Home »
ทั่วไป
»
ทำไม? เวลานั่งสมาธิแล้วถึงได้บุญมาก
ทำไม? เวลานั่งสมาธิแล้วถึงได้บุญมาก
เคยสงสัยกันไหมว่า
เพราะอะไรในหนังสือถึงบอกว่าบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมากกว่าการบริจาคทานใดๆ
คือการวิปัสสนาก ร ร
มฐานหรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่านั่งสมาธิทำไมการนั่งเฉยๆ
และกำหนดลมหายใจถึงได้บุญมาก?
จริงๆแล้วการนั่งสมาธิมีประโยชน์แน่นอนในแง่ที่ทำให้เรามีสติมากขึ้น
นิ่งขึ้น แต่บุญมาจากไหน
เพราะอะไรทำสมาธิแล้วสามารถส่งบุญให้แก่ผู้มีพระคุณหรือเจ้าก ร ร มนายเ ว
รต่างๆได้
ถึงแม้จะไม่เข้าใจมากนักแต่ก็พย าย ามจะนั่งสมาธิ
(เวลาที่อ่านหนังสือแนวศาสนาเสร็จใหม่ๆและยังคึกอยู่ก็พย าย ามจะนั่ง)
แต่ก็ห่างหายไป ไม่สม่ำเสมอ ทำไม่ค่อยได้เพราะเป็นคนคิดฟุ้งตลอดเวลา
จนกระทั่งคนรู้ใจแนะนำว่าเราควรจะฟังธรรมะของอ.สุจินต์บ้าง
แล้วย้อนถามเราว่า เรานั่งสมาธิทำไม เราบอกนั่งเพราะจะได้ได้บุญ
จะได้ส่งบุญ นั่งเพื่อให้มีสมาธิเวลาทำงาน เค้าบอกว่าไม่ใช่แล้ว
ถ้านั่งเพื่ออย ากจะได้บุญ ไปฟังอ.สุจินต์ซะหลังจากเค้าให้ซีดีมาฟัง
เพิ่งจะอ๋อ…แท้ที่จริงแล้ว นั่งสมาธิแล้วได้บุญเพราะอย่ างนี้นี่เอง
ถ้าเราเข้าใจธรรมะก่อนแล้วจึงปฏิบัติ ก็คงจะดี
เราดันพย าย ามปฏิบัติก่อนที่ตัวเองจะเข้าใจการที่นั่งสมาธิแล้วได้บุญ เพราะเวลานั้นเราไม่มีความคิดอกุศลใดๆเกิดขึ้นเลย
ความคิดอกุศลคืออะไร
ความคิดอกุศลไม่ใช่ความคิดมุ่งร้ า ยกับคนอื่นเสมอไป ถึงเรียกว่าอกุศล
แต่จริงๆแล้วทุกๆความอย ากที่เกี่ยวข้องกับตนเอง คืออกุศล
บางทีเราก็เรียกอีกอย่ างว่ากิเลส เช่น ตื่นมาแล้ว
คิดในใจว่าเดี๋ยวจะอาบน้ำ
รีบไปทำงานดีกว่านั่นก็คืออกุศลแล้ว
เพราะคุณคิดถึงสิ่งที่คุณต้องการจะทำถ้าหากทุกๆสิ่งที่เราทำในชีวิตประจำวันคือความคิดอกุศล
แล้วความคิดแบบกุศลคืออะไร?
คิดแบบกุศลคือความคิดที่ไม่อย ากได้ใคร่มี ไม่มีกิเลสใดๆ
คิดแต่จะเป็นผู้ให้ คิดแต่จะทำเพื่อคนอื่น อย่
างพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทุกๆพระองค์
ที่คิดแต่จะเผยแผ่หนทางดับทุกข์ให้แก่ทุกคนดังนั้น การกระทำใดๆที่มีความอย
ากอยู่
ยังไม่ใช่กุศลก ร ร มแท้จริง แม้กระทั่งคิดว่า อย ากไปทำบุญจัง อย
ากไปนั่งสมาธิในวัดเงียบๆให้ใจสงบ อันนี้ก็ไม่ใช่กุศลแท้ๆ
ถามว่าทำแล้วได้บุญไหมถ้าทำไปเพื่ออย ากจะได้ผลบุญ
ตอบว่า ได้ แต่ว่าบุญถูกลดทอนไปมาก เพราะไม่ได้ให้จากใจที่เป็นกุศลจริงๆ
ดังนั้นที่เราเคยคิดว่าเราจะนั่งสมาธิเพราะทราบมาว่าทำแล้วได้บุญมากสุดจะได้ส่งบุญอโหสิก
ร ร มให้แก่ท่านทั้งหลายไม่ว่าเจ้าก ร ร มนายเ ว รหรือเทวดา
บุญที่พวกท่านเหล่านั้นได้รับจากเรา
คงจะถูกลดทอนไปมากเพราะความไม่รู้ของเรานี่เองหลังจากได้รู้แบบนี้แล้วเราจึงปรับมุมมองตัวเองใหม่ว่า
การนั่งสมาธิ คิอการทำจิตให้ว่างและไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆทั้งสิ้น
ไม่มีความอย าก ไม่มีกิเลส ไม่คาดหวังถึงผลบุญที่จะได้รับ
(จริงๆเราก็ยังเป็นบ้าง คือ ไม่คิดถึงผลบุญที่จะได้รับ แต่ก็คิดอย
ากให้บุญนี้ส่งถึงทุกๆท่านที่เรามีโอกาสจะให้ได้
แสดงว่าจิดเรายังไม่บริสุทธิ์ 100% แต่ก็ยังดีกว่าแต่ก่อน
เพราะอย่ างน้อยได้รู้ถึงวัตถุประสงค์แท้จริงและประโยชน์ของการทำสมาธิว่าทำเพื่อตัดกิเลสให้ได้แม้เพียงชั่วครู่)
ทุกวันนี้ยังไม่สามารถนั่งสมาธิเกิน 5-10นาทีได้
แล้วยังนั่งแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งอีก (แต่ยังกล้ามาเล่าเนอะ :D) แต่ก็จะพย
าย
ามต่อไปเพราะรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้รู้ถึงความหมายและประโยชน์แท้จริงของสมาธิ
เสริมอีกนิด คำว่าวิปัสสนาก ร ร
มฐานในความหมายของคนทั่วไปก็คือนั่งสมาธิ แต่ว่าจริงๆคำว่าก ร ร
มฐาน(เฉยๆ)เคยดูหลวงพ่อจรัญ ท่านว่าก ร ร มฐานคือการมีสมาธิกับงานที่ทำอยู่
มีสติทุกขณะจิต เพียงแค่นั้นก็เป็นบุญแล้ว
ไม่จำเป็นต้องไปหาที่สงบที่วัดเพื่อจะนั่งวิปัสสนาก ร ร
มฐานก็ได้หากว่าคุณคิดว่าคุณไม่มีเวลา เพราะก ร ร
มฐานทำได้ทุกวันในชีวิตประจำวัน