ต้องขอบอกก่อนเลยว่า นี่คือประสบการณ์ชีวิตของผมที่แท้จริง จากคนที่เป็นหนี้มาตลอดทั้งชีวิต จนทุกวันนี้มีเงินเก็บเป็นแสนแล้ว ในช่วงชีวิตหนึ่ง อยู่กับแฟนมีลูก ภาระหนี้สินต่างๆก็เพิ่มมากขึ้น จนทำให้แฟนและลูกกินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ ต้องคอยหนีเจ้าหนี้ ที่ขับมอเตอร์ไซค์ใส่หมวกสีดำมาเป็นประจำ
ซึ่งในวันนี้ผมจะมาบอกเคล็ดลับวิธีที่ทำให้ผมสามารถแก้ไขปัญหาชีวิตการเป็นหนี้สินตลอดทั้ง 10 ปีที่ผ่านมาของผม ให้เพื่อนๆและทุกคนได้เรียนรู้และประสบการณ์ชีวิตกันครับ
ในตอนนั้นผมเป็นพนักงานห้างแห่งหนึ่ง ผมมีหนี้สินเพราะว่าไปกู้เงินมาใช้กินใช้จ่าย ใช้ผ่อนค่าบ้านผ่อนค่ารถ หลายอย่างมันจุกจิกมาก และในช่วงนั้นผมพลาดตรงที่ไม่ได้คิดวางแผนจะมีครอบครัว วันหนึ่งภรรยาผมท้องก็มีลูก จนทำให้หลายๆอย่างมันฉุกละหุก หาเงินเข้ากระเป๋าไม่ทัน ภาระค่าใช้จ่ายก็เยอะเหลือเกิน จนทำให้เราจะต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามา ในตอนนั้นเองผมจำเป็นจะต้องใช้เงิน เลยไปกู้เงินดอกร้อยละ 20 กู้มา 100,000 ก็ต้องไปคืนเขา 120,000 ดอกร้อยละ 20 ถือว่าเยอะมากเลย
แต่ให้จะทำอย่างไรได้ ผมเป็นคนไม่มีเครดิต ไม่สามารถไปกู้ยืมธนาคารได้เลย
ชีวิตของผมในตอนนั้นทำให้แฟนและลูกของผมลำบากเป็นอย่างมาก จะเอาเงินก้อนนี้ที่เหลือมาเปิดร้านขายข้าวมันไก่ ทำไปได้ไม่นาน 2-3 เดือน ก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ไหว ไหนจะต้องมาจ่ายค่าเช่าสถานที่ ใกล้จะต้องจ่ายรายเดือน กู้เขามาก็ต้องจ่ายเขาเดือนละ 20,000 บาท หักลบกลบหนี้แล้ว เหลือไม่ถึง 5000 ต่อเดือน หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามากพอที่จะใช้จ่าย แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ค่าแพมเพิสค่าแพมเพิส ค่ายาลูก ค่ากินค่าใช้จ่ายแทบจะไม่พอ
จนผมได้รู้จักคนๆนึง เขาแนะนำให้ผมเปลี่ยนวิถีชีวิต เปลี่ยนความคิด แล้วจะทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนเอง ผมรู้สึกว่าผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว หากผมได้รับโอกาสนี้ผมน่าจะลองทำตามดู แล้วผมก็ได้ลองทำตามทั้ง 5 ข้อที่คนคนนึงแนะนำผม
ผมก็ได้เล่าให้เขาฟัง ว่าชีวิตภาระค่าใช้จ่ายที่ผมจะต้องใช้ในแต่ละวันแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง มีอะไรบ้างที่ผมสามารถหยุดตรงนั้นเพื่อนำเงินมาเป็นเงินออม
1 จดรายรับรายจ่าย
พี่เขาแนะนำให้ผมรู้จักการจดรายรับรายจ่าย ว่าวันนี้จ่ายอะไรไปบ้าง เดือนนี้จ่ายอะไรไปบ้าง รายรับเป็นอย่างไรรายจ่ายเป็นอย่างไร เขียนให้ละเอียด แล้วสิ้นเดือนมาวิเคราะห์ดูว่าเราพลาดส่วนไหนไปบ้าง เขาบอกว่าเราจะต้องมีเป้าหมายในการใช้เงินออกและรับเงินเข้า แล้วจะทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น ซึ่งผมได้ลองทำตามดู และได้รู้ว่ามีรายจ่ายที่ไม่จำเป็นอยู่มาก ทำให้เดือนนั้นผมสามารถประหยัดเงินได้มาก ถึงประมาณ 4,000 บาทเลย
1 ปี 4000 x 12 เดือน ก็เท่ากับ 48000 บาท ผมสามารถประหยัดเงินได้เกือบ 50,000 บาทใน 1 ปี
2 ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ไม่ว่าจะเป็นค่าชากาแฟ บางสิ่งบางอย่างสามารถลดได้ บางทีเราก็ซื้อกาแฟในราคาที่แพงเกินไป อย่างเช่นแก้วละ 40 บาท 50 บาท ก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นกินกาแฟซองละ 5 บาท 10 บาทก็เพียงพอ แค่นี้ก็สามารถประหยัดเงินในแต่ละเดือนได้ หากเดือนนึงแล้วจ่ายค่ากาแฟไปแก้วละ 40 บาท วันละ 1 แก้ว 40 x 30 ก็เท่ากับเดือนละ 1,200 ปีละ 14400 แล้ว
หากเราหยุดตรงนี้ได้ก็จะมีเงินเก็บปีละ 14,000 บาท
3 หาช่องทางรายได้เสริม
ถึงแม้ว่าการขายข้าวมันไก่ของผมจะสามารถเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง
แต่ก็ยังมีภาระค่าใช้จ่ายหักลบแล้วก็เหลือไม่มาก
พี่เขาแนะนำให้ผมรับขนมจากข้างนอก ที่มีกำไร 5 บาท 10 บาท
เอามาตั้งวางขายหน้าร้าน ตกแต่งร้านให้สวยงาม ใน 1 วันผมสามารถขายขนมเล็กๆ
ประมาณ 50 ชิ้น ผมก็จะได้กำไรประมาณ 350 บาท กำไรโดยเฉลี่ย 7 บาทต่อชิ้น
โดยที่ผมไม่ต้องลงทุนมากเลย ไม่ต้องลงแรงทำขนมเหล่านั้น
โดยขนมที่ผมนำมาวางขาย จะเป็นขนมที่ทำวันต่อวันบ้าง
และก็มีขนมที่สามารถว่างขายได้หลายวัน โดยไม่หมดอายุ
นี่เป็นอีกหนึ่งช่องทางเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ผมมีรายได้เสริมตรงนี้
เดือนนึง 30 วันผมก็จะมีกำไรตรงนี้ประมาณ 350 x 30 ก็เท่ากับ 10500 บาท
4 ออมเงิน ลงทุน
พี่เขาแนะนำว่า เมื่อเราได้เงินได้กำไรแล้ว อย่าปล่อยให้เงินอยู่เฉยๆ ควรที่จะทำให้เงินที่อยู่เฉยๆนั้นงอกเงยเพิ่มมากขึ้น โดยการนำไปเอาเงิน ลงทุนในหุ้นตราสารหนี้ต่างๆ แต่ควรเลือกดีๆและรู้จักการศึกษาในเรื่องเหล่านี้ เขาว่ามีโอกาสที่จะทำให้ค่าเงินของเราลดได้ ควรเลือกลงทุนในกำไรที่อาจจะน้อยกว่าตัวอื่น แต่มีความมั่นคง ง่ายๆเท่านี้ก็จะสามารถทำให้เงินของคุณงอกเงย จากเงิน 100,000 บาท ภายใน 1 ปีอาจจะมี 110,000 ก็ได้ใครจะไปรู้
5 ความตั้งใจ
ข้อสุดท้ายที่เขาแนะนำ นั่นก็คือความตั้งใจความแน่วแน่ๆของตัวเราเอง และสิ่งที่สำคัญก็คือ เพื่อนร่วมคิด คู่คิด คู่ชีวิตของเรา เขาสามารถคอย support ทั้งทางกำลังกายและกำลังใจของเราหรือไม่ หากสิ่งเหล่านี้เรามีความตั้งใจทำร่วมกัน เชื่อว่าชีวิตของเราจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเลย
สิ่งที่ผมทำมาตลอดภายในระยะเวลา 1 ปี สามารถทำให้ผมปลดหนี้ที่ผมสร้างมันขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจได้ และในตอนนี้ผมก็นำความคิดทั้ง 5 ข้อเขียนติดฝาผนังเอาไว้เลย ให้ลูกได้คอยอ่าน ให้แฟนได้คอยย้ำเตือนสิ่งที่ผิดพลาดไป และรู้จักการนำ 5 ข้อในการใช้ชีวิตนี้ มาใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ในปัจจุบันนี้ผมมีแฟรนไชส์ข้าวมันไก่ มากกว่า 40 สาขาในประเทศ
หากชีวิตของคุณกำลังอยู่ในช่วงสถานการณ์ตกต่ำ หรือว่าย่ำแย่ แนะนำว่าให้อ่านเราทำความเข้าใจสิ่งที่ผมบอกในวันนี้ดู ผมเชื่อว่าหากมีความตั้งใจ และรู้ช่องทาง มีประสบการณ์มากพอจะทำให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณเหมือนกับที่ผมเปลี่ยนแปลงชีวิตผมได้
ปล ผมอาจเขียนผิดพลาดไป ก็ขออภัยด้วยนะครับ
ภาพ / เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsod