หุงข้าวเหนียวให้หอมเม็ดนุ่ม ค้างคืนก็ยังไม่แข็ง

 


ข้าวเหนียว นิยมมาทานกับเมนูหลากหลายเมนู ในหลายๆพื้นที่จะนำมาทานเป็นมื้ออาหารหลักแทนข้าวเจ้า และยังคงเป็นอาหารที่นิยมอย่างมาก หลายๆ ท่านมักจะเลือกทานข้าวเหนียวในช่วงเวลาตอนเช้า ทานเป็นข้าวเหนียวห มู ปิ้ ง ข้าวเหนียวห มู ฝอยหรืออื่นๆตามที่ชื่นชอบ เพราะให้ความอิ่มท้องและให้ความสะดวกรวดเร็วด้วย

ข้าวเหนียวบางร้าน มีความแข็งไม่นุ่มและมีกลิ่นที่ไม่หอม สำหรับท่านใดที่ชื่นชอบในการทานข้าวเหนียว ก็วันนี้เราได้นำวิธีการ นึ่ งข้าวเหนียวมาฝากกัน จะได้เม็ดข้าวเหนียวที่มีความนุ่มมีความหอม ทานไม่หมดเก็บใส่ในตู้เย็นแล้วนำมาอุ่นให้มีความร้อนก็จะยังคงมีความนุ่มไม่แข็ง

ขั้นตอนในการทำ

1 เริ่มขั้นตอนในการทำด้วยการนำข้าวเหนียวเก่าที่ต้องการจะหุงนั้น แช่น้ำเปล่าทิ้งเอาไว้ 6 ชม. หากใช้เป็นข้าวเหนียวใหม่แช่น้ำเปล่านาน 3 ชม. เมื่อแช่เสร็จเป็นที่เรียบร้อยน้ำแช่ข้าวยังไม่ต้องทิ้ง เราจะเรียกน้ำแช่ข้าวนี้ว่าน้ำหม่า ให้เทใส่ถ้วยเก็บเอาไว้ในตู้เย็น แล้วจะใช้น้ำหม่านี้มาพรมข้าวในขั้นตอนของการ นึ่ ง เพื่อที่จะทำให้ข้าวเหนียวมีความหอมมีความนุ่มได้มากขึ้น

2 เมื่อได้แช่จนครบเวลาเป็นที่เรียบร้อยแล้วต่อไปเราจะทำการ นึ่ งข้าวเหนียว โดยนำข้าวเหนียวใส่ลงไปในฮวดแล้วทำการนึ่ งได้ตามปกติเลย เมื่อสังเกตเห็นได้ว่าข้าวเหนียวใกล้ที่จะสุกดีแล้ว น้ำหม่าที่เก็บเอาไว้ในตู้เย็นให้น้ำออกมาแล้วนำมาพรมข้าวเหนียว 1 ส่วน 3 ของถ้วย ใช้ไม้พายคนข้าวเหนียวจากด้านล่างขึ้นด้านบน หรือจะใช้วิธีการกระ ด ก ฮวดแบบคนโบราณที่เขาทำกัน เพื่อที่จะให้ข้าวเหนียวนั้นเข้ากันดีแล้ว นึ่ งต่อให้สุก

3 ใช้น้ำหม่ามาพรมอยู่แบบนั้น 2-3 ครั้งสลับกันไปจนกว่าน้ำหม่าจะหมดแล้วข้าวเหนียวสุกได้ที่ เมื่อข้าวเหนียวสุกดีแล้วให้ยกลงจากเตาได้เลย เปิดฝาทิ้งเอาไว้นาน 15 นาที ให้ข้าวเหนียวได้มีการเซ็ตตัวดี เมื่อครบเวลาแล้วเก็บข้าวเหนียวใส่ลงไปกระอับได้ตามปกติเลย

4 เท่านี้เราก็จะได้ข้าวเหนียวที่มีเม็ดข้าวมีความนุ่ม ไม่แข็งไม่เละมีกลิ่นของความหอม เม็ดเรียงตัวสวยๆ เอาไว้ทานคู่กับอาหารต่างๆที่คุณชื่นชอบกันได้

การเก็บข้าวเหนียว

การเก็บข้าวเหนียวให้เก็บใส่ไว้ในตู้เย็น ข้าวเหนียวห่อด้วยผ้าขาวบางใส่ลงไปในกระปุกที่มีฝาปิดเวลาที่เราจะนำมาทานในมื้ออาหารครั้งถัดไปนั้น ก็ให้ทำการอุ่นแล้วนำมาทานได้ปกติเลย จะยังคงความนุ่มไม่แข็ง

ข้าวเหนียวนุ่มๆ มาทานกับอาหารที่ชื่นชอบ น่าทานมากๆเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : shar e-si