“แตงโมครึ่งซีก” ที่เหมือนกับ ชีวิตคู่ของใครหลายๆคน
บ่าย วันหนึ่งผมเลิกงานกลับบ้านร้อนจน เหงื่อ โ ช ก เปิดตู้เย็นพบแตงโมแช่เย็นอยู่ครึ่ง ซี ก ดีใจจนคว้าออกมาแ ท ะ กินจนเรียบ
ครู่ต่อมา ภ ร ร ย า ผมก็กลับมาถึงด้วยเข้าประตูก็บ่น กระหายน้ำ ร้อนมาก เธอเปิดตู้เย็นและชะ งั ก ผมบอกเธอว่าแตงโมซี กนั้นผม
กินไปแล้วสีหน้าเธอมีแวว ไม่พอใจรีบเอาถ้วยไปรินน้ำหยิบกระติกขึ้นมาก็พบว่าในกระติกแห้งสนิท เธอพูดขึ้นมาทันที เธอกลับบ้าน
มาก่อนทำไมไม่ต้มน้ำไว้บ้าง มัวทำอะไรอยู่ ผมโกรธบ้าง แล้วทำไมอะไรๆ ก็ต้องให้ฉันทำ เราสองคนทำส ง ค ร า มเย็นกันอยู่เป็น
อาทิตย์กว่าจะยอมคืนดี กันวัน เ ส า ร์ ผมกลับบ้านพ่อแม่ไปคนเดียวพอเห็นหน้าทั้งคู่ก็ถามว่า ทำไมไม่เห็นเมตตามาเลยอาทิตย์นี้
ผมเล่าเรื่องที่โกรธกันให้ฟังแม่ฟังแล้วตำ ห นิ ผม ทำอะไรไม่ควรห่วงแต่ตัวเอง ควรใส่ใจคนอื่นบ้าง ผมไม่เห็นด้วย แค่กินแตงโมไป
ครึ่งซี ก จะอะไรนักหนา พ่อหัวเราะ แกไม่ต้องแก้ตัว พรุ่งนี้วันอาทิตย์ พากันมากินข้าวที่นี่นะ รุ่งขึ้นผมพาครอบครัว มาหาพ่อแม่พอ
เข้าบ้าน พ่อก็ใช้ผมไปซื้อน้ำส้มสายชู พอผม กลับมาพ่อบอกให้เมตตาพาลูกออกไปข้างนอกก่อนบอกแล้วพ่อก็เอาแตงโมครึ่ง
ซีกมาให้ผม แกร้อนซะเหงื่อ โ ช ก กินแตงโม ดั บ กระหายหน่อยเถอะ แตงซี กนั้นใหญ่ทีเดียวน่าจะหนักราวกิโลสองกิโลได้พ่อส่ง
ช้อนให้คันหนึ่ง กินไม่หมดก็เหลือไว้ให้เมียแกกินบ้าง ผมหยิบช้อน แล้วก็ตักกินใหญ่กินไม่ถึงครึ่งก็พุงกางหลังกินอาหารเที่ยงพ่อ
เอาแตงโม สองซีกออกมาวางบนโต๊ะบอกผมว่า แกดูทีซิว่ามันต่างกันตรงไหน ผมงง ดู อ ย่ า ง ละเอียดซี กหนึ่งเป็นซี กที่ผมกินไป
อีกซี กก็ถูกกินไปด้วยดูอยู่ครู่ใหญ่ก็ไม่เห็นว่ามันต่างกัน อ ย่ า ง ไร จึงส่ายหัวพ่อชี้ให้ดูแตงแล้วอธิบายว่า ซี กนี้แกกิน อีกซี กนี่
เมตตา กินพ่อบอกแกทั้งสองว่าถ้ากิน ไม่หมดให้เหลือไว้ดูสิว่าเมียแกใช้ช้อนกินยังไงเธอเริ่มตักจากตรงกลาง กินไปถึงขอบครึ่ง
หนึ่งอีกครึ่งไม่ถูกแตะ ต้องแล้วดูของแกนี่ แกควักกินเนื้อตรงกลางจนหมดเหลือขอบไว้ให้คนอื่นใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเนื้อแตงโมหวาน
ตรงกลาง จากเรื่องเล็กๆ เรื่องนี้ ก็เห็นได้ว่าเมตตามีใจใหญ่กว่าแกมาก ผมหน้าแดงทันที พ่อพูด อ ย่ า ง มีความหมายว่า คนสองคน
อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต จะมีเรื่องสำคัญอะไรนัก ความรักความใส่ใจระหว่างผัวเมียอยู่ที่ไหน มันก็อยู่ในน้ำมันหยดเดียวข้าวช้อน
เดียวน้ำแกงทัพพีเดียว คราวก่อนแกโ ก ร ธ กันเรื่องกินแตงโมแล้วยังมีข้ออ้างมากมายทั้งที่เป็นฝ่ายผิดถ้าเมตตาเป็นฝ่ายกลับถึง
บ้านก่อน รับรองว่า เธอจะต้อง เก็บไว้ให้แกครึ่งหนึ่ง อ ย่ า คิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กที่ไม่สำคัญแต่มันสะท้อนให้เห็นหัวใจคนแตงโมชิ้น
เดียวนั่นแหละให้ความรู้ในการใช้ชีวิตประจำวันหัวใจคนต่อให้เย็นชาแค่ไหน แกค่อยๆ ให้ความอบอุ่น มันจะร้อนขึ้นสักวันหรือหัวใจ
ที่ต่อให้ร้อนเท่าไรแกสาดน้ำเย็นใส่ทีละช้อน ทีละช้อนสักวันก็จะทำให้เย็นลงโดยสมบูรณ์คิดดูนะถ้าเมตตาเป็นเหมือนแกทำอะไร
ไม่เคยใส่ใจ นานวันเข้า แกจะรู้สึกยังไง คำพูดคำเดียวนั้นปลุกคนตื่นโดยแท้ผมพบในทันใดว่ารองเท้าแตะ ที่วางไว้ให้ทุกวันเมื่อ
กลับถึงบ้านน้ำชาที่ชงไว้ให้ ร่มที่วางหน้าประตู ย า ม ฝนตกล้วนแล้วแต่เป็นความรักความใส่ใจ ของเมตตาแต่ผมกลับไม่เคยเห็น
ไม่รู้จักเอาใจเขาใส่ใจเราคิดแล้วก็ละอายรีบยกชาม เกี๊ยวมาให้เมตตา เธอกินก่อนเถอะ เธอหัวเราะ ไม่ต้องมาทำไก๋ต่อหน้าพ่อกับ
แม่พ่อก็หัวเราะ ถ้าทำไก๋ อ ย่ า ง นี้ได้ทั้งชีวิตก็ถือว่าเป็นสามี ที่ดีนะลูก ในใจมีรัก ความรักนั้นต้องให้กันและกันเราพึงใส่ใจอีกครึ่ง
ของเรา อ ย่ า คิดว่าทุกปัญหาเป็นการหาเรื่องโดย ไ ร้ เหตุผลลองคิดถึงความผิดของตนดูใช้ชีวิตธรรมดาของตนให้ดี ใส่ใจคนใน
ครอบครัว อ ย่ า มัวแต่สนใจเรื่องของคนอื่นความสุขไม่ได้อยู่ที่บ้านใหญ่เพียงใดแต่อยู่ที่เสียงหัวเราะ ในบ้านหวานแค่ไหนความสุข
ไม่ใช่ได้ขับรถหรู เพียงใดแต่อยู่ที่ขับรถกลับถึงบ้านได้ปลอดภัย ความสุขไม่ใช่มีคนรักสวยแต่อยู่ที่รอยยิ้มของคนรักสดใสเพียงใด
ความสุขไม่ได้อยู่ที่ได้ฟังคำหวานมาก หรือน้อยแต่อยู่ที่ ย า ม โศกเศร้าเสียใจมีคนบอกฉันว่าไม่เป็นไร ยังมีฉันอยู่ อ ย่ า มัวแต่สนใจ
เรื่องของคนอื่นในโลก โ ซ เ ชี ย ล จนห่างเหินกับคนในครอบครัวนะครับ
ขอขอบคุณที่มา รักยิ้ม, wansukth