เปิดนาที หน่วยซีล ทั้งขุดทะลวง-ดำน้ำ สุดยากลำบาก ฝ่าฟัน-ใกล้ถึง13ชีวิต

เปิดนาที หน่วยซีล ทั้งขุดทะลวง-ดำน้ำ สุดยากลำบาก ฝ่าฟัน-ใกล้ถึง13ชีวิต

ถ้ำหลวง ซึ่ง 13 ชีวิต นักบอลเด็กและโค้ช ยังติดอยู่ภายใน เข้า 4 วันแล้ว ทุกหน่วยยังระดมช่วย ล่าสุด มีการเปิดคลิป ภายในถ้ำ โพสต์ข้อความว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาราว 12:00 น. ณ จุดลึกเข้าไปในถ้ำ 3 กม. สุดยอดนักรบของเรา หน่วยซีล ชุดค้นหาที่ 2 ดำน้ำออกมาจากช่องทางที่ชุดแรกสามารถเคลียร์ทางได้ และพบร่องรอยเด็กๆ ณ เวลานั้นครับ”

คลิป

ตัวเล่นไฟล์วิดีโอ

00:00

02:06

โดยในคลิป เห็นเป็นไอน้ำ คือ ลมหายใจ ของทีมค้นหา จุดดังกล่าว เป็นจุดพักและปฏิบัติการ บริเวณสามแยกระยะ 3 กม. ภายในถ้ำหลวง หน่วยซีลทีมแรกสามารถดำน้ำ ขุดทะลวงทรายที่อุดช่องทางได้สำเร็จ ทีมที่ 2 ดำลอดช่องทางนั้นและค้นหายาวไปอีกราว 1 กม. ไปพบรอยเท้ารอยนิ้วมือและเชือกเปล

ที่ภายหลังมีการยืนยันว่าเป็นของกลุ่มเด็กๆ จริง แต่ทางต้องดำน้ำและลอยคอไปอีก และทีมที่ 3 ค้นหาต่อเนื่องพบมือถือ โดยในคลิปบอกว่า เรากำลังเข้าใกล้เด็กๆ ไปเรื่อยๆ แล้ว พร้อมทั้งหน่วยซีลทีมค้นหาของไทย ปรึกษากับทีมนักสำรวจชาวต่างชาติวางแผนเพื่อช่วยเด็ก โดยชาวต่างชาติให้มีทีมเตรียมรอรับเด็กจุดนี้

เพราะเป็นทางเดียวที่จะออกมาได้ ขณะทีมไทย บอกรอทีมดำน้ำกลับออกมา เพื่อวางแผนร่วมกันอีกครั้ง โดยคนเห็นคลิปเข้ามาแสดงความคิดเห็น ส่งกำลังใจกันจำนวนมากว่า ถึงกับน้ำตาจะไหล สงสาร น้องๆ 13 ชีวิต และเห็นความพยายามหน่วยซีลที่เข้าทำการค้นหาเพื่อช่วยน้องๆ อย่างไม่ย่อท้อ แม้ต้องผ่่านจุดลำบากมาก

ล่าสุด เวลา 02.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. ทีมค้นหายังคงลุยค้นหาน้องๆ 13 คนอย่างต่อเนื่องลุยเข้าไปกว่า 3 กม. แต่หนทางลำบากมาก จึงแบ่งกำลังไปเตรียมอุปกรณ์ค้นหาเพิ่มเติม และไปสนับสนุนในจุดนัดหมาย ฝนก็ยังคงตกไม่หยุด ระดับน้ำยังสูงอย่างต่อเนื่อง จนจะถึงผนังถ้ำด้านใน และรอน้ำลดช่วงเช้ามืด ทีมนักดำน้ำชุดใหญ่ เตรียมลุยลงค้นหาต่อ

“ชัยพร ศิริไพบูลย์” ผู้เชี่ยวชาญด้านถ้ำ นักธรณีวิทยา เผยโอกาสรอดของทีมฟุตบอลเด็ก-โค้ช13ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง จ.เชียงราย ชี้ในอดีตตนเคยเข้าไปสำรวจมาแล้ว จากกรณีมีเด็กนักฟุตบอลและโค้ชผู้ฝึกสอน รวม 13 คน หายเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน วนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ต่อมานายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวงฯ สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งมีผู้ที่พากันเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคน แล้วไม่กลับออกมา โดยพบรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ ล่าสุด วันนี้ (25 มิ.ย.) นายชัยพร ศิริไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านถ้ำ นักธรณีวิทยา เคยปฏิบัติงานกรมทรัพยากรธรณี ได้ให้ข้อมูลว่า

ตนได้เคยขึ้นสำรวจถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน และพบว่า ทางกายภาพของถ้ำจะมีโถงพื้นต่ำ กับโถงพื้นสูงอยู่สลับกัน โดยจุดโถงพื้นทรายทาอยู่ด้ายซ้ายของปากถ้ำ ที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า ทั้ง 13 คน น่าจะอยู่จุดนั้น มีความสูงต่ำจากปากถ้ำ 6-8 เมตร ถ้าหากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เมตรจากฝนตกเมื่อคืน ทั้ง 13 คน ยังคงอยู่บนโถงเนินทรายได้ แต่ขณะเดียวกัน

หากทั้ง 13 คนไม่ได้อยู่โถงเนินทรายนี้ ถัดโถงน้ำที่ท่วม ซึ่งเป็นจุดรอยต่อ ยาวประมาณ 800 เมตร เป็นโถงสูงเช่นกัน ซึ่งในช่วงน้ำท่วม ทั้ง 13 ชีวิต อาจปีนป่ายหนีน้ำไปอยู่ที่สูงได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ยังระบุอีกว่า ความสูงด้านในถ้ำมีระยะประมาณ 400-500 เมตร และด้วนเป็นถ้ำอายุหลายร้อยปี มีซากฟอสซิลที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ส่งผลให้อากาศออกซิเจนน้อย

แต่กระแสน้ำที่ไหลผ่าน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซค์ได้ระดับหนึ่ง ซึ่งวิธีการสูบน้ำทำได้ แต่ต้อง ติดตั้งหัวเครื่องจักรดีเซล เดินเครื่องอยู่ปากถ้ำ แล้วใช้วิธีต่อสายยางยาวเพื่อสูบน้ำ สามารถทำได้ แต่ห้ามติดตั้งหัวเครื่องจักรภายในถ้ำเด็ดขาด ไม่เช่นนั่นจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

ส่วนโอกาสรอดชีวิตของ 13คน ผู้เชี่ยวชาญมีความมั่นใจว่า หากทั้ง 13 คนอยู่บนโถงสูง เพื่อหนีน้ำ และหาอากาศหายใจ มีโอกาสรอดชีวิตสูง แต่ถ้าหาก ไปหลบในโถงพื้นต่ำ ซึ่งในถ้ำมีโถงพื้นต่ำอีกหลายจุด ที่น้ำไม่ท่วม จะมีโอกาสเสี่ยงทั้ง 13คนสลบ จากการสูดคาร์บอนไดออกไซค์เข้าไปจำนวนมาก เพราะในถ้ำ คาร์บอนไดออกไซค์ จะลอยจากพื้นสูงระดับเข่าจนถึง2 เมตร

ซึ่งแต่ละโถง คาร์บอนไดออกไซค์ลอยสูงไม่เท่ากัน แต่ทั้งนี้ เชื่อว่า ตามสัญชาติญาณคนเพื่อเอาตัวรอด จะปีนหาที่สูง เพื่อหนีน้ำและหาอากาศหายใจ ส่วนตัวยังเชื่อว่า 13ชีวิต ยังปลอดภัยแต่อาจจะอ่อนเพลียเพราะขาดอาหาร นอกจากนี้ สัญญาณที่ดี หน่วยซีลนำออกซิเจนพกพาและอาหารเข้า ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ลุ้นช่วย 13 ชีวิต

จากกรณีมีเด็กนักฟุตบอลและโค้ชผู้ฝึกสอน รวม 13 คน

หายเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน วนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมานายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวงฯ สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งมีผู้ที่พากันเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคน แล้วไม่กลับออกมา โดยพบรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ

ช่วงเช้าวันที่ 25 มิ.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) หรือหน่วยซีล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าไปภายในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน หมู่บ้านจ้องวัด ม.9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการค้นหานักฟุตบอลเยาวชน และผู้ฝึกสอนทั้ง 13 ชีวิตอย่างเต็มที่ โดยครอบครัวผู้สูญหายต่างเฝ้ารอ

และติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดบริเวณปากถ้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยซีลว่า ได้ใช้พลั่วขุดหาช่องทางภายในถ้ำแล้ว แต่เมื่อเจาะทะลุอุโมงค์เข้าไปก็ยังไม่พบเด็กและผู้ฝึกสอน ทั้งนี้ คาดว่าเด็กๆ จะเดินหนีน้ำเข้าลึกไปอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างแกะรอยติดตามอย่างมีความหวัง

ล่าสุดช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เหมือนมีสัญญาณที่ดีของปฏิบัติการครั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยซีลได้ออกมานำเครื่องออกซิเจนแบบพกพาเข้าไปภายในถ้ำ พร้อมอาหารจำนวนหนึ่ง สร้างความลุ้นระทึกให้กับญาติของทั้ง 13 ชีวิตที่เฝ้ารอปาฏิหาริย์จากปฏิบัติการครั้งนี้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาทั้ง 13 ชีวิตในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ด้านรองผู้ว่าฯเชียงรายสั่งการให้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วย

ทั้งนี้ แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อ “สถานีตำรวจภูธรแม่สาย“ ได้อัพเดตสถานการณ์ติดตามค้นหาเด็ก 13 คนที่สูญหายเข้าไปภายในถ้ำหลวงเป็นระยะ โดยมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจ และขอให้เจ้าหน้าที่เจอเด็กทั้งหมดโดยเร็ว กันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบมีการแชร์ความคิดเห็นของสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เป็นการแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่โดยระบุว่า

“ให้เดินเข้าไปในถ้ำ ขึ้นหินสูงประมาณ 1 ระดับแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงเข้าไปลึกๆนะคะ ลึกประมาณเกือบ 150 หรือ 200 เมตร ทางสูง ขึ้นๆ อาจจะเจอน้องๆ ปีนอยู่บนเหยียบและน้องบนก้อนหิน สูงประมาณ 3 เมตร หัวมีช่อง ส่วาง คลายๆแสง บางคนร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้วคะ รีบเขาไป นะคะ พอจะมองได้เท่านี้ จุดธูป 36 ดอก ขอขมา ผลไม้ 5 อย่าง เพิ่มเติ่มอีกนิด เลี้ยวซ้ายแล้วมองด้านขวาเยอะๆนะคะ” พร้อมกับระบุว่า อย่างน้อยให้เจ้าหน้าที่ลองเข้าไปดูตามเจ้าของความคิดเห็นนี้แนะนำมา