กว่าจะมาเป็น “หน่วยรบพิเศษ” รู้เลยว่าทำไมถึงได้เก่งขนาดนี้

กว่า 60 ชีวิตที่เข้ารับการฝึกต้องผ่านการฝึก

เริ่มจากฝึกด้วยการแช่น้ำเย็นจัด-10องศาเซลเซียต

แช่น้ำตอนกลางคืนตื่นเช้ามาก็วิ่งแบกเรือยางอีก ไมล์ เรือยางนั้นหนัก 100 กว่าโลนะ

แบกเรือไม่พอต้องแบกไม้พายอีก

ฝึกเช้ายันเย็นไม่มีหยุด

ตกดึกก็ยังฝึก แต่เปลี่ยนมาแบกท่อนซุงใหญ่แทน

หากใครไม่ไหว ก็มาลั่นระฆังลาออกได้ตลอด 24 ชม.

ต่อไปเป็นการฝึกว่ายน้ำรอบเกาะโดยไม่ใช้มือ (ทำได้ไง)

ส่งลงน้ำแบบอัตโนมัติ

มีการดูแลแบบคนต่อคน เพื่อป้องกันการเสียชีวิต (แต่ในการฝึกใช่ว่าจะไม่มีการตายนะ มีครับ!!)

เรือยางคือชีวิตของนักจู่โจมใต้น้ำ ไปไหนต้องเอาไปด้วย

ต่อไปคือการวิ่งเพื่อชีวิต เพราะขืนไม่วิ่งมีเนื้อกระจุย (ที่ส่งให้กันไม่ใช้ไม้ผลัด แต่คือ ระเบิด C4 ถอดสลักแล้ว พลาดคือตาย)

ถ้าไม่วิ่งมีกระจุย แม้แต่ช่างภาพก็ยังต้องเสี่ยงตาย

สรุปคือรอดหมดทุกคน

สภาพแต่ละคน

อย่าคิดว่าจะแข็งแกร่งแค่ร่างกายจะรอดนะ ด่านต่อไปเป็นการทดสอบสภาพจิตใจ

นี่คือศพจริงๆ คือ เขาจะเอาจดหมายไปซ่อนไว้ในศพ แล้วให้ผู้ฝึกเข้าไปทีละคน เข้าไปในป่าช้า

แล้วก็อ่านข้อความในนั้น จากนั้น วิ่งกลับมาอ่านข้อความข้างในให้ครูฝึกฟัง (ยิ่งกว่า ล่า ท้า ผี)

ฝึกเดินในโคลนดูด

ดูดหนักมาก

อิดโรย แต่มันเรื่องเล็กสำหรับใจที่แข็งแกร่งของพวกเขา

ฝึกให้ทนต่อการโดนทรมาน ในกรณีที่ถูกจับเป็นเชลย

เคลื่อนทีไปข้างหน้า ห้ามใช้มือ

เเผลเป็น ที่ได้จากการฝึก 

ให้เพื่อนทรมานกันเอง ถึงจะรักและสนิทสนมกันแค่ไหนก็ตาม

ทดสอบพลังแขนกันบ้าง

ลำคอที่แข็งแกร่ง จุดอ่อนของคนปกติทั่วไป คือ คอ แต่พวกเขา ไม่ใช่

กัดหัวงูเป็นๆ ฝึกดำรงชีพในป่า

ท่าโหม่งโลก ฝึกความแข็งแรงของกะโหลก

..ส่วนที่แข็งที่สุดของหัว คือ หน้าผาก ส่วนที่อ่อนที่สุดของหัว คือ กะโหลก

สาเหตุที่ทุบท้ายทอยแล้วสลบ เพราะบริเวณนั้นมีส่วนของเส้นประสาทที่เชื่อมต่อสมองไปสู่กระดูกสันหลัง

ท่านี้เรียกว่า ท่าไถนา

ก้นกบและทวาร ต้องระวังให้ดี สุดๆ

แต่ก็ยังยิ้มได้

น้ำตาเทียน ถือว่าทรมานมากๆ

 

น้ำที่เห็นในถังนั้นเป็น ถังอึ เป็นของเขาเองนี่แหละ

ลุยดิน

ได้พัก แม้จะไม่กี่นาทีก็ตาม

นอนพัก แต่ก็ยังฝึกต่อ

ลงน้ำ

ลุยไฟ ไม่ต้องใช้ร่างทรง

จาก 60 กว่าคน เหลือคนที่เป็นยอดมนุษย์จริงๆ ไม่เกินครึ่ง 

สัญลักษณ์ ฉลามขาวฝ่าเกลียวคลื่น ที่ได้หลังจากจบหลักสูตร

ขอบคุณที่มา NAVY SEALS THAI