วันนี้เรานำวิธีแก้ปวดกระดูกมาฝากกันค่ะ
ด้วยการรักษาแบบวิธีธรรมชาติพืชใกล้ตัวเราที่เรามองข้าม
ไม่รู้ว่าจะมีสรรพคุณครอบจักรวาลเลยจริงๆค่ะ
มาดูกันเลยนะค่ะว่าจะเอาส่วนไหนที่นำมาใช้ในการรักษา มาดูกันเลยจ้าาาา….
วิธีดังกล่าว ให้เอา “มะก่องข้าว” ทั้งต้นรวมรากแบบแห้ง 1 กำมือต้มกับน้ำท่วมยาจนเดือดแล้วเอาเนื้อห่อผ้าขาวบางประคบจุดที่ปวดกระดูกและดื่มน้ำที่ต้มครั้งละครึ่งแก้ว 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ หรือ จะเอาทั้งต้นแบบแห้งต้มน้ำอาบ จะช่วยให้อาการปวดกระดูกและอาการไข้ที่เกิดจากการปวดกระดูกที่อักเสบให้หายได้
มะก่องข้าว อยู่ในวงศ์ MALVACEAE มีขึ้นเองตามที่รกร้างทั่วไป และมีชื่อเรียกอีกเยอะ ทั้งต้น เป็นยาบำรุงโลหิตขับลมช่วยให้เจริญอาหาร รากบำรุงธาตุแก้มุตกิด (อาการปัสสาวะขุ่น เสียวมดลูก ตกขาว มีกลิ่นเหม็น ปวดชายกระเบนเหน็บในสตรี) แก้ไอบำรุงกำลัง ใบหรือทั้งต้นต้มน้ำดื่มแก้โรคเบาหวานดีมาก ใบตำพอกบ่มหนองให้สุกและแตกเร็ว ขยี้อุดฟันแก้ปวดฟัน แก้เหงือกอักเสบ
ลักษณะ เป็นไม้พุ่มอายุปีเดียวหรือหลายปี สูง 0.5-2 เมตร ใบรูปไข่ โคนใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลม หูใบรูปแถบ ออกดอกเดี่ยวๆที่ซอกใบ มีรอยข้อต่อ พองออก และหักงอ ที่ส่วนปลายก้านดอก กลีบดอกสีเหลืองหรือส้ม รูปไข่กลับ ปลายมน หรือปลายตัด หรือเว้าบุ๋ม ยาวประมาณ 8 มิลลิเมตร บริเวณโคนมีขนรูปดาว บริเวณอื่นผิวเกลี้ยง ผลแห้งแล้วแตก รูปครึ่งทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2 เซนติเมตร แบ่งเป็น 15-22 ซีก ปลายแหลมสั้นๆ มีขนปกคลุมแน่นที่โคน เมล็ด 2-3 เมล็ดต่อซีกผล รูปไต มีขนรูปดาวปกคลุม
สมุนไพรมะก่องข้าว สามารถนำมาใช้ทำยาได้ตั้งแต่รากจนถึงใบ และลูกดิบอ่อนก็สามารถกินได้ หากจะเก็บไว้ให้ได้นานขึ้นก็นำต้นมะก่องข้าวมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้งสนิท ถ้าไม่แห้งสนิทก็จะต้องอบให้แห้ง เพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราจะเก็บไว้นานๆ หรือจะทานแบบสดๆ ด้วยการเด็ดใบมาต้มทานก็ได้ มะก่องข้าวนอกจากรักษาโรคเบาหวานแล้ว ยังสามารถนำส่วนต่างๆ มาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคอื่นได้
ช่วยแก้อาการรากฟันเน่าและเป็นหนอง ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 15 กรัม นำมาผสมกับน้ำตาลแดงพอสมควร ใช้ต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้รากแห้งนำมาแช่กับน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเอาผ่าห่อนำมาอมไว้ในปากบ่อยๆ และใบใช้ขยี้นำมาอุดฟัน ช่วยแก้อาการปวดฟัน แก้อาการเหงือกอักเสบ
ช่วยแก้อาการเจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ อาการไอ และหลอดลมอักเสบ ด้วยการใช้รากนำมาทุบแล้วแช่กับน้ำส้มสายชูประมาณหนึ่งชั่วโมง จากนั้นนำมาอมจะทำให้อาการดีขึ้น ส่วนอีกวิธีแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ ให้ใช้ทั้งต้นสด 40-80 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน
แก้อาการบิดมูกเลือด บิดมูกขาว ด้วยการใช้เมล็ดนำมาคั่วให้เกรียม แล้วบดให้เป็นผง ใช้ครั้งละ 3-5 กรัม นำมาผสมกับน้ำผึ้งรับประทานก่อนอาหาร วันละ 3 ครั้ง
ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยแก้อาการปัสสาวะขัด เจ็บ ขุ่น ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปวดแสบเวลาขับปัสสาวะ หรือที่เรียกว่าโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยใช้ทั้งต้นสด 40-80 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือเปลือกนั้นมีเมือก ที่นำมาใช้เป็นยาขับปัสสาวะได้เช่นกัน มีการใช้ในอินโดจีนโดยใช้ดอกอ่อนและเมล็ดเป็นยาขับปัสสาวะ และหล่อลื่น ในอินเดียจะใช้ยาชงจากราก เป็นยาแก้อาการขัดเบาเป็นเลือด และยังระบุด้วยว่ารากและเปลือกนั้นมีฤทธิ์ขับปัสสาวะได้เป็นอย่างดี
ประคบ แก้ปวดเมื่อยกระดูก ให้เอา “มะก่องข้าว” ทั้งต้นรวมรากแบบแห้ง 1 กำมือต้มกับน้ำท่วมยาจนเดือดแล้วเอาเนื้อห่อผ้าขาวบางประคบจุดที่ปวดกระดูกและดื่มน้ำที่ต้มครั้งละครึ่งแก้ว 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ หรือ จะเอาทั้งต้นแบบแห้งต้มน้ำอาบ จะช่วยให้อาการปวดกระดูกและอาการไข้ที่เกิดจากการปวดกระดูกที่อักเสบให้หายได้
สรุปสรรพคุณทางสมุนไพรของมะก่องข้าว
ต้น – ช่วยบำรุงโลหิต ขับลม ช่วยย่อยและทำให้เจริญอาหาร
ราก – แก้โรคเกี่ยวกับระบบหลอดลม น้ำดี บำรุงธาตุเจริญอาหาร ปัสสาวะขุ่น เสียวมดลูก ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคาว แก้ไอ ผอมเหลือง บำรุงกำลัง
ใบหรือทั้งต้น – ต้มน้ำดื่มแก้โรคเบาหวาน ขับปัสสาวะ ล้างแผล ตำรายาพื้นบ้านใช้ใบตำพอกบ่มหนองให้สุกและแตกเร็วขึ้น นอกจากนั้น ใบยังใช้ขยี้อุดฟัน แก้ปวดฟัน แก้เหงือกอักเสบ
ดอก – ฟอกล้างลำไส้ให้สะอาด
มะก่องข้าว เป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง เป็นทางเลือกที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้นะคะ และอีกทั้งยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิดที่แก้โรคเบาหวานได้ แต่ต้องศึกษาสรรพคุณต่างๆ ของสมุนไพรนั้นๆ ให้รอบคอบก่อนที่จะนำมาใช้กันด้วย ทางที่ดีคือควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีค่ะ
ขอขอบคุณที่มาจาก :me-deekrab
วิธีดังกล่าว ให้เอา “มะก่องข้าว” ทั้งต้นรวมรากแบบแห้ง 1 กำมือต้มกับน้ำท่วมยาจนเดือดแล้วเอาเนื้อห่อผ้าขาวบางประคบจุดที่ปวดกระดูกและดื่มน้ำที่ต้มครั้งละครึ่งแก้ว 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ หรือ จะเอาทั้งต้นแบบแห้งต้มน้ำอาบ จะช่วยให้อาการปวดกระดูกและอาการไข้ที่เกิดจากการปวดกระดูกที่อักเสบให้หายได้
มะก่องข้าว อยู่ในวงศ์ MALVACEAE มีขึ้นเองตามที่รกร้างทั่วไป และมีชื่อเรียกอีกเยอะ ทั้งต้น เป็นยาบำรุงโลหิตขับลมช่วยให้เจริญอาหาร รากบำรุงธาตุแก้มุตกิด (อาการปัสสาวะขุ่น เสียวมดลูก ตกขาว มีกลิ่นเหม็น ปวดชายกระเบนเหน็บในสตรี) แก้ไอบำรุงกำลัง ใบหรือทั้งต้นต้มน้ำดื่มแก้โรคเบาหวานดีมาก ใบตำพอกบ่มหนองให้สุกและแตกเร็ว ขยี้อุดฟันแก้ปวดฟัน แก้เหงือกอักเสบ
ลักษณะ เป็นไม้พุ่มอายุปีเดียวหรือหลายปี สูง 0.5-2 เมตร ใบรูปไข่ โคนใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลม หูใบรูปแถบ ออกดอกเดี่ยวๆที่ซอกใบ มีรอยข้อต่อ พองออก และหักงอ ที่ส่วนปลายก้านดอก กลีบดอกสีเหลืองหรือส้ม รูปไข่กลับ ปลายมน หรือปลายตัด หรือเว้าบุ๋ม ยาวประมาณ 8 มิลลิเมตร บริเวณโคนมีขนรูปดาว บริเวณอื่นผิวเกลี้ยง ผลแห้งแล้วแตก รูปครึ่งทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2 เซนติเมตร แบ่งเป็น 15-22 ซีก ปลายแหลมสั้นๆ มีขนปกคลุมแน่นที่โคน เมล็ด 2-3 เมล็ดต่อซีกผล รูปไต มีขนรูปดาวปกคลุม
สมุนไพรมะก่องข้าว สามารถนำมาใช้ทำยาได้ตั้งแต่รากจนถึงใบ และลูกดิบอ่อนก็สามารถกินได้ หากจะเก็บไว้ให้ได้นานขึ้นก็นำต้นมะก่องข้าวมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้งสนิท ถ้าไม่แห้งสนิทก็จะต้องอบให้แห้ง เพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราจะเก็บไว้นานๆ หรือจะทานแบบสดๆ ด้วยการเด็ดใบมาต้มทานก็ได้ มะก่องข้าวนอกจากรักษาโรคเบาหวานแล้ว ยังสามารถนำส่วนต่างๆ มาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคอื่นได้
ช่วยแก้อาการรากฟันเน่าและเป็นหนอง ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 15 กรัม นำมาผสมกับน้ำตาลแดงพอสมควร ใช้ต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้รากแห้งนำมาแช่กับน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเอาผ่าห่อนำมาอมไว้ในปากบ่อยๆ และใบใช้ขยี้นำมาอุดฟัน ช่วยแก้อาการปวดฟัน แก้อาการเหงือกอักเสบ
ช่วยแก้อาการเจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ อาการไอ และหลอดลมอักเสบ ด้วยการใช้รากนำมาทุบแล้วแช่กับน้ำส้มสายชูประมาณหนึ่งชั่วโมง จากนั้นนำมาอมจะทำให้อาการดีขึ้น ส่วนอีกวิธีแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ ให้ใช้ทั้งต้นสด 40-80 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน
แก้อาการบิดมูกเลือด บิดมูกขาว ด้วยการใช้เมล็ดนำมาคั่วให้เกรียม แล้วบดให้เป็นผง ใช้ครั้งละ 3-5 กรัม นำมาผสมกับน้ำผึ้งรับประทานก่อนอาหาร วันละ 3 ครั้ง
ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยแก้อาการปัสสาวะขัด เจ็บ ขุ่น ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปวดแสบเวลาขับปัสสาวะ หรือที่เรียกว่าโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยใช้ทั้งต้นสด 40-80 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือเปลือกนั้นมีเมือก ที่นำมาใช้เป็นยาขับปัสสาวะได้เช่นกัน มีการใช้ในอินโดจีนโดยใช้ดอกอ่อนและเมล็ดเป็นยาขับปัสสาวะ และหล่อลื่น ในอินเดียจะใช้ยาชงจากราก เป็นยาแก้อาการขัดเบาเป็นเลือด และยังระบุด้วยว่ารากและเปลือกนั้นมีฤทธิ์ขับปัสสาวะได้เป็นอย่างดี
ประคบ แก้ปวดเมื่อยกระดูก ให้เอา “มะก่องข้าว” ทั้งต้นรวมรากแบบแห้ง 1 กำมือต้มกับน้ำท่วมยาจนเดือดแล้วเอาเนื้อห่อผ้าขาวบางประคบจุดที่ปวดกระดูกและดื่มน้ำที่ต้มครั้งละครึ่งแก้ว 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ หรือ จะเอาทั้งต้นแบบแห้งต้มน้ำอาบ จะช่วยให้อาการปวดกระดูกและอาการไข้ที่เกิดจากการปวดกระดูกที่อักเสบให้หายได้
สรุปสรรพคุณทางสมุนไพรของมะก่องข้าว
ต้น – ช่วยบำรุงโลหิต ขับลม ช่วยย่อยและทำให้เจริญอาหาร
ราก – แก้โรคเกี่ยวกับระบบหลอดลม น้ำดี บำรุงธาตุเจริญอาหาร ปัสสาวะขุ่น เสียวมดลูก ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคาว แก้ไอ ผอมเหลือง บำรุงกำลัง
ใบหรือทั้งต้น – ต้มน้ำดื่มแก้โรคเบาหวาน ขับปัสสาวะ ล้างแผล ตำรายาพื้นบ้านใช้ใบตำพอกบ่มหนองให้สุกและแตกเร็วขึ้น นอกจากนั้น ใบยังใช้ขยี้อุดฟัน แก้ปวดฟัน แก้เหงือกอักเสบ
ดอก – ฟอกล้างลำไส้ให้สะอาด
มะก่องข้าว เป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง เป็นทางเลือกที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้นะคะ และอีกทั้งยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิดที่แก้โรคเบาหวานได้ แต่ต้องศึกษาสรรพคุณต่างๆ ของสมุนไพรนั้นๆ ให้รอบคอบก่อนที่จะนำมาใช้กันด้วย ทางที่ดีคือควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีค่ะ
ขอขอบคุณที่มาจาก :me-deekrab