เวลาใครปาก้อนหินมาใส่คุณ อย่าขว้างปาก้อนหินกลับไป

“สักวันเราก็ต้องจากกัน…”
๑. บางครั้ง … คุณรู้สึกชีวิต ณ ตอนนี้
เหมือนท้องฟ้าจะทลายลงมาทับคุณ
แต่จริงๆแล้ว คุณยืนไม่ตรงเองต่างหาก
๒. หากคุณหลงผิด ของให้ระลึกไว้ว่า
“ฟ้าให้โอกาสคุณกลับตัวทุกเวลา”
นอกเสียจากคุณจะไม่ยอมกลับใจซะเอง
.
๓. บางครั้งที่เราทำผิด
สาเหตุเป็นเพราะสมควรใช้เหตุผล
แต่เราใช้อารมณ์ในการตัดสินแทน
๔. ตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่
เรารู้สึกเรายังมีเวลาเหลืออีกถมเถไป
แต่เราไม่รู้ว่าชีวิตของเรากำลังหมดไปพร้อมกับการฉีกปฏิทิน
ในแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี
คุณไม่รู้ว่า พบกันครั้งหนึ่ง
ก็หมดไปอีกครั้งหนึ่งแล้วเช่นกัน
.
๕. ความกังวลครุ่นคิดไม่มีน้ำหนัก
แต่มันเปรียบดั่งใบไม้ที่กำลังร่วงจากต้นในยามหน้าแล้ง โดยไม่รู้ตัว
มันก็กองหนักทับรวมกันอยู่ที่พื้น
ดังนั้น คิดอะไรให้ระวัง!
๖. ชีวิตคนเราคือบทเพลงอันแสนไพเราะ
แต่ว่าอยู่ที่ใครเป็นผู้ขับร้อง และร้องอยู่กับใคร?
.
๗. การรอคอยและความลังเลคือ
ฆาตกรที่แล้งน้ำใจที่สุดบนโลกใบนี้
๘. สิ่งที่ฉันกลัวก็คือ ฉันให้ใจแก่คุณ แต่คุณกลับยื่นมีดมาแทงฉัน
ไม่ว่าความรักระหว่างชายหญิงหรือมิตรภาพระหว่างเพื่อนก็ดี
.
๙. เวลาใครปาก้อนหินมาใส่คุณ
อย่าขว้างปาก้อนหินกลับไป
เก็บไว้เพื่อนำไปเป็นฐานเวลาคุณสร้างบ้านจะดีกว่า
๑๐. ชีวิตคนเราสั้นนัก
ตอนนี้ทนไม่ได้ สักวันหนึ่งคุณก็ไม่ต้องทน
ตอนนี้เกลียดกัน วันหนึ่งก็ต้องตายจากกันอยู่ดี
cr. นุสนธิ์บุคส์