ย้อนเหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั่วประเทศไทย ในวันที่ 18 มีนาคม 2521 เกิด
Blackout ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง 20 นาที
นับเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งการไฟฟ้าขึ้นในเมืองไทย
ตั้งแต่มนุษย์ได้ทำความรู้จักกับกระแสไฟฟ้าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้ชีวิตในทุกลมหายใจของเราล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้ไฟฟ้าทั้งนั้น แต่เคยคิดหรือไม่ว่า หากวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมาโดยปราศจากไฟฟ้าชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหน หรือหากประเทศไทยของเราเกิดไฟดับทั้งประเทศจะเป็นอย่างไร
เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั้งประเทศ หรือที่เรียกกันว่า Blackout นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2521 เวลา 07.40 น. จะรู้ดีว่า เป็นวันที่ประเทศไทยเกิด Blackout ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง 20 นาที นับเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งการไฟฟ้าขึ้นในเมืองไทย โดยมีสาเหตุมาจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ซึ่งมีกำลังจ่ายอยู่ที่ 1,030 เมกะวัตต์ ทั้ง 4 เครื่อง และเป็นกำลังการผลิตสำคัญของประเทศ เกิดเหตุขัดข้องขณะจ่ายไฟฟ้า ทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าอื่น ๆ ทั่วประเทศที่มีระบบการทำงานต่อเนื่องเกิดขัดข้องและหลุดออกจากระบบตามกันไปด้วย
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายพื้นที่ตกอยู่ในสภาพไร้ไฟฟ้า จนกระทั่งเวลา
17.00 น. จึงเริ่มกลับมาจ่ายไฟได้ตามปกติครอบคลุมทั้งประเทศ
และถือเป็นโชคดีของคนไทยที่หลังจากเกิดเหตุ Blackout ครั้งนั้นแล้ว
ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟดับต่อเนื่องยาวนานเช่นนี้อีกเลย
จนเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม 2556 ได้เกิดเหตุไฟดับเป็นวงกว้างในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร กระบี่ นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ระนอง สตูล สงขลา สุราษฎร์ธานี ตรัง และ ยะลา เนื่องจากเหตุไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้ในบางพื้นที่เกิดไฟดับนาน 20 นาที ไปจนถึง 2 ชั่วโมงกว่า ก่อนจะสามารถกลับมาเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติทั้งหมดในเวลาประมาณ 23.00 น. สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ชีวิต และความน่าเชื่อถืออย่างมาก
ทั้งนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาไฟดับไว้ว่า เหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั่วประเทศถือว่าเป็นเหตุการณ์รุนแรง และสร้างความเสียหายมากมายมหาศาลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ส่วนสาเหตุนั้นมาจากระบบการผลิตไฟฟ้าที่คล้ายกับการชักเย่อที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายที่มีจำนวนเท่า ๆ กัน ต่างดึงด้วยกำลังใกล้เคียงกันจนทำให้การดึงนั้นอยู่ในสภาวะสมดุล แต่หากผู้เล่นฝ่ายใดล้มลงไปกะทันหัน ก็จะทำให้ผู้เล่นทั้งหมดล้มลงนั่นเอง
และในปัจจุบันหากเกิดไฟฟ้าดับทั่วประเทศ จะสร้างผลเสียหายทางด้านเศรษฐกิจเฉลี่ยถึงชั่วโมงละ 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงจะมีความเสียหายมากกว่านี้ ทั้งในด้านเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ การลงทุนในสายตาต่างประเทศ ตลอดจนชีวิตของผู้ป่วยที่ต้องพึ่งอุปกรณ์การแพทย์ที่ต้องใช้ไฟฟ้าเข้ามาต่อชีวิต เป็นต้น
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ไฟฟ้ากับชีวิตของมนุษย์มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก การผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยจึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันและเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้า รวมทั้งกำลังการผลิตสำรองที่จะสามารถนำมาแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ตั้งแต่มนุษย์ได้ทำความรู้จักกับกระแสไฟฟ้าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้ชีวิตในทุกลมหายใจของเราล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้ไฟฟ้าทั้งนั้น แต่เคยคิดหรือไม่ว่า หากวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมาโดยปราศจากไฟฟ้าชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหน หรือหากประเทศไทยของเราเกิดไฟดับทั้งประเทศจะเป็นอย่างไร
เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั้งประเทศ หรือที่เรียกกันว่า Blackout นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2521 เวลา 07.40 น. จะรู้ดีว่า เป็นวันที่ประเทศไทยเกิด Blackout ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง 20 นาที นับเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งการไฟฟ้าขึ้นในเมืองไทย โดยมีสาเหตุมาจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ซึ่งมีกำลังจ่ายอยู่ที่ 1,030 เมกะวัตต์ ทั้ง 4 เครื่อง และเป็นกำลังการผลิตสำคัญของประเทศ เกิดเหตุขัดข้องขณะจ่ายไฟฟ้า ทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าอื่น ๆ ทั่วประเทศที่มีระบบการทำงานต่อเนื่องเกิดขัดข้องและหลุดออกจากระบบตามกันไปด้วย
จนเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม 2556 ได้เกิดเหตุไฟดับเป็นวงกว้างในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร กระบี่ นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ระนอง สตูล สงขลา สุราษฎร์ธานี ตรัง และ ยะลา เนื่องจากเหตุไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้ในบางพื้นที่เกิดไฟดับนาน 20 นาที ไปจนถึง 2 ชั่วโมงกว่า ก่อนจะสามารถกลับมาเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติทั้งหมดในเวลาประมาณ 23.00 น. สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ชีวิต และความน่าเชื่อถืออย่างมาก
ทั้งนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาไฟดับไว้ว่า เหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั่วประเทศถือว่าเป็นเหตุการณ์รุนแรง และสร้างความเสียหายมากมายมหาศาลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ส่วนสาเหตุนั้นมาจากระบบการผลิตไฟฟ้าที่คล้ายกับการชักเย่อที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายที่มีจำนวนเท่า ๆ กัน ต่างดึงด้วยกำลังใกล้เคียงกันจนทำให้การดึงนั้นอยู่ในสภาวะสมดุล แต่หากผู้เล่นฝ่ายใดล้มลงไปกะทันหัน ก็จะทำให้ผู้เล่นทั้งหมดล้มลงนั่นเอง
และในปัจจุบันหากเกิดไฟฟ้าดับทั่วประเทศ จะสร้างผลเสียหายทางด้านเศรษฐกิจเฉลี่ยถึงชั่วโมงละ 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงจะมีความเสียหายมากกว่านี้ ทั้งในด้านเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ การลงทุนในสายตาต่างประเทศ ตลอดจนชีวิตของผู้ป่วยที่ต้องพึ่งอุปกรณ์การแพทย์ที่ต้องใช้ไฟฟ้าเข้ามาต่อชีวิต เป็นต้น
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ไฟฟ้ากับชีวิตของมนุษย์มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก การผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยจึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันและเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้า รวมทั้งกำลังการผลิตสำรองที่จะสามารถนำมาแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก