แจกฟรี! สูตรเด็ดการทำ ปาท่องโก๋ แบบไร้แอมโมเนียหอมกรอบอร่อย ทำกินได้ทำขายก็ดี

หากใครที่กำลังมองหาเมนูของว่าง ไว้รับประทานวันนี้เรามีเมนูเด็ดวิธีทำ “ปาท่องโก๋” สูตรไร้แอมโมเนียมาฝาก ที่บอกเลยว่าใครทานก็จะติดใจ พร้อมวิธีทำง่ายๆ จากสมาชิกเว็บไซต์พันทิปคุณ พรายชมพู จะมีหน้าตาขั้นตอนเป็นอย่างไรและจะน่าทานแค่ไหนไปชมกันเลย

สวัสดีค่ะ วันนี้ชวนมาทำปาท่องสูตรไร้แอมโมเนีย ด้วยอุปกรณ์ที่มีในครัวไม่กี่ชิ้น และวัตถุดิบไม่กี่อย่าง ง่ายๆแต่อร่อย กรอบนอกนุ่มในกัน ด้วยความที่อยากทานน้ำเต้าหู้ เลยทำน้ำเต้าหู้ไว้ทาน แต่แหมมมมมมมีน้ำเต้าหู้ทั้งทีจะไม่มีปาท่องโก๋ได้อย่างไร มันก็จะไม่ครบเครื่องสินะคะ ไม่ได้การล่ะ เลยลองตามหาสูตรจากยูทูป เพราะเราอยู่ในที่ๆ หาแอมโมเนียไม่ได้ เลยได้สูตรไร้แอมโมเนียมา ทำครั้งแรกก็สำเร็จซะด้วย เลยคิดว่าง่ายขนาดนี้ควรแบ่งปัน สูตรนี้เป็นสูตรเล็กๆเหมาะสำหรับทำทานกันในบ้านค่ะ
ในลิงค์จะมีส่วนผสมตามสูตรต้นฉบับนะคะ ส่วนในกระทู้เป็นสูตรที่เราปรับแล้วเล็กน้อย ใครใคร่ลองทำแบบไหน ลองได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ

อุปกรณ์ที่จำเป็น

1. ชามผสมแป้ง (หรือจะเป็นกะละมังก็ได้ค่ะ แต่อย่าใหญ่มากน๊า)
2. กระชอนร่อนแป้ง
3. ตาชั่ง สำหรับตวงส่วนผสมค่ะ (หรือใครเป็นเซียนด้านการทำอาหารแล้วจะกะเอาก็ได้ค่ะ)
4. ไม้พาย ถ้าไม่มีก็ใช้มือค่ะ
5. เหยือกหรือถ้วยหรือแก้วไว้ตวงน้ำ
6. ช้อนตวง (เราใช้ช้อนทานข้าว กะช้อนชงชาตวงเอาค่ะ)
7. กะทะก้นลึกสำหรับทอด หรือจะใช้หม้อก็ได้ค่ะ ถ้าใช้กะทะก้นแบนมันจะเปลืองจะน้ำมันมากๆ เพราะต้องใส่เยอะนิดนึงเพื่อให้ปาท่องโก๋ลอยตัว ตะเกียบ ตะหลิว


ส่วนผสม

1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 250 กรัม
2. นมผงหรือคอฟฟี่เมต 1 ช้อนโต๊ะ
3. ผงฟู 1/2 ช้อนชา
4. เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
5. ยีสต์ผง 1/4 ช้อนชา
6. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ 1/2 ช้อนชา
8. น้ำอุ่น 170 มิลลิลิตร
9. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมันสำหรับทอด


วิธีทำ

เริ่มจากชั่งแป้ง ตามด้วยนมผงหรือคอฟฟีเมต ผงฟู เบคกิ้งโซดา และยีสต์ ร่อนแล้วคนให้เข้ากัน พักไว้ค่ะ

ตวงน้ำอุ่น 170 มิลลิลิตร ใส่น้ำตาล เกลือ ลงไปคนให้ละลายเข้ากันดี ตามด้วยน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะตบท้าย คนเบาๆให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นทำหลุมตรงกลางแป้งที่พักไว้ แล้วค่อยๆเทน้ำลงไปนะคะ ตอนแรกเราใส่ไป 70 เปอร์เซ็นต์ก่อน เพราะถ้าแฉะไปจะแก้ไขลำบาก ใช้ไม้พายหรือมือคน แค่คนให้เข้ากันนะคะ ไม่ต้องนวด เดี๋ยวปาท่องโก๋จะเป็นขนมปังไปซะ ถ้าแป้งยังแห้งไปเติมน้ำส่วนที่เหลือ หรือถ้าน้ำหมดแล้วแป้งยังแห้งอยู่ก็ค่อยๆเติมทีละ 1 ช้อนโต๊ะนะคะ (ความชื้นในอากาศมีผลด้วยนะคะ บ้านเราอากาศค่อนข้างชื้น บางทีอาจไม่ต้องใช้น้ำถึง 170 มิลลิลิตรก็ได้ค่ะ ค่อยๆใส่น้ำนะคะ)

จากนั้นก็ใช้แรปปิดหรือเอาชามใส่ถุงไว้กันลมพักแป้งไว้ 1 ชั่วโมง (ครั้งที่ 1) แป้งที่ผสมแล้วจะมีลักษณะประมาณนี้นะคะ



เมื่อครบ 1 ชั่วโมงแล้ว ก็มากลับแป้งกันค่ะ วิธีการกลับแป้งคือใช้มือดึงแป้งที่อยู่ด้านบนลงด้านล่างหมุนชามตาม ก่อนดึงแป้งชุบน้ำทีทมือก่อนนะคะ ไม่งั้นแป้งจะเหนียวติดมือจนดึงไม่ได้ ดึงแป้งและหมุนชามตามประมาณ 3-4 รอบก็พอค่ะ ในคลิปต้นฉบับ มีการกลับแป้งให้ดูด้วยนะคะอยู่ในนาทีที่ 6 เป็นต้นไปค่ะ (ใช้เวลาไม่น่าเกิน 5 นาที) จากนั้นก็แรปหรือปิดชามกันลมแล้วพักแป้งไว้อีก 1 ชั่วโมง (ครั้งที่ 2)
แป้งที่กลับแล้ว ครั้งที่ 1 จะมีลักษณะนี้ค่ะ



พอครบ 1 ชั่วโมงแล้วก็มากลับแป้งอีกครั้งตามวิธีด้านบนเลยค่ะ
แป้งที่กลับแล้ว ครั้งที่ 2 จะมีลักษณะนี้ค่ะ



จากนั้นก็แรปปิดกันลมทิ้งไว้ 1 คืนก่อนนำมาทอดนะคะ ของเราเริ่มเตรียมแป้งตอน 2 ทุ่ม กลับแป้งเสร็จตอน 4 ทุ่ม ทอดตอนช่วงประมาณ ตี 5 – 7 โมงเช้าค่ะ คาดว่าการพักแป้งครั้งสุดท้ายนี้น่าจะพักเป็นเวลาประมาณ 6 ชั่วโมงขึ้นไปค่ะ

เช้ามาเราจะได้แป้งโดลักษณะนี้



มาเตรียมทอดกันค่ะ ตั้งกะทะใส่น้ำให้ท่วมก้นกะทะอย่างน้อย 1.5 นิ้วนะคะ ใช้ไฟกลางอ่อน ที่บ้านใช้เตาไฟฟ้า เราใช้ที่เบอร์ 5 ค่ะ จากนั้นเตรียมพื้นที่โดยใช้แป้งสาลีเอนกประสงค์โรยที่พื้นก่อนเทแป้งโดลงไป คลุกมือที่แป้งกันแป้งติดมือก่อนนะคะ แล้วโรยนวลแป้งลงบนแป้งโดที่เราเทลงไป ตบเบาๆจัดรูปทรงแล้วตัดตามยาว วางแผ่ลงบนพื้นที่ที่โรยแป้งไว้ แป้งจะนิ่มและยืดตัวได้เองนะคะ ไม่จำเป็นต้องใช้ที่อนวดมารีดให้แบน ค่อยๆยืดตบแป้งโดออกตามยาว ความกว้างก็แล้วแต่เลยค่ะ อยากได้ตัวเล็ก ตัวใหญ่ขนาดไหน แผ่ให้บางค่ะ ความหนาของเราไม่น่าถึง 1/2 เซ็นติเมตร จากนั้นก็ตัดค่ะ



แต่พอตัดแล้วแป้งจะพองตัวขึ้นอีกไม่ต้องตกใจนะคะ  (ขออภัยลืมถ่ายตอนตัดมาให้ดู ถ้าไม่มั่นใจในการตัดลองเข้าไปดูที่คลิปต้นฉบับได้เลยนะคะ) ประกอบร่าง โดยใช้ด้ามช้อนแตะน้ำแล้วมาแตะตรงกลางแป้ง ก่อนนำลงกะทะก็จับตรงกลางแล้วยืดสักหน่อย ก่อนนำลงทอดลองน้ำมันก่อนโดยใช้เศษแป้งใส่ลงไปนะคะ ถ้าน้ำมันได้ที่ ตอนแรกที่เราใส่แป้งลงไปแป้งจะจมแต่จะค่อยๆลอยตัวขึ้นแล้วพองออกค่ะ รอจนแป้งพองเต็มที่ด้านที่ลงเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อนๆ แล้วค่อยกลับนะคะ คอยกลับสัก 2-3 รอบ จนสุกปาท่องโก๋ของเป็นสีทองสวยดีแล้วค่อยตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ทานตอนร้อนๆอร่อยเด็ดมากๆค่ะ



ยืดแป้งออกมาเป็นแผ่น



ตัดให้ได้ขนาด



นำไปทอด



เสร็จสมบูรณ์แล้วเราจะได้ปาท่องโก๋หน้าตาประมาณนี้ค่ะ



เนื้อด้านในชัดๆ



ทานกับน้ำเต้าหู้ อร่อยยยยยยยยย ….. ปลื้มมาก



หรือจะทานกับโจ๊ก ก็เข้ากันได้ดีนะคะ


ทริคเล็กๆ น้อยๆ

1. ควรคนแป้ง ผงฟู เบคกิ้งโซดาและ ยีสต์ให้เข้าก่อน แล้วค่อยๆผสมน้ำลงไป อย่านวดแป้งนานนะคะ ไม่งั้นจะได้ขนมปังทอดแทน
2. ถ้าทอดโดยใช้ไฟอ่อนมากเกินไป ปาท่องโก๋จะอมน้ำมัน และแข็งค่ะ
3. ถ้าทอดโดยใช้ไฟแรงมากเกินไป เนื้อข้างในปาท่องโก๋จะแน่นค่ะ (อาจจะเป็นเพราะแป้งไม่สุกดี)
เดี๋ยวต้องเตรียมตัวไปทำงานแล้วล่ะค่ะ ไว้กลับมาถ้านึกอะไรออกอีกจะมาเพิ่มเติมให้นะคะ


ขอบคุณที่มาจาก : พรายชมพู เว็บไซต์พันทิป