13 ข้อคิดสร้างความสุข ในช่วงวัย 45-60
1 อย่ าลืมเอาจิตไปพักผ่อนบ้าง
หลายคนเมื่อเกษียณแล้ว มักใช้เวลาหาแต่ความสุขทางกาย พากายไปเที่ยว ไปพักผ่อน ไปสูดอากาศ ไปกินอาหารดีๆ แต่กลับละเลยไม่คิดที่จะเอ าจิตไปพักผ่อน ทั้งที่กายกับจิตนั้นสัมพันธ์ และมีอิทธิพลต่อกัน
ดร.สุเมธ บอกว่า โดยส่วนตัวทุกครั้งที่มีจังหวะได้พักผ่อน เว้นวรรคชีวิตนานๆ จึงมักถือโอกาสเอ าจิตไปพักด้วยการบวช ครั้งล่าสุดบวชตอนอายุ 65 ปี เป็นพระสายวัดป่าอยู่ที่สกลนคร
2 ใช้ชีวิตอย่ างมีสติ
ไม่ว่าจะเป็นการมีสติในการกิน แทนที่จะกินตามใจปาก สนองความอย ากของตัวเอง แล้วต้องให้หมอจ่ายย าลดไขมัน ลดน้ำตาล ทำไมเราไม่ลองหันม าลดที่ปากของตัวเอง ด้วยการใช้สติในการพิจารณาอย่ างมีเหตุมีผลทุกครั้งในการกิน
3 น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยมีเหตุผลเป็นเครื่องนำทาง
เหตุผลเป็นผลผลิตของปัญญา ดังนั้นจึงต้องรั ก ษ าศีลเสียก่อน และมีสติ สมาธิ ผลสุดท้ายจะทำให้เกิดก ารพิจารณาโดยใช้ปัญญาเป็นที่ตั้ง เมื่อดำเนินทุกอย่ างด้วยเหตุด้วยผล ก็จะเกิดความพอเพียง
4 ฝึกการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ด้วยหลักทานของทศ พิธราชธรรม
เกษียณแล้วอย่ าเอาแต่อยู่บ้านเฉยๆ แต่ให้พย าย ามหาเรื่องช่วยค น โ น้ น คนนี้ เท่าที่ร่างกายของเราจะทำได้ รั ก ษ าร่างกายให้แข็งแรง เพื่อทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น
5 ฝึกระลึกถึงมรณานุสติ
ใครๆ ก็ต า ยได้ ไม่ว่าใครก็ต้องเจอความต า ยเท่าเทียมกันหมดทุกคน เมื่อมองเห็นความต า ยเป็นเรื่องธรรมดา จะทำให้เรานิ่งกับความต า ย
6 อยู่อย่ างสง่า ต า ยอย่ างสงบ
ตอนมีชีวิตอยู่ต้องมีคว ามสง่างามในตัวเอง ทุกอย่ างต้องช่วยเหลือตัวเองได้ ใครเห็นก็ให้ความเคารพนับถือ และเมื่อถึงเวลาต า ย ก็ต า ยอย่ างสงบ อย่ าไปกลัวความต า ย
จะยิ่งใหญ่แค่ไหน เมื่อต า ยแล้วเกียรติยศ เงินทอง สะสมไว้แค่ไหนก็ต้องส่งคืนหมด สิ่งเดียวที่เหลือไว้คือ ความเป็นตัวตนของเรา ถ้าประกอบคุณงามความดีไว้ คนก็ยังนึกถึง แต่ถ้าประกอบความชั่ วไว้มาก คนก็ยังด่าทอไปจนถึงลูกหลาน
7 ร่าเริง รื่นเริง คึกคัก ครึกครื้น
คาถาที่ว่านี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงรับสั่งเสมอ เพราะจิตเป็นเรื่องสำคัญ ต้องมีอารมณ์ขันอยู่ตลอดเวลา มองเห็นทุกอย่ างเป็นเรื่องสนุก
จึงจะสามารถทำงานได้สำเร็จรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เมื่อตัวเราร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส บรรย ากาศรอบตัว คนรอบข้างที่อยู่กับเรา ก็จะรื่นเริงไปด้วย
8 อักโกธะ หรือความไม่โกรธ
เป็นอีกหลักข้อหนึ่งในทศ พิธราชธรรม เพราะเมื่อโกรธแล้วมักจะเสียหาย หากคุมอารมณ์ไม่อยู่ในเรื่องไร้ส าระ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเรื่องมากระทบใจ แค่ลองพลิกอารมณ์ มองให้เห็นเป็นเรื่องสนุกๆ เท่านี้ทุกอย่ างก็จบ
9 อวิโรธนะ คือการดำรงอยู่ในความถูกต้องเสมอ
เป็นหลักทศ พิธราชธรรมที่ต้องรั ก ษ าให้มั่น หากอย ากปฏิบัติตามในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยยึดหลักธรรมะ ที่ต้องมีทั้งสองอย่ างคือ ความดี และความถูกต้อง
เพราะบางอย่ างดีแต่ไม่ถูกต้อง บางอย่ างถูกต้องแต่ไม่ดี การกระทำของเราต้องตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา เป็นธรรมหรือเปล่า นั่นคือดี และถูกต้องหรือเปล่า
10 รั ก ษ ากายและจิต
ผู้สูงอายุต้องรั ก ษ ากายให้ดี เพราะเงินทองไม่มีประโยชน์ เอาแค่พอเพียงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ที่เหลือเป็นส่วนเกินที่เราไม่ได้ใช้ เรื่องจิตก็สำคัญเช่นกัน
ต้องโปร่งใส อย่ าไปขุ่นมัวโดยที่ไร้ประโยชน์ คำนึงไว้ว่าเวลาอยู่ในโลกนี้สั้นแล้ว ดังนั้นอย่ าเสียเวลาเป็นทุ กข์ แต่ให้ Enjoy last minute
11 อย่ าหยุดทำงาน
เกษียณแล้วอย่ าเอาแต่นั่งๆ นอนๆ เพราะเมื่อไหร่ที่เร าหยุดทำงาน ร่างกายของเราก็จ ะหยุดตามลงไปด้วย เหมือนรถที่จอดเฉยๆ สตาร์ทไม่ติด
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีรับสั่งว่า อย่ าหยุดด้วยจิต และกายก็อย่ าหยุดด้วย ทำให้ ดร.สุเมธ ยังคงทำงานทุกวัน ส่งผลให้แข็งแรงจนถึงวันนี้
12 ใช้ชีวิตโดยรั ก ษ าความเป็นธรรมดาเอาไว้
อย่ ายึดติดยศถาบรรดาศักดิ์ แต่ให้ทำชีวิตอยู่อย่ างธรรมดา เรียบๆ ง่ายๆ เพราะจะยิ่งใหญ่มาจากไหน เกษียณแล้วทุกอย่ างสูงสุดคืนสู่สามัญ ไม่ต้องเป็นวีไอพีหรอก เพราะจะเป็นวีไอผีอยู่แล้ว
13 ยึดถือคำว่าประโยชน์สุขเป็นเป้าหมายของชีวิต
อะไรไม่มีประโยชน์อย่ าทำ อย่ าคิดทำ ให้ทำแต่สิ่งที่มีประโยชน์ ผลสุดท้ายสิ่งที่เร าจะได้รับคือความสุข
แง่คิดดีๆ จาก ดร.สุเมธ ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า คุณค่าและความสุขในชีวิต ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขอายุ แต่อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ และหัวใจที่ไม่มีคำว่าเกษียณ
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อสูงวัยอย่ างมีคุณค่า น้อมพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง ในงานประชุมวิชาการประจำปี
ที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) ประชารัฐร่วมใจ สู่สังคมสูงวัยอย่ างมีคุณภาพ
ขอขอบคุณที่มา ห นั ง สื อ พิ ม พ์ โ พ ส ต์ ทู เ ด ย์, verrysmilejung