โง่มาตั้งนาน!! เผยวิธีแก้ปวดหัวได้ด้วยตัวเอง ภายใน 5 นาที เคล็ดลับจากแพทย์แผนอินเดียโบราณ

ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้ เรามาศึกษาก่อนค่ะ ว่าลักษณะของการปวดหัวในปัจจุบันมีแบบไหนกันบ้างค่ะ และอาการเป็นอย่างไรกัน
  1. ปวดมากที่ขมับ หรือปวดเมื่อยทั้งตัว ในคนอายุมากอาจเป็นอาการของหลอดเลือดสมองอักเสบ
  2. ปวดฉับพลันที่ท้ายทอย และมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน และอ่อนแรงทันที อาจเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองแตก
  3. ปวดหัวและปากเบี้ยว ตาปิดไม่สนิท แขนขาอ่อนแรง เดินเซ หรือชาตัวครึ่งซีก อาจเป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบ
  4. ปวดแล้วมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหน้าผาก มีน้ำมูกไหล อาจจะเป็นการปวดจากไซนัส
  5. ปวดหัวถี่ขึ้นเรื่อยๆ ตามัวพร่ามากขึ้น หรือเห็นภาพซ้อน ร่างกายอ่อนแรง ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า และน้ำหนักลด กินอาหารไม่ได้ อาจเป็นโรคมะเร็งในสมอง
  6. ปวดหัวตุบๆ ข้างเดียวหรือสองข้าง ก่อนปวดมีอาการเห็นแสงแปลกๆ คลื่นไส้ เป็นอาการปวดไมเกรน
  7. ปวดสม่ำเสมอและปวดนานๆ มักเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดจากความตึงเครียด หรือปวดหัวไมเกรน
  8. ปวดแปลบๆ เหมือนไฟช็อต บริเวณหน้า แก้ม โดยเฉพาะเวลาเคี้ยว อาจจะเป็นอาการของโรคปลายประสาทอักเสบ

วิธีการแก้ปวดหัวภายใน 5 นาที

พวกเราโดยปกติก็ใช้รูจมูกทั้งสองข้าง หายใจเข้า-ออก โดยไม่รู้ความแตกต่างของ รูจมูกด้านซ้ายหรือขวา ว่าแตกต่างกันตรงไหน? แต่องค์ความรู้แพทย์แผนอินเดียโบราณ อธิบายเอาไว้ว่า
  • จมูกด้านขวา คือ ตัวแทนแห่งสุริยะและพลังงานความร้อน
  • จมูกด้านซ้าย คือ ตัวแทนแห่งจันทราและพลังงานความเย็น

1) เวลาปวดหัว…ลองเอานิ้วมือ ‘อุดรูจมูกด้านขวา’ แล้วใช้รูจมูก ‘ด้านซ้ายสูดลมหายใจ’ เพียงข้างเดียว
2) เวลาอ่อนเพลีย…ทำกลับด้านกัน คือ เอานิ้วมือ ‘อุดรูจมูกด้านซ้าย‘ แล้วใช้รูจมูก ‘ด้านขวาสูดลมหายใจ’ เพียงข้างเดียว
จะพบว่าอาการที่เป็นอยู่จะบรรเทาลง ภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที !! ให้ลองสังเกตตัวเองว่า เวลารู้สึกตัวตื่นขึ้นตอนเช้า เราใช้รูจมูกด้านไหน หายใจคล่องกว่ากัน?? ถ้าคำตอบคือรูจมูกด้านซ้าย คุณจะรู้สึกอ่อนเพลีย
ให้รีบอุดรูด้านซ้ายและหายใจด้วยรูจมูกด้านขวา ทันที และไม่นานนักก็จะสดชื่นขึ้น หายงัวเงีย
หัดทำไปอยู่บ่อยๆ สักหนึ่งเดือน..ก็จะเริ่มสังเกต ได้ละเอียดขึ้น ว่องไวขึ้น จนไม่ต้องรอให้เกิด อาการปวดหัว แล้วถึงแก้ไข
เพียงเริ่มๆ จะปวด เริ่มๆ จะอ่อนเพลีย ก็ดับอาการได้ทันที ลองดูค่ะ อย่าลืม ! ส่งต่อให้คนที่คุณรัก & ห่วงใยนะคะ

ขอบพระคุณแหล่งที่มา : btsstation.com