ระลึกไว้เถิดหนา…ยามที่ฉันถนอมคุณ ขอให้คุณถนอมฉันตอบ เพราะฉันรักคุณได้ ฉันก็เกลียดคุณได้เช่นกัน

บริษัทส่งเขาไปตรวจงานต่างจังหวัดเป็นเวลาครึ่งเดือน
เป็นจังหวัดที่ทุรกันดารพอสมควร
โดยปกติไม่ค่อยมีใครอยากจะไปนัก
แต่ครั้งนี้ เขากลับยินดีและรับปากทันที
..
เที่ยงวันนั้น เขารีบตรงเข้าบ้าน จากนั้นก็จัดแจงเก็บเสื้อผ้าจัดกระเป๋า
ซึ่งโดยปกติภรรยาของเขามักจะเป็นผู้ทำให้เสมอ
แต่ครั้งนี้ เขาต้องทำเอง เพราะความเร่งรีบ
จากนั้นก็โทรบอกภรรยาว่าบริษัทส่งเขาไปดูงานต่างจังหวัด อีกครึ่งเดือนถึงจะกลับมา
“ตัวแลตัวเองนะคุณ ถ้าฉันว่างจะแวะไปเยี่ยมคุณ” ภรรยาเขาเอ่ยก่อนที่จะวางสาย
“ไม่เป็นไร คุยทางไลน์ก็ได้ หรือไม่เดี๋ยวผมค่อยหาเวลากลับมาเยี่ยมคุณเอง” เขาบอกภรรยา
ที่จริงที่เขารีบ ไม่ใช่เพราะงานที่ต้องไปรับผิดชอบ
เขารีบไปหาเด็กสาวที่เพิ่งส่งเสียเลี้ยงดูต่างหาก

เขาเปิดตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็หยิบเสื้อพับใส่กระเป๋า
เสื้อผ้าของเขาถูกจัดแขวนไว้ด้านหน้าสุด มองเห็นง่ายสุด ไล่เรียงตามสีแลดูสะอาดเรียบร้อย
“หอมจังเลย”
เขาหยิบเสื้อออกจากตู้อีกครั้งแล้วก็นำมาดม วันนี้เขารู้สึกครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ
เขาเปิดตู้อีกหลังหนึ่งที่แขวนชุดสูทพร้อมเนทไทเข้ากับชุด
เสื้อผ้าของเขาแทบจะทุกชิ้นภรรยาเป็นผู้จัดหาซื้อให้
และเมื่อเขาสวมใส่มันก็ช่วยเสริมให้เขาดูดีทุกชุด
แม้วัยจะเลยสี่สิบกว่าปี เขาก็ยังดูหนุ่มและดูดีกว่าคนวัยเดียวกันหลายปีนัก
เวลามีใครเอ่ยชมภรรยาว่าช่างเลือกสรรเสื้อผ้าให้เขา
เขามักจะไม่ค่อยเห็นด้วย จึงมักจะบอกว่า …
“คนหน้าตาดีใส่อะไรก็ดูดี”

ภรรยาของเขาเป็นคนดี เธอมีคุณสมบัติครบถ้วนของศรีภรรยา
เรื่องการดูแลเอาใจใส่เขานั้น เธอไม่มีขาดตกบกพร่อง
ก่อนหน้านั้นเขาเคยรู้สึกซาบซึ้งและภูมิใจในตัวเธอ และเคยสัญญากับเธอว่าจะไม่มีหญิงอื่นไปตลอดชีวิต
แต่ความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและสุขสบายอย่างนี้ มันไม่ต่างอะไรกับการนอนแช่ในบ่อน้ำอุ่นเป็นเวลานาน มันชินไปเสียแล้ว
เขาอยากอาบน้ำนอกบ้านบ้าง อยากไปอาบน้ำฝนบ้าง เขาคิดเพียงแต่ว่า สิ่งที่ภรรยาปฏิบัติต่อเขามันคือสิ่งที่เธอสมควรทำ

เขาและเธอแต่งงานกันมา 10 ปีแล้ว ทุกครั้งที่ไปงานเลี้ยงบริษัท
เพื่อนคนอื่นๆ ก็มักจะพาเด็กสาวมาด้วยทุกครั้ง
จนมาครั้งนั้น ที่เขาได้เจอกับเด็กสาวคนนี้ เธอสนใจในตัวเขาเป็นพิเศษ
วันเกิดที่ผ่านมาของเขา เด็กสาวซื้อของขวัญมามอบให้เขาถึงบริษัท
การได้อยู่ใกล้เธอทำให้เขารู้สึกกลับไปเป็นหนุ่มน้อยอีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกที่ช่างวิเศษ
ช่วงที่ผ่านมา เขาต่อสู้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเอง
ถึงขั้นคิดจะเลิกกับภรรยาเพื่อมาอยู่กับเด็กสาวคนนี้
แต่ภรรยาของเขาก็ไม่ได้มีความผิดข้อไหนที่จะหาทางหย่าจากเธอได้
นี่เป็นความรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจ ยิ่งมาเขายิ่งไม่เห็นความพิเศษของภรรยาเลย

เย็นนั้นที่คอนโด
เขาทำอาหารให้เด็กสาวกิน ซึ่งเขาไม่ได้ทำอย่างนี้มานานมาก เขาและเธอหัวเราะกันสนุกสนาน
ก่อนนอน เขาบอกเธอว่า ”เขาต้องดื่มนมก่อนถึงจะนอนหลับสบาย”
เด็กสาวเดินไปเปิดตู้เย็นรินนมเปรี้ยวยื่นให้เขาหนึ่งแก้ว
เธอไม่รู้ว่าเขากลัวน้ำเย็น พอดื่มนมเปรี้ยวเย็นๆเข้าไปท้องใส้ก็ปั่นป่วน
ตอนที่เขาอยู่บ้าน ก่อนนอนทุกคืนบนโต๊ะข้างเตียงนอนจะมีนมอุ่นๆวางไว้เพื่อเขาหนึ่งแก้ว
แน่นอน นมอุ่นไม่ได้เดินมาอยู่ที่โต๊ะด้วยตัวมันเอง ก็ภรรยาของเขานั่นแหละที่เตรียมไว้ให้เขา
“เราเพิ่งอยู่ด้วยกัน เดี๋ยวเธอก็รู้ว่าอาแพ้อะไรบ้าง?” เขากล่าวกับเด็กสาวอย่างเชื่อมั่น

วันรุ่งขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินทางไปดูงานที่ต่างจังหวัด
เขายื่นเสื้อเชิ๊ตที่ใส่เมื่อวานให้กับเด็กสาว
“ซักรีดให้อาด้วยนะ ก่อนกลับอาจะมาค้างกับเธออีกคืน”
เด็กสาวรับเอาเสื้อเชิ้ตของเขามากอดไว้พร้อมยิ้มส่ง
มันยิ่งทำให้หัวใจเขาชุ่มชื่น การกระทำเล็กๆน้อยๆของเด็กสาวทำให้หัวใจของเขาพองโต
“ชีวิตอย่างนี้สิถึงมีสีสัน” เขาบอกกับตัวเองก่อนก้าวออกจากคอนโด

ตามคำสัญญากับเด็กสาว เขากลับมาก่อนเวลาหนึ่งวันเพื่อจะได้มาค้างกับเธอ
เมื่อมาถึงคอนโด เขาบอกเธอว่าเขาขออาบน้ำก่อน
จากนั้นก็เรียกเด็กสาวให้หยิบเสื้อเชิ๊ตที่ฝากให้เธอซักเมื่อกลางเดือนที่แล้ว
เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จ เด็กสาวก็ยังง่วนอยู่กับการหาเสื้อของเขา
หายังไงเธอก็หาไม่เจอ จนเขาต้องช่วยหาด้วยอีกคน
เขาเปิดดูตู้เสื้อผ้าของเธอหลายครั้ง ก็หาไม่เจอ จนรู้สึกหงุดหงิด
เด็กสาวค้นหาในตะกร้าเสื้อผ้า จู่เธอก็หัวเราะขึ้นมา
“เจอแล้วค่ะ อยู่นี่เอง”
เธอหยิบเสื้อของเขาขึ้นมาทั้งๆที่ยังมีไม้แขวนเสื้อติดอยู่
“หนูซักแล้วว่าจะรีด พอดีลืมไว้ในตะกร้า มันก็เลยเป็นอย่างนี้”
เขามองเสื้อที่ยับยู่ยี่อย่างสลดใจ ความรู้สึกครึกครื้นมันหายไปตั้งแต่ตอนหาเสื้อแล้ว
นี่ยังมาเจอเสื้อของตัวเองในสภาพนี้อีก เขาได้แต่ส่ายหัวไปมา
เด็กสาวรู้ว่าเขาโกรธจึงตรงเข้ามากอดเขาไว้
“หนูจะไม่ทำอย่างนี้อีก อาให้อภัยหนูได้ไหมค่ะ?”

เขานึกถึงเสื้อผ้าทุกตัวที่ภรรยาซักและรีดใส่ตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
แต่นี่ที่คอนโดของเด็กสาว เสื้อของเขากลับถูกยัดลงตะกร้า
คิดถึงตรงนี้ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว อยู่ที่บ้านเขาไม่เคยเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน
เขาไม่เคยรู้สึกอดสูใจอย่างนี้ ยิ่งนึกก็ยิ่งหดหู่ในจิตใจ
เขาสวมเสื้อผ้าที่นำติดตัวมาและเก็บเสื้อเชิ้ตลงในกระเป๋า
จากนั้นก็เดินตรงไปที่ประตู เดินจากเด็กสาวไปด้วยความสับสน

เมื่อถึงบ้าน คนที่ออกมาเปิดประตุก็คือภรรยาของเขา
เธอมองตลึงแล้วก็หัวเราะขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“ทำไมกลับมาก่อนตั้งหนึ่งวันละคะ ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์เหรอคะ คิดถึงฉันใช่ไหมล่ะ?”
ยิ่งเห็นภรรยายิ้มแย้มพูดหยอก เขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจ
“มา เดี๋ยวฉันเปิดน้ำอุ่นให้อาบนะ มีเสื้อผ้าที่ไม่ได้ซักไหม เดี๋ยวฉันเอาไปลงเครื่องด้วยเลย”
เธอรับเอาเสื้อเชิ้ตตัวยับนั้นจากมือของเขา
เขามองตามภรรยาไป จู่ๆก็เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกอยู่ที่ลำคอ
“นี่สินะที่เขาพูดว่ากันว่าครอบครัว บรรยากาศมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ความธรรมดาที่เราไม่เคยใส่ใจ”
เขาพึมพำและมองภรรยาอย่างรักใคร่
เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าของเขาทุกชุดถูกแขวนไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิม
เขาสูดลมหายใจดังแบบรู้สึกสุขใจอย่างประหลาด
พอภรรยาของเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ
เขาก็สวมกอดเธอไว้แน่นและนาน
เหมือนกับเด็กที่ทำของรักหายไปและได้กลับคืนมาก็มิปาน

อย่าให้ความสนุกน่าตื่นเต้นเพียงชั่วครั้ง พังครอบครัวที่ร่วมสร้างกันมา
ระลึกไว้เถิดหนา…
ยามที่ฉันถนอมคุณ ขอให้คุณถนอมฉันตอบ
เพราะฉันรักคุณได้ ฉันก็เกลียดคุณได้เช่นกัน
เสื้อผ้าขาดเป็นรู พอซ่อมแซมปะเย็บได้ ไม่เป็นไร!
บาดแผลพกช้ำทางกาย ทายารักษาหายได้ ไม่เป็นไร!
บาดแผลทางใจ เอายาที่ไหนรักษา? มันจะสายไป!
อย่ารอให้ฉันร้องไห้ก่อน คุณถึงมาบอกรักฉัน
อย่ารอให้ฉันท้อก่อน คุณถึงมารอง้องอล
อย่ารอให้ฉันเดินจากไปก่อน คุณถึงมาบอกรักฉันเพียงใด
หากวันใดที่ฉันตัดสินใจ มันจะไม่มีทางหวนกลับคืนมาเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
…………………………………………………
#นุสนธิ์บุคส์