“ฟ้าดินแยกเราเท่าไรไม่ขาด ภพชาติพรากเราห่างกันไม่ได้ เมื่อบุพเพสันนิวาสมั่นหมายให้เจอ”
นั่งฟังเพลงประกอบละคร เรื่องบุพเพสันนิวาสแล้ว ก็ทำให้คิดถึงชีวิตจริงของคนเราที่เกิดมา
ไม่รู้อะไรหรือสิ่งใด ทำให้คนเรามาพบกัน?
บางคู่ บางคน อยู่ไกลกันสุดขอบฟ้า แต่กลับได้มาพบรักกัน
และได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ทั้งที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีโอกาสได้มาเจอกัน
อาจเพราะเคยทำบุญ ทำกรรมร่วมกันมา หรือเคยเป็นเนื้อคู่กัน เคยอยู่ร่วมกันมาก่อนในอดีตชาติ
ซึ่งก็คือความหมายของคำว่า “บุพเพสันนิวาส” นั่นเอง
คำถามก็คือ แล้วคนที่ต้องอยู่คนเดียวล่ะ แสดงว่าไม่เคยมีเนื้อคู่ หรือไม่เคยอยู่ร่วมกับใครเลย อย่างนั้นน่ะหรือ?
คำตอบก็คือ ก็ไม่แน่เสมอไป นอกจากคนที่ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยรู้จักใคร ไม่เคยคบใคร ไม่เคยรักใคร
หรือไม่เคยอยู่ร่วมกับใครเลยสักคน นอกนั้น ก็น่าจะเคยมีคู่กันมาในอดีตเป็นแน่
คำถามต่อมาก็คือ แล้วถ้าไม่ใช่บุพเพสันนิวาสล่ะ ยังจะมีปัจจัยอื่นอีกไหม ที่ทำให้คนเรามาพบกัน มารักกัน
อืม อันนี้ก็ตอบยากเหมือนกัน ส่วนมากคนเรา มักพบรักกันที่โรงเรียน ไม่ก็พบรักกันในที่ทำงาน
นั่นก็เพราะเป็นสถานที่ ที่คนเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานหน่อย
อาจมีคู่รักอีกส่วนหนึ่งที่พบกันตามร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานที่เที่ยว ได้จีบกัน
คุยกันและคบกันต่อมาจนรักกัน หรือแม้แต่รู้สึกรักตั้งแต่แรกพบเลย ก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย
ซึ่งจะว่าไป นอกจากบุพเพสันนิวาสแล้ว ก็ไม่รู้จะหาคำตอบใด มาอธิบายได้ว่า ทำไมเราต้องไปเรียนที่นี่
ไปทำงานที่นั่น ไปกินอาหารที่โน่น ไปช็อปปิ้งหรือไปเที่ยวที่ไหน จนกระทั่ง เราได้พบได้เจอคนที่เรารักแบบนี้
เราอาจมีความเห็นแย้งว่า ถ้าเป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาส ที่ทำให้คนมาพบกัน มารักกันแล้ว ทำไมบางคู่ บางคนถึงต้องเลิกกันล่ะ?
คำตอบก็คือ ไม่รู้เหมือนกันแฮะ อาจเพราะคำว่า บุพเพสันนิวาส หมายถึง เคยเป็นเนื้อคู่กัน หรือเคยอยู่ร่วมกันมาเท่านั้นนี่นา
ไม่ได้หมายความว่า เราจะมีเนื้อคู่เพียงแค่คนเดียว เพราะเราอาจมีเนื้อคู่ต่างภพต่างชาติ
หรืออาจเพราะคนที่เลิกกันไป ไม่ใช่คู่แท้ของเราก็เป็นไปได้ จึงมีเหตุให้ต้องเลิกรากันไปนั่นเอง
เขียนมาถึงตอนสุดท้ายนี้ รู้สึกว่าเริ่มหาคำตอบยาก เอาเป็นว่า
ไม่ต้องคิดมากให้วุ่นวายไป ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติจะดีกว่า
จะเป็นบุพเพสันนิวาส หรือเป็นพรหมลิขิต หรือเป็นเพราะสิ่งใดที่ทำให้คนมารักกัน
สักวันเราอาจได้คำตอบนั้นด้วยตัวของเราเอง ก็เป็นได้ ว่าไหมครับ?
ที่มา โค้ชวันพุธ อ.กฤตวัฏ