ชี้ทางเศรษฐีใหม่! เผยเคล็ดลับขั้นตอนการเลี้ยงกุ้งแม่น้ำในบ่อปูน ลงทุนน้อยกำไรงาม โตไว ตัวใหญ่ราคาสูง!

ถ้าหากว่าใครกำลังคิดจะหารายได้เสริมหรือหาอาชีพหลักจะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นนอน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ค อาจารย์ต่อ ปลาหมอยักษ์ ได้นำเทคนิคดีๆ ที่ไม่มีใครบอกกันฟรีๆ มาโพสต์ให้ศึกษากันแบบละเอียด แบบไม่ต้องเสียเงินซักแดง สำหรับวิธีการ เลี้ยงกุ้งแม่น้ำ ในบ่อซีเมนต์ จะต้องเตรียมตัวยังไง หรือต้องลงทุนอะไรบ้าง ตามมาชมกันเลยค่ะ

ด้วยราคาที่แพง รสชาติที่อร่อย และหายากมากๆในปัจจุบัน จึงทำให้ราคากุ้งแม่น้ำขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ จากราคาโลละ 300 – 500 บาท แต่ทุกวันนี้ราคากุ้งแม่น้ำโลละ 800 – 1,500 บาท แค่ได้ยินราคาก็อยากรู้ว่ามันต้องทำไงแล้วสิครับ…



ไปดูกันเลี้ยงยังไง? ใช้อะไรบ้าง?

ใช้ลูกกุ้งขนาด 5-7 ซม. จำนวน 200 ตัว
1. บ่อปูนขนาด 3 x 3 เมตร ลึก 60 ซม.
2. เครื่องทำอ๊อกซิเจนแบบ 2 รู (ราคาประมาณ 380-400 บาท)
3. สายยางอากาศ
– ยาว 6 เมตร (แบ่งเป็นเส้นละ 1.50 เมตร 4 เส้น)
– ยาว 2 เมตร (แบ่งเป็นเส้นละ 1 เมตร 2 เส้น)
4. ตัวแยก 3 ทาง 2 อัน
5. หัวทราย 4 หัว

นำสายยางอากาศเส้นละ 1 เมตร ต่อเข้าเครื่องทำออกซิเจนรูละเส้น แล้วใส่ตัวแยก 3 ทางข้างละเส้น หลังจากนั้นใส่สายยางอากาศเส้นละ 1.50 เมตรที่บริเวณปลาตัวแยกแต่ละปลาย สุดท้ายปลายสายยางก็ใส่หัวทราย ปลายละหัว ก็จะได้ชุดจ่ายออกซิเจนเรียบร้อย

6. อาหารอนุบาลกุ้ง
– อาหารเม็ด หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์ทั่วไป บอกเขาว่าอาหารสำหรับกุ้งลงเดิน
– อันนี้จะใช้ไม่ใช้ก็ได้ครับ อาหารสด ไรแดง อันนี้ยากหน่อยหาได้ก็ดี หาไม่ได้ก็ซื้อตามร้านขายปลาสวยงาม
7. ผงแร่ธาตุ สำหรับช่วยให้กุ้งลอกคราบได้เร็ว มีขายตามร้านขายอาหารสัตว์
8. ท่อพีวีซี สำหรับให้กุ้งหลบซ่อนหรืออาศัย
9. แผ่นกระเบื้องหลังคา สำหรับให้กุ้งหลบอาศัย
10. ลูกกุ้งขนาด 5-7 ซม. ถามว่าทำไมไม่เอาตัวเล็กกว่านี้? ตอบครับ? เอาแบบอัตราการรอดที่สูงดีกว่า ดูแลเห็นตัวเป็นๆชัดเจนกว่าครับ เอาแบบตัวละ 2-3 มม. มาแทบมองไม่เห็นเลยทีเดียวเลี้ยงไปก็ท้อสิครับ
11. เกลือแกง ถุงละ 10 บาท 2 ถุง ไม่ต้องเน้นยี่ห้อมากนะครับเกลือเค็มทุกถุงครับซื้อถูกๆตามท้องตลาดก็ได้ครับ เอาเพื่อมาฆ่าเชื้อในน้ำเฉยๆครับ
12. วิตามินสำหรับกุ้ง หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์ เซเว่น ไม่มีนะครับอย่าเข้าไป

เริ่มเลี้ยง



1. เติมน้ำลงบ่อปูนให้ได้ขนาดความลึก 50 ซม. หว่านเกลือให้ทั่วบ่อจนหมด 2 ถุง
2. เปิดเครื่องออกซิเจนเพื่อเพิ่มอากาศในน้ำ ให้หัวทรายอยู่ตามมุมบ่อทั้งสี่มุม
3. ทิ้งน้ำไว้ 36-48 ชม. ก่อนปล่อยกุ้ง (ใช้ได้ทั้งน้ำบาดาล น้ำปะปา)
4. เรียงท่อ พีวีซี หรือกระเบื้องหลังคา ลงบ่อไว้
5. เตรียมน้ำทิ้งไว้ครบ 48 ชม. ก็ปล่อยลูกกุ้งลงบ่อ ค่อยๆวางเขาลงอย่างประณีตบรรจง
6. อย่าพึ่งให้อาหารกุ้งนะ  ให้กุ้งอดอาหาร 1 วัน วันถัดไปค่อยให้อาหาร
7. วันถัดมาเริ่มให้อาหารกุ้ง ในจำนวนกุ้งที่ลงเลี้ยงในบ่อนี้ให้วันละ 4 ช้อนพอหว่านรอบๆบ่อ พยายามให้อาหารกุ้งช่วงเย็นๆหรือใกล้มืดจะดีมากๆ
8. ปล่อยกุ้งลงน้ำครบ 7 วัน ให้หว่านแร่ธาตุสำหรับกุ้งลงบ่อ จำนวน 4 ช้อนโต้ะ ทำแบบนี้ทุก 15 วัน
9. สังเกตุดีๆในบ่อหลังจากให้แร่ธาตุสำหรับกุ้งจะเห็นกุ้งขึ้นมาบอกคราบไว้บนแผ่นกระเบื้องหลังคา นี่ล่ะข่าวดีเพราะกุ้งกำลังจะโต
10. ให้อาหารกุ้งไปเรื่อยๆ จนครบ 45 วัน ให้เปลี่ยนขนาดของอาหารกุ้งให้เป็นกุ้งขนาดกลาง
11. ให้อาหารกุ้งขนาดกลางครบ 45 วัน ก็ให้เปลี่ยนขนาดเป็นอาหารกุ้งขนาดใหญ่
12. ให้อาหารกุ้งขนาดใหญ่ไปอีก 60 วัน
13. เลี้ยงต่อไปจนครบ 6-7 เดือน ก็น่าจะเริ่มเห็นผลงานแล้วล่ะครับ จะเล็กจะใหญ่อยู่ที่บุญพาวาสนาเกิด ฝีมือของเราล่ะครับ..

ช่วงที่ให้อาหารกุ้งถ้ามีวิตามินอาหารเสริมดีดีก็ใส่คลุกกับอาหารกุ้งได้ กุ้งจะแข็งแรงโตเร็วดี
วิธีการเปลี่ยนน้ำ สำหรับท่านที่เข้าใจในระบบน้ำวนก็ดีไป แต่ถ้าสำหรับคนที่ไม่เข้าใจก็ต้องเปลี่ยนน้ำเอา อาทิตย์ละครั้งหรือเวลาที่เห็นว่าน้ำเริ่มขุ่นก็รีบเปลี่ยนทันที
 ควรหว่านแร่ธาตุสำหรับกุ้งทุก 7 วันหรือทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำในบ่อ
ย้ำเลยนะ น้ำสะอาด อากาศพอ อาหารอิ่ม กุ้งรอดและโตแน่นอน
อย่าพยายามไปกวนไปส่องดูผลงานบ่อย กุ้งชอบความเป็นส่วนตัวมาก เดี๋ยวเขาจะไม่กินอาหาร จะทำให้โตช้า

มานั่งสมมุติ


– มีกุ้งไว้กินในบ้านช่วงเทศกาลละครั้ง ครั้งละ 20 ตัว ผมว่าอิ่มทั้งครอบครัว สำหรับอาหารราคาที่ถือว่าแพงสำหรับงานเลี้ยง และกุ้งยังมีประโยชน์มากมาย คงจะเพิ่มบรรยากาศความสุขในครอบครัวได้ดีทีเดียว
– หรือถ้าขาย ตีตัวละ 50 บาท ก็ถือว่าตีไว้ต่ำนะราคานี้ อาจจะเป็นรายได้เสริมอีกช่องทางสำหรับครอบครัว ผมนำเสนอข้อมูลจากการเลี้ยงจริง ผมอาจจะได้ผลแต่คนอื่นอาจจะไม่ได้ผล อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติและความเข้าใจล่ะครับ

ขอความกรุณาปรานี สำหรับผู้เก่ง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้ชำนาญงาน อย่าเข้ามาโชว์นะครับ ไปตั้งโพสต์แบ่งปันเองให้ความรู้เอง อย่าเข้ามาเพื่ออวดตัวเพราะผมเองก็ทำได้แค่นี้ ผมเองอาจจะหมดความมั่นใจในการแบ่งปันงานต่อไป ผมมาแบ่งปันไม่ใช่ว่าอวดรู้ แต่มาแนะนำในสิ่งที่ผมแค่ทำได้เล็กๆน้อยๆเลยอยากเอามาให้ท่านอื่นได้ลองเอาไปทำหรือต่อยอดต่อไป


ขอบคุณที่มา : อาจารย์ต่อ ปลาหมอยักษ์