ผู้หญิงต้องระวัง!! “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” ทรมานกว่าที่คุณคิด!!

หนุ่มสาวออฟฟิศต้องระวังเอาไว้เลยสำหรับ “โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ” ที่มักจะเกิดขึ้นได้ง่าย และเกิดในสาวๆ ในวัย 20-50 ปีเป็นส่วนมาก เหล่านี้มักจะขี้เกียจเดินไปเข้าห้องน้ำ หรือบางครั้งต้องประชุมงานหรือทำงานติดค้างจนไม่สามารถลุกไปเข้าห้องน้ำได้ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่พฤติกรรมที่ดี อีกทั้งยังจะเป็นอันตรายต่อกระเพาะปัสสาวะ

สาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้นกว่าท่อปัสสาวะของผู้ชาย และอยู่ใกล้กับทวารหนัก จึงมีโอกาสสูงที่เชื้อแบคทีเรียซึ่งปกติมีอยู่จำนวนมากบริเวณทวารหนักจะเคลื่อนเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ จนเกิดการฟักตัวของเชื้อ และเกิดอาการอักเสบในที่สุด นอกจากนี้ การมีเพศสัมพันธ์ยังอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียหลุดเข้าเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้อีกด้วย


อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะ
หลังจากรู้จักสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้ว คราวนี้เราลองมาสังเกตอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบกันดู ว่ามีอาการอย่างไรบ้าง หากพบว่าเรากำลังมีอาการเช่นนี้อยู่ อย่าลืมรีบรักษา
1.ปวดปัสสาวะบ่อย กลั้นไม่ค่อยได้ ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ปัสสาวะแต่ละครั้งออกมาปริมาณน้อย
2.รู้สึกแสบในท่อปัสสาวะ ปวดเสียวตอนที่ถ่ายสุด ทุกข์ทรมานทุกครั้งเวลาที่ต้องปัสสาวะ
3.รู้สึกตึง ปวดถ่วง บริเวณท้องน้อย
4.ปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติ
5.ปัสสาวะมีเลือดปน

วิธีการตรวจวินิจฉัย
หากคุณกำลังมีอาการผิดปกติ คาดเดาว่าอาจจะเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาทันที ไม่ต้องกลัว เพราะการตรวจวินิจฉัยทำได้ไม่ยาก ไม่เจ็บปวด รู้ผลเร็ว เพื่อที่จะได้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที ไม่ต้องทนทรมานจากอาการแสบขัดเวลาปัสสาวะ และไม่เป็นเรื้อรังจนยากแก่การรักษา
วิธีการตรวจวินิจฉัย คุณหมอจะซักประวัติ สอบถามอาการ และไลฟสไตล์การใช้ชีวิต เช่น ชอบอั้นปัสสาวะนานๆ ไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำน้อย เป็นต้น ควบคู่ไปกับการตรวจปัสสาวะ โดยให้เราทิ้งปัสสาวะในช่วงแรกไปก่อน แล้วค่อยเก็บปัสสาวะที่ออกมาหลังจากนั้นไปตรวจดูจำนวนเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงที่ปะปนมาในปัสสาวะ หากมีปริมาณเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติ หรือมีอาการเรื้อรัง อาจต้องมีการนำปัสสาวะไปเพาะเชื้อ เพื่อดูชนิดของแบคทีเรียต่อไป

การรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
1.รับประทานยาปฏิชีวนะในปริมาณที่เหมาะสมตามที่แพทย์สั่ง เช่น ผู้ป่วยทั่วไปจะรับประทานยาปฏิชีวนะประมาณ 3-5 วัน แต่ถ้ามีอาการหนัก อาจต้องรับประทานยาเป็นเวลานานมากขึ้นประมาณ 7-10 วัน
2.ผู้ที่มีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยๆ ประมาณ 2 ครั้งในรอบ 6 เดือน อาจจำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะวันละครั้งเพื่อป้องกัน
3.บางคนที่มีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่าย เช่น หลังจากมีเพศสัมพันธ์ อาจจำเป้นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะหลังร่วมเพศ เพื่อป้องกันการอักเสบ


วิธีป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
1.หมั่นรักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอด ท่อปัสสาวะ และทวารหนัก
2.ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อให้มีการขับปัสสาวะออกจากร่างกายในระดับที่เหมาะสม เพราะปัสสาวะจะช่วยขับแบคทีเรีย ซึ่งอาจหลุดเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะแล้วกำลังอยู่ในระยะฟักตัวของเชื้อ ออกไปพร้อมปัสสาวะได้
3.เมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ ควรรีบลุกไปเข้าห้องน้ำทันที ไม่ควรกลั้นปัสสาวะนานๆ เพราะจะทำให้แบคทีเรียมีเวลาฟักตัวอยู่ในกระเพาะปัสสาวะนานขึ้น และทำให้เกิดอาการอักเสบได้ง่ายขึ้น
4.คนที่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยๆ เรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุแอบแฝงอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอักเสบได้ง่ายกว่าปกติ เช่น ความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะจากระบบประสาทควบคุม นิ่ว หรือมีการอุดตันในระบบปัสสาวะ เป็นต้น
รู้แล้วก็อย่าละเลยสุขภาพตัวเองกันนะ อย่าอั้นปัสสาวะและดูแลสุขอนามัยให้ดี เพื่อนสุขภาพที่ดีโรคร้ายจะได้ไม่ย่างกราย


ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลพญาไท, goodlifeupdate