Home »
Uncategories »
ผู้ที่ใช้รถ "ควรรู้ไว้" สัญลักษณ์ "ไฟเตือน" แต่ละแบบนั้น บ่งบอกถึงอะไรบ้าง
ผู้ที่ใช้รถ "ควรรู้ไว้" สัญลักษณ์ "ไฟเตือน" แต่ละแบบนั้น บ่งบอกถึงอะไรบ้าง
แน่นอนว่ารถเป็นยานพาหนะสำคัญที่เราใช้กันอยู่ทุกวันแต่เชื่อผู้ที่ใช้รถส่วนใหญ่…
ยังไม่ค่อยรู้ว่าสัญลักษณ์ไฟเตือนต่างๆ บอกอะไรบ้าง
วันนี้ไลค์เกอร์จะมาอธิบายให้เพื่อนได้รู้กัน
สัญญาณไฟสีแดง
บอกถึง อันตราย..! ต้องหยุดใช้รถ และ รีบตรวจสอบความผิดปกติตามสัญลักษณ์ที่ปรากฏ
สัญญาณไฟสีเหลือง
หมายถึง การเตือน..! แต่สามารถใช้งานได้ แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง
สัญญาณไฟสีเขียว
บอกถึงผู้ขับกำลังใช้งานอุปกรณ์ของรถยนต์ที่ไม่เกิดความเสียหายอยู่
ทีนี้เรามาดูกันว่า สัญลักษณต่างๆที่ขึ้นเตือนแต่ละแบบนั้น บ่งบอกถึงอะไร
สัญลักษณรูปกรวยน้ำมีน้ำหยด
บ่งบอกว่าน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์มีระดับต่ำมาก
จนไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ได้
หากใช้รถต่อไปอาจทำให้เครื่องยนต์มีปัญหา หรือ
ถ้าเช็คแล้วน้ำมันเครื่องยังมีอยู่ แต่สัญลักษณ์แสดงขึ้นมา
ถ้าแบบนี้ก็เป็นไปได้ว่า ตัวปั๊มน้ำมันเครื่องอาจมีปัญหา
ทำให้ไม่สามารถส่งน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆในเครื่องยนต์ได้
สัญลักษณกลมๆ มีระบุว่า ABS
ระบบเบรค
ABS มีปัญหา ให้นำรถเข้าตรวจสอบกับอู่ทันทีครับ
แต่ระบบเบรกยังสามารถใช้งานได้ปกติอยู่ เพียงแต่เมื่อมีการเบรกกะทันหัน
ระบบ ABS อาจจะไม่ทำงานเท่านั้นเองครับ ( ABS
คือระบบป้องกันไม่ให้ล้อล๊อกเวลาเบรคกระทันหัน
จนรถเสียการทรงตัวไถลไปตามพื้นถนน )
ถุงลมนิรภัย
ถ้าสัญลักษณ์นี้แสดงขึ้นมาค้างหลังจากสตาร์ทเครื่องแล้ว
ก็ต้องเอารถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบการทำงานได้เลยครับ เพราะ
ถุงลมนิรภัยอาจจะไม่ทำงานเวลาฉุกเฉินได้
แบตเตอรี่
หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นการเตือนแบตเตอรี่เสื่อม
แต่จริงๆแล้วหมายถึงการทำงานของไดร์ชาร์จมีความผิดปกติ
ไม่จ่ายไฟเข้าไปเก็บที่แบตเตอรี่หรือไม่มีการจ่ายไฟเข้าใช้งานในระบบรถยนต์
เมื่อใช้ไปเรื่อยๆอาจทำให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดในรนไม่ทำงาน
สัญลักษณ์วงกลมแล้วมีเครื่องหมายตกใจตรงกลาง
หรือ
เบรค สัญลักษณ์เบรกนี้ ส่วนใหญ่จะขึ้นใน 2 กรณีคือ เมื่อมีการดึงเบรกมือ
หรือลดเบรกมือยังไม่สุด สัญลักษณ์นี้ก็จะติดขึ้นมา
แต่ถ้าลดเบรกมือแล้วยังไม่ดับ คงต้องตรวจสอบระบบเบรก
ซึ่งอย่างแรกที่ต้องดูคือระดับน้ำมันเบรก
เพราะส่วนใหญ่แล้วสัญลักษณ์จะแจ้งเมื่อน้ำมันเบรกลดลงต่ำกว่าระดับปกติครับ
แต่สำหรับบางรุ่นจะแยกกันระหว่างระบบเบรกกับเบรกมือไว้แยกจากกัน
โดยระบบเบรกจะเป็นเครื่องหมายตกใจ ส่วนเบรกมือ จะเป็นตัว P
ให้ลองอ่านที่คู่มือประจำรถดูก่อนครับ
สัญลักษณ์รูปตู้จ่ายน้ำมัน
เมื่อแสดงมาเมื่อไหร่แสดงว่าน้ำมันในถังอยู่ในระดับต่ำแล้ว
ให้เติมน้ำมันก่อนที่น้ำมันจะหมด โดยส่วนใหญ่ที่พบ
น้ำมันจะเหลืออยู่ในถังอีกประมาณ 10-15% ของความจุถังถึงจะเริ่มแสดงขึ้นมา
โดยจะวิ่งต่อได้อีกประมาณ 40-100 กิโลเมตร ขึ้นอยู่ว่าเป็นรถรุ่นไหนครับ
สัญลักษณ์รูปตู้จ่ายน้ำมันแต่มีจุดๆอยู่ด้านล่าง
บ่งบอกว่ากรองน้ำมันมีปัญหา อาจเป็นเพราะกรองน้ำมันตัน หรือ มีน้ำผสมอยู่ในน้ำมันมาก
สัญลักษณ์เครื่องยนต์
ถ้าไฟรูปเครื่องโชว์ขึ้นมาแล้วไม่ดับเมื่อไหร่
แสดงว่าการทำงานของเครื่องยนต์เริ่มมีปัญหาแล้วครับ
ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่ครอบจักรวาลของเครื่องยนต์มากๆ เพราะตัวนี้ตัวเดียว
อาจแจ้งความผิดปกติหลายอย่าง เช่น ค่าอ็อกซิเจนผิดปกติ,
สายพานเกินระยะกำหนด, ตัว ECU มีปัญหา ฯลฯ ซึ่งถ้าไฟรูปเครื่องติด
ต้องทำการตรวจสอบด้วยเครื่องของทางศูนย์บริการหรืออู่
โดยเสียบอุปกรณ์กับช่อง OBD (On-Board Diagnostics) จะมีค่า Error แจ้งมา
ก็จะรู้ได้ว่าเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติตรงไหนได้ครับ
ซึ่งรถส่วนใหญ่จะยังทำงานได้ปกติ แต่ในบางรุ่น (โดยเฉพาะรถทางฝั่งยุโรป)
จะล็อกความเร็วไว้ให้ไม่เกิน 60 กม./ชม.
เพื่อให้ผู้ใช้งานนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการทันที
และป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เสียหายไปมากกว่าเดิมครับ
จะเห็นได้ว่าถ้าเป็นสัญลักษณ์เตือนสีแดงนั้น
ส่วนใหญ่จะหมายถึงระบบต่างๆที่ส่งผลถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถ
ทำให้ต้องรีบนำรถเข้าร้านซ่อมทันที
ในรถบางรุ่นอาจมีสัญลักษณ์พิเศษต่างๆที่เราไม่ได้ระบุไว้
แต่ให้สังเกตุไฟเตือนถ้ามีสัญลักษณ์เตือนแล้วเราไม่มั่นใจ
ให้รีบนำรถไปให้ช่างเช็คเพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า