แจกฟรีสูตร หมูสามชั้นอบกะปิ กลิ่นหอมแรงอร่อยแซ่บ อิ่มท้องเพิ่มพลังงาน

 

หมูสามชั้นอบกะปิ

     ตำน้ำพริกกะปิรอเลยดีกว่า จะได้เอามาทำเมนูหมูสามชั้นอบกะปิ ก่อนเสิร์ฟโรยพริกสดหน่อย มาแบบนี้กินข้าวเพลินหมดหม้อแน่นอน

     จากที่เคยทำเมนูหมูสามชั้น ผัดกะปิ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าหมูผัดกะปิจนกลิ่นหอมอวลไปทั่วบ้าน ลองเปลี่ยนสไตล์เอาไปอบแทนการผัดเพื่อให้กลิ่นไม่ฟุ้งกันดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำหมูสามชั้นอบกะปิ สูตรจาก คุณมันแกวกะแห้วหมู สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใช้หมูกรอบราดน้ำพริกกะปิ เอาไปนึ่งจนนุ่มตามชอบ บีบมะนาวกับโรยพริกสดหน่อย จัดข้าวสวยสักหม้อรอเลยค่ะ

     หมูสามชั้นอบกะปิ โดย คุณมันแกวกะแห้วหมู สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

    อบกะปิ มิใช่ผัดกะปิ อร่อยดีรสจัดจ้านลองดูกัน

หมูสามชั้นอบกะปิ

     พอดีเอาสะดวกก็ซื้อหมูกรอบมา 3 เส้น สับเป็นชิ้นใหญ่หน่อย (เล็ก ๆ ที่เห็นนั่นเป็นเศษ) แล้วเรียงใส่ชามกระเบื้องเอาไว้

หมูสามชั้นอบกะปิ

     ส่วนน้ำพริกกะปิ ตำแบบสูตรใครก็ได้ตามสะดวก รสมือแบบไหนก็เอาแบบนั้น แต่อย่าเพิ่งเอาเผ็ดมาก เพราะพริกสดเมื่อโดนความร้อนจะชืด ๆ และที่สำคัญคือ เมื่อตำเสร็จเติมน้ำเปล่าลงไปผสมอีกหนึ่งในสามของน้ำพริกกะปิที่ได้ ให้ออกเหลว ๆ หน่อย

ส่วนผสม หมูสามชั้นอบกะปิ

     • หมูกรอบ 3 เส้น
     • น้ำพริกกะปิ
     • น้ำมะนาว
     • พริกขี้หนู
     • ผักสดสำหรับแกล้ม เช่น ขมิ้นอ่อน มะเขือ หรือแตงกวา

วิธีทำหมูสามชั้นอบกะปิ

หมูสามชั้นอบกะปิ

     • เอาน้ำพริกกะปิไปราดลงบนหมูสามชั้นที่เตรียมไว้ ให้พอมีน้ำพริกกะปิเป็นน้ำขลุกขลิกพอดี ๆ กับหมู (ตามรูป) แล้วเอาไปนึ่งไอน้ำด้วยซึ้ง หรือหม้อนึ่งแรงดันก็ได้

หมูสามชั้นอบกะปิ

     • นึ่งประมาณ 1 ชั่วโมงก็พอ สามชั้นจะเปื่อยนุ่ม และรสน้ำพริกกะปิซึมเข้าเนื้อหมูทั่วถึงแล้ว

หมูสามชั้นอบกะปิ

     • เอามาจัดเรียงใส่จาน จากนี้ก็บีบมะนาวสดเพิ่มลงไปสักลูกสองลูก แล้วโรยพริกขี้หนูสดซอยหรือตำก็ได้ เวลากินก็เอามาแนมกับขมิ้นอ่อน มะเขือ หรือแตงกวาได้ตามสะดวก เสร็จแล้วครับ คนกินบอกอร่อยมาก รสจัดจ้าน กินง่าย กินข้าวได้เยอะกว่าปกติ ลองดูนะครับว่าจะเป็นจริงเปล่า ?

     เห็นแล้วหิวทันทีกับหมูสามชั้นอบกะปิ ไม่ต้องผัดจนกลิ่นตลบทั่วบ้าน แค่มีซึ้งนึ่งก็ทำได้แล้ว ถ้าขี้เกียจทอดหมูสามชั้นก็ลองเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูธรรมดาเอาไปนึ่งแทนก็ได้ค่ะ เอาล่ะ… ท้องร้องแล้วไปซื้อส่วนผสมกันเลยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณมันแกวกะแห้วหมู สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม