“8 คาถาทอง” ของ แอน ทองประสม ที่ทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จ

แอน ทองประสม กับ “คาถาทอง” ที่ทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จ

ภาพของเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงอย่าง แอน ทองประสม นั้น นอกจากจะเจิดจรัสด้วยความสวยและความสามารถแล้ว พลังในการทำงานของผู้หญิงคนนี้ยังล้นเหลือ แทบจะไม่มีอะไรหรือใครมาทำให้เธอท้อแท้หรือเหน็ดเหนื่อยได้ง่ายๆ

และนี่คือ 8 เคล็ดลับเด็ดที่เป็นดั่ง “คาถาทอง” ทำให้ชีวิต แอน ทองประสม เต็มไปด้วยความสุข ความสำเร็จ

เคล็ดลับที่ 1 รักในสิ่งที่ทำ

แอนรู้สึกโชคดีมากที่ได้ทำในสิ่งที่รักมาก แอนเชื่อว่า ถ้าเรารักสิ่งไหนเราจะทำสิ่งนั้นออกมาได้ดี ถ้าเราทำด้วยใจ ด้วยจิตวิญญาณต่อให้เหนื่อยหรือล้าสักแค่ไหน เราก็จะมีพลังที่จะตื่นขึ้นมาทุกเช้าเพื่อทำสิ่งนั้น

อย่างสมัยที่แอนเล่นละคร ต้องตื่นตีสี่ตีห้าเพื่อไปถึงกองถ่ายเจ็ดโมงเช้า ถ่ายวันละ 20 – 30 ฉาก แต่ละฉากมีหลายอารมณ์ กว่าจะถ่ายเสร็จก็เที่ยงคืนตีหนึ่ง แอนคิดว่าถ้าแอนไม่มีใจรักก็คงไม่รู้จะเอาแรงจากไหนมาเล่น แอนเชื่อเรื่องความรักมากนะ เชื่อว่าความรักจากใจจะทำให้เราทำทุกสิ่งทุกอย่างออกมาดี

เคล็ดลับที่ 2 เต็มร้อยกับทุกสิ่ง

ในการทำงานแอนยึดหลักว่า ต้องทำหน้าที่และงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด และต้องทำด้วยใจและจิตวิญญาณของเรา แอนเชื่อว่าถ้าทำอะไรเต็มร้อย เราก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะคิดอย่างไร คนจะเห็นเอง ส่วนใครจะคาดหวังในตัวเรามากกว่านั้นคงห้ามกันไม่ได้ แต่โดยมาตรฐานตัวเองแล้ว จะเต็มที่กับสิ่งที่ทำเสมอ

แอนไม่กลัวเรื่องที่คนอื่นจะมองอย่างไร ถ้าเราทำดี ทำเต็มที่แล้ว คนอื่นเขาไม่คิดเหมือนเรา แอนก็ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ แอนเชื่อว่าถ้าทำอะไรด้วยหัวใจก็ทำไปเถอะ ใครเขามองไม่เห็นก็ไม่เป็นไร มีเหมือนกันที่แอนทำบางสิ่งด้วยใจไม่เต็มร้อย เลยได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดีกลับมา นั่นก็ควรโทษตัวเองว่าสมควรแล้วที่จะได้ผลแย่ๆ กลับมา เพราะเราไม่เต็มที่เอง

เคล็ดลับที่ 3 ดูแลกาย ดูแลใจให้แข็งแรง

 

ในส่วนของร่างกาย แอนจะพยายามทำให้ตัวเองแข็งแรงที่สุด เพื่อจะได้มีแรงทำงานได้เต็มที่ แอนชอบเล่นโยคะมาก เพราะทุกครั้งที่เล่นแล้ว แอนรู้สึกสบายตัว สดชื่น เดิน วิ่งทำอะไรก็รู้สึกคล่องตัว กระฉับกระเฉงไปหมด ที่สำคัญคือรู้สึกว่าเหมือนเรากลับไปเป็นเด็กที่นึกอยากยืดเหยียดหกคะเมนตีลังกาอะไรก็ได้ แอนจะบอกคนที่แอนรักและหวังดีทุกคนว่าโปรดมาเล่นเถอะ

ส่วนจิตใจ ไม่ว่าจะทำงานไหนๆ เราก็ต้องดูแลจิตใจตัวเองให้ดีทั้งนั้น เพราะในแต่ละที่ย่อมมีทั้งคนดีและร้าย แต่ถ้าเรามองว่าเป็นปัจจัยภายนอก ไม่สามารถไปควบคุมจัดการใดๆ ได้ เราก็ต้องย้อนกลับมาจัดการจิตใจของตัวเองให้แข็งแรง เข้มแข็งมากๆ ด้วยการควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดี มีสติให้มาก และไม่หูเบา ต้องบอกก่อนว่าแอนก็เป็นมนุษย์ปุถุชน บางครั้งก็มีอารมณ์วูบวาบ แปรปรวนบ้าง แต่แอนจะคอยสั่งตัวเองว่าให้ใจเย็น มีสติกับสิ่งที่ทำตอนนี้ อย่าเอาเรื่องที่ผ่านไปแล้วมารบกวนใจ จนทำสิ่งใหม่ๆ ไม่ได้

เคล็ดลับที่ 4 ทำดี ไม่เบียดเบียนใคร

แอนเน้นเรื่องผลของการกระทำมาก แอนเชื่อว่าถ้าทำไม่ดี สิ่งไม่ดีจะย้อนกลับมาหาเราแน่นอน ซึ่งความเชื่อนี้แอนซึมซับมาจากยาย ตอนเด็กๆ แอนมีโอกาสตามยายไปเข้าวัดฟังธรรมบ่อยๆ ต้องอ่านหนังสือธรรมะให้ยายฟังตลอด แล้วยายก็จะอธิบายเรื่องต่างๆ ให้ฟังและสอนให้เราทำตาม แม้ตอนนี้ยายจะจากไปนานแล้ว และตัวแอนเองก็ห่างเหินการเข้าวัดฟังธรรม ไม่ใกล้ชิดมากเหมือนเมื่อก่อน แต่ถึงอย่างไรหลักธรรมคำสอนที่เคยได้ยินได้ฟังมาก็ยังอยู่ในใจ ต่อให้แอนไม่ได้อยู่กับยาย ไม่ได้ไปวัดบ่อยๆ แอนก็นำเอาสิ่งที่อยู่ในใจมาประยุกต์ใช้กับชีวิตได้เสมอ ซึ่งทำให้เรามีความสุขและอิ่มเอิบกับการใช้ชีวิตมากทีเดียว

แอนมีหลายสิ่งที่ประทับใจในชีวิตมาก ทั้งการได้เล่นละครในบทดีๆ การเจอเพื่อนร่วมงานที่ดี การได้รับรางวัลต่างๆ ที่สำคัญคือ ความมีน้ำใจและความรักที่แอนได้รับจากผู้คนที่เขารู้จักเรา ที่จำได้ไม่ลืมคือครั้งหนึ่งแอนอยากเข้าห้องน้ำระหว่างทาง แต่ไม่มีปั๊มน้ำมันหรือร้านอาหารที่แวะได้ แอนก็เลยจำเป็นต้องเคาะประตูบ้านของคนแถวนั้นเพื่อขอเข้าห้องน้ำ พอเขาเปิดประตูมาปุ๊บ เห็นว่าเป็นเรา เขาก็มีน้ำใจให้เข้าบ้านทันที เชื่อไหม วันนั้นเป็นวันที่แอนเดินออกจากห้องน้ำแล้วรู้สึกดีกับตัวเองมาก เป็นช่วงเวลาที่ประทับใจ รู้สึกตัวเองโชคดีที่มีคนเมตตาและรักเรา สิ่งที่แอนได้รับมาทั้งหมดทำให้รู้สึกว่าวงการนี้เป็นยาชูใจให้เรามีพลังขับเคลื่อนในการทำสิ่งต่างๆ ต่อไปได้ แล้วยังทำให้หายเหนื่อยจากการทำงานได้ด้วย

เคล็ดลับที่ 6 ไม่หนีการเปลี่ยนแปลง

แอนไม่ยึดติดกับสิ่งที่เป็นอยู่ แถมฝึกทำใจพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ต่อไปเราอาจจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหรือลำบากไม่มีใครรู้ แต่แอนเชื่อว่า ถ้าใจพร้อมเผชิญกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องดี และทำวันนี้ให้ดีที่สุด ก็เหมือนเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงแล้ว ไม่ต้องกลัวอะไรอีก

เคล็ดลับที่ 7 ไม่เสแสร้งกับทุกคน

แอนไม่เคยโกหกใครเรื่องที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ ฐานะค่อนข้างแย่ เพราะแอนสุขใจที่ได้อยู่กับยายในบ้านไม้หลังเล็กๆ กินเท่าที่มี ถ้ายายไม่ให้ความอดทน ความเข้มแข็ง และความกล้าหาญที่จะเผชิญความเป็นจริงเหล่านี้ ตอนนี้แอนคงล้มไปนานแล้ว เมื่อเจอกับสังคมที่เต็มไปด้วยการต่อสู้แข่งขันอย่างในปัจจุบัน เหมือนยายฉีดวัคซีนให้ พร้อมให้วัตถุดิบหล่อหลอมให้แอนแข็งแกร่งอย่างในวันนี้

ที่แปลกคือสมัยเด็กๆ ถึงมีชีวิตลำบาก แต่แอนกลับเป็นเด็กที่อารมณ์ดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส ขี้เล่น พลังงานสูง เดี๋ยวนี้พอแอนโตขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น กลับไม่รู้สึกมีความสุขเท่ากับตอนที่อยู่กับยาย ชีวิตเป็นอย่างนี้ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง เลยได้คิดว่า คนเราไม่ต้องแสวงหาอะไรมาเติมเต็มความสุขให้ตัวเองมากนักหรอก ความสุขอยู่ที่ใจนี่เอง

ที่สำคัญถึงตอนนี้ชีวิตจะสบายขึ้นมาก แต่แอนก็ไม่สามารถนอนได้เกินกว่าเตียงขนาดคิงไซส์ กินข้าวอย่างมากไม่เกิน 2 จาน ซึ่งเท่ากับตอนที่ยังลำบาก ทั้งหมดนี้สอนให้เรารู้ว่า ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องดิ้นรนหาสิ่งนอกกายให้มากเกินไป

เคล็ดลับที่ 8 รู้จักขอบคุณ “ความสุข”

แอนต้องขอบคุณยายที่มอบชีวิตที่มีความสุขให้ ซึ่งเป็น “ราก” ที่ดีที่ทำให้แอนเป็น “แอน” อย่างทุกวันนี้ แอนรู้จักมองทุกอย่างรอบตัวให้เป็นความสุข หันไปทางซ้ายได้ดูหนังก็มีความสุข หันไปทางขวาเพื่ออ่านหนังสือหรือพูดคุยกับคนอื่นก็มีความสุข เพราะฉะนั้นเมื่อสุขแล้วก็ขอบคุณมันซะ

ชีวิตมนุษย์ มีหลายมิตินะ ทุกข์บ้างสุขบ้างต่างกันไป เลือกเอาเฉพาะส่วนที่สุขดีกว่า ไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร อย่าคิดว่าเราแย่กว่าใคร ใจจะได้ไม่กังวล ไม่ทุกข์ เมื่อไม่ทุกข์ก็เท่ากับสุขแล้ว

ถึงตรงนี้ แฟนๆ Secret คงไม่แปลกใจกับพลังอันเหลือที่มีอยู่ในตัวผู้หญิงคนนี้แล้ว นั่นก็เพราะเธอมีหัวใจที่เต็มร้อยและความคิดในแง่ดีกับทุกเรื่องนั่นเอง

เครดิตเรื่อง “Ghibli”

ที่มาข้อมูล : Secret of Life นิตยสาร Secret