยังไงก็เก็บเงินไม่อยู่ทั้งๆ
ที่ลองมาหลายวิธีแล้ว ลองวิธีนี้ครับ
ฝากเงินแบบฝากประจำทุกเดือนเพิ่มวินัยให้ตัวเองต้องเอาเงินไปฝากธนาคาร
ทำประกันชีวิตรายปี ที่ต้องจ่ายทุกปีเมื่อครบกำหนดยิ่งพวกประกันชีวิต 10
ปีขึ้นไปเอามาหักภาษีได้อีก ก็ยิ่งมีเงินเก็บเพิ่มเติมอีก
การให้คนอื่นบังคับแบบนี้ยิ่งทำให้เรามีวินัยในการเก็บเงินมากขึ้น
ยิ่งมีเงินเก็บมากขึ้น ก็ยิ่งมีความมั่นคงมากขึ้น แต่เงินเก็บอย่
างเดียวไม่พอ คุณต้องรู้จักบริหารเงินเก็บให้งอกเงยขึ้น มีดอกมีผลให้คุณ
ทวีความมั่งคั่ง แต่ถ้าคุณเอาเงินเก็บไว้ในบ้านเฉย ๆ
ไม่มีทางที่จะได้ผลประโยชน์ บางทีปลวกมาแทะอีกหมดกันคราวนี้
ลองฝากธนาคาร หรือลงทุนแบบง่าย ๆ เพื่อให้มีเงินเพิ่มขึ้น
แล้วค่อยเอาผลประโยชน์มาจับจ่ายใช้สอยสิครับมีแต่ได้กับได้
ที่มา : mbklife.co.th