Home »
Uncategories »
ผลวิจัยชี้ มีลูกช่วง 30-39 ลูกฉลาด-พัฒนาการดีที่สุด แถมช่วยคุณแม่อายุยืน
ผลวิจัยชี้ มีลูกช่วง 30-39 ลูกฉลาด-พัฒนาการดีที่สุด แถมช่วยคุณแม่อายุยืน
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน
วันนี้เรามีบทความดีๆมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านกันอีกเช่นเคย
โดยเฉพาะว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ทั้งหลายที่กำลังคิดจะมีลูกน้อยกอยใจ
แต่รู้หรือไม่!?
ข้อมุลที่ได้มีการเปิดเผยมาล่าสุดจากนักวิจัยชี้ชัดแล้วว่า
หากอยากให้ลูกฉลาดและมีพัฒนาการดีที่สุด ต้องมีตอนอายุ 30-39
กันเลยทีเดียวเชียว
ซึ่งจะเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใดเราลองไปอ่านบทความนี้กันเลยดีกว่าครับผม!!
…
#มอร์มูฟสาระ
(ว่าที่) พ่อแม่หลายคนมีคำถาม #มีลูกตอนอายุเท่าไหร่ถึงจะดี ช่วงอายุเลข
2 ดีหรือเปล่า!!? แล้วถ้าเลข 3 ล่ะยังไหวไหม??! ล่าสุด ผลวิจัยจาก London
School of Economics ประเทศอังกฤษรายงานว่า
ทารกที่เกิดมาจากคุณแม่ทีมีอายุระหว่าง 30-39 ปี
#จะฉลาดและมีพัฒนาการดีที่สุด
เพราะเป็นวัยที่ผู้หญิงมีความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งการศึกษา รายได้
วุฒิภาวะ และมีสุขภาพที่ดีเหมาะสมแก่การตั้งครรภ์มากที่สุด นอกจากนี้
งานวิจัยอีกชิ้นยังชี้ว่า #ผู้หญิงตั้งครรภ์หลังอายุ33ปี
จะมีโอกาสอายุยืนยาวกว่าผู้หญิงซึ่งมีลูกคนสุดท้องก่อนอายุ 30 ปี
ทั้งนี้ ผลการวิจัยดังกล่าวถูกตีพิมพ์ลงใน Biodemography and Social
Biology โดยได้ระบุว่า #อายุของแม่มีผลต่อพัฒนาการของลูกที่จะเกิดมา
หลังวิเคราะห์ข้อมูลจากทารกจำนวน 18,000 คนพบว่า
ทารกที่เกิดมาจากคุณแม่ทีมีอายุระหว่าง 30-39
ปีจะฉลาดกว่าและมีพัฒนาการที่ดีกว่า ส่วนเด็กที่เกิดจากแม่ที่มีอายุ 40
ปีนั้นมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคอ้วนได้
นอกจากนี้
งานวิจัยของ Thomas Perls ผอ.สำนักวิจัย New England Centenarian Study
(NECS) ประเทศสหรัฐฯอ้างว่า หากผู้หญิงตั้งครรภ์หลังอายุ 33 ปี
จะมีโอกาสอายุยืนยาวกว่าผู้หญิงซึ่งมีลูกคนสุดท้องก่อนอายุ 30 ปี
ความต่างของช่วงอายุตรงนี้มีโอกาสเป็นสองเท่าที่จะอายุยืนเกินกว่า 95
ปีได้เลยทีเดียว
อนึ่ง
ผู้วิจัยได้ย้ำว่างานวิจัยนี้ไม่ได้มีเจตนารมณ์ให้ผู้หญิงชะลอเวลาในการมีบุตรออกไปหรือคิดจะมีลูกเมื่อตอนอายุมากขึ้นเพื่อหวังจะให้มีอายุยืนยาว
ยิ่งในปัจจุบันคู่สามีภรรยาส่วนใหญ่มีลูกช้าลง
เนื่องจากสถานภาพและการศึกษาที่สูงขึ้นมาเป็นตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับทางเลือกในการใช้ชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม
#การมีลูกหลังอายุ35ปีถือว่ามีความเสี่ยงต่อความแข็งแรงของลูกน้อยในครรภ์ได้
คุณแม่ที่มีอายุเพิ่มขึ้นมีความเสี่ยงสูงกว่าปกติที่ลูกจะเกิดความผิดปกติของจำนวนโครโมโซมจนนำไปสู่กลุ่มอาการดาวน์วินโดรมได้
เนื่องจากในช่วงอายุหลัง 35 ปีรังไข่มีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ
อัตราการตกไข่จะต่ำลงและขนาดของไข่จะใบเล็กลงด้วย ในระหว่างที่ไข่เปลี่ยนใบ
ผู้หญิงก็จะประสบปัญหาฮอร์โมนแปรปรวน นอกจากนี้จำนวนไข่ก็จะลดน้อยลง
ไข่แต่ละใบก็จะมีความแข็งแรงน้อยลงอีกด้วย อาจมีปัญหาการแท้งบุตร
เสียชีวิตระหว่างคลอดหรือพิการ
แม้ว่าวิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันจะก้าวหน้าไปมากจนผู้หญิงอายุมากกว่า
35 ปีสามารถตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัยแล้ว
แต่การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ
#เพื่อความปลอดภัยทั้งแม่และลูกที่พร้อมจะเกิดมา
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก
Source theasianparent https://bit.ly/2QiBUQf