📣 เอาใจสายคอกาแฟกันบ้างไหมเอ่ย กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟในยามเช้าเรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของวัน เหมือนเพื่อนคู่ใจที่จะขาดไม่ได้เลย ทุกๆวันคาเฟอีนต้องวิ่งเข้ากระแสเลือดให้สมองได้กระปรี้กระเปร่า แต่มีใครรู้ไหมว่าวิธีการชงกาแฟนั้นมีด้วยกันหลากหลายสไตล์มาก ซึ่งแต่ละวิธีก็มีประวัติความเป็นมา กรรมวิธีในการชงที่ให้เสน่ห์ของกาแฟในรูปแบบที่ต่างกันออกไป จะมีวิธีอะไรกันบ้างตามมาดูกันเลย
พามารู้จัก วิธีชงกาแฟ หลากหลายสไตล์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
วิธีที่1 วิธีชงกาแฟแบบดริป (Drip) ☕
สำหรับวิธีชงแบบแรกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสมัยนี้ คือ กาแฟดริป (Drip Coffee) หรืออาจจะรู้จักกันในชื่อ Brewed Coffee และ Pour-over Coffee นั่นเอง ถือเป็นการชงกาแฟที่สามารถคุมรสชาติกาแฟได้ดีตลอดกระบวนการ ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกเมล็ดพันธุ์ การคั่ว การบด น้ำหนักมือในการเทน้ำ อัตราการไหลของน้ำและระยะเวลาที่น้ำผ่านเมล็ดระหว่างการชงกาแฟ การชงวิธีนี้ริเริ่มเมื่อประมาณปี 1908 โดยสาวเยอรมันผู้คิดค้นกระดาษกรองกาแฟ (Coffee Filter) ขึ้นมา เพราะเครื่องชงเอสเพรสโซในสมัยนั้นยังแยกกากได้ไม่ดีนัก หลังจากนั้นกาแฟดริปจึงแพร่หลายไปทั่วโลก และเป็นที่นิยมอย่างสูงสุดในญี่ปุ่น สำหรับเพื่อนๆที่เป็นสายสโลไลฟ์น่าจะถูกใจวิธีการชงในรูปแบบนี้ เนื่องจากต้องอาศัยความใจเย็นค่อยๆชง การชงใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน โดยกรรมวิธีจะเริ่มตั้งแต่การนำเมล็ดกาแฟที่ผ่านการบดแล้วมาใส่ในถ้วยกรวยดริปที่มีรูเล็กตรงก้นแก้ว รองด้วยกระดาษดริปซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกรองกากกาแฟ จากนั้นจึงค่อยๆ รินน้ำร้อนจากกาดริปที่มีพวยขนาดเล็ก วนน้ำเป็นวงกลมก้นหอย รอให้น้ำค่อยๆ ไหลซึมผ่านกาแฟและกระดาษดริปลงสู่ภาชนะด้านล่าง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ รอดื่มกาแฟรสชาติกลมกล่อมได้เลย
วิธีที่2 วิธีชงกาแฟแบบเอสเพรสโซ (Espresso) ☕
เอสเพรสโซ (Espresso) ในทีนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่ใช่ชื่อสูตรกาแฟที่หลายๆคนเคยได้ยิน แต่เป็นหนึ่งในวิธีการชงกาแฟนั่นเอง โดยมีจุดเริ่มต้นจากสิ่งประดิษฐ์ของ อันเจโล โมริออนโด ในปี 1884 ซึ่งก็คือเครื่องชงกาแฟด้วยไอน้ำ และได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาจนกลายเป็นเครื่องเอสเพรสโซอย่างที่นิยมในปัจจุบัน สำหรับวิธีการชงรูปแบบนี้เรียกว่าฮิตมาก ส่วนใหญ่สามารถพบเห็นได้ตามร้านกาแฟต่างๆทั่วไป รวมถึงร้านกาแฟแบรนด์ดังหลายร้านที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากมีความสะดวกในการชง รวมถึงได้รสชาติของกาแฟที่ดีเลยทีเดียว รวมถึงได้รับความนิยมมากที่สุดในแถบยุโรปตอนใต้ โดยกรรมวิธีหรือคอนเซ็ปต์ในการชง คือ การใช้แรงอัดไอน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด(ปัจจุบันนิยมชงด้วยเครื่องชงอัตโนมัติ) เหมาะกับกาแฟคั่วแก่อย่างพวกมอคค่า ลาเต้ คาปูชิโน มัคคิอาโต ฯลฯ มักเสิร์ฟเป็นช็อตเพื่อให้มีปริมาณไม่มากจนเกินไป เหมาะกับการรับประทานกาแฟอย่างเร่งด่วนในยามเช้า
วิธีที่3 วิธีชงกาแฟแบบโมกาพ็อต (Moka Pot) ☕
Moka Pot วิธีนี้เป็นการชงกาแฟในสไตล์อิตาเลี่ยน หนึ่งในวิธีชงกาแฟที่มีมาแต่โบราณ คิดค้นขึ้นโดยนักประดิษฐ์ชาวอิตาเลียน เป็นเครื่องชงกาแฟที่มีรูปทรงสวยงามเป็นเอกลักษณ์ นิยมมากในแถบยุโรปและลาตินอเมริกา ตัวโมกาพ็อตมีลักษณะเป็นกาทรงสูงทำจากสเตนเลสที่แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน คือ หม้อใส่น้ำ กรวยกาแฟ และตัวกาด้านบน วิธีการชงก็เริ่มจากใส่น้ำลงไปในหม้อในปริมาณที่เหมาะสม จากนั้นใส่กรวยที่ใส่กาแฟบดแล้วลงไปแล้วปิดฝา นำเครื่องไปตมบนเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า รวมถึงบางรุ่นสามารถใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ เมื่อน้ำร้อนได้ที่ ไอน้ำที่อยู่ด้านล่างจะดันตัวสูงขึ้นมาผ่านกาแฟขึ้นมาอยู่ในกาด้านบนจนได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นพอๆ กับการทำ Americano ร้อน ผ่านเครื่องชง Espresso machine เลย
และทั้ง 3 วิธีนี้ ก็คือวิธีชงกาแฟที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ทำให้ได้รสชาติของกาแฟที่เข้มข้น กลมกล่อมและสัมผัสถึงเสน่ห์ของกาแฟที่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่ดที่ไม่เหมือนกัน