Home »
Uncategories »
กยศ. ช่วยเหลือผู้กู้ยืม ฝ่าวิกฤตโควิด-19 หักแค่เดือนละ 10 บาท พักหนี้ 2 ปี
กยศ. ช่วยเหลือผู้กู้ยืม ฝ่าวิกฤตโควิด-19 หักแค่เดือนละ 10 บาท พักหนี้ 2 ปี
ทางกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.
ได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืม เนื่องจากเล็งเห็นได้ว่า
วิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อคนทำงานหลายส่วน
จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ดังนี้
1. ลดเบี้ยปรับจาก 7.5% เหลือ 0.5%
ในกรณีที่ผู้กู้ยืมยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
กองทุนจะปรับลดเบี้ยปรับให้กับผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระเงินกู้ยืมเป็นการชั่วคราว
จากอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 0.5 ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่
1 เมษายน-31 ธันวาคม 2563
2.ลดจำนวนหักเงินเดือนเหลือ 10 บาท/คน/เดือน
กองทุนจะปรับลดจำนวนเงินที่แจ้งให้หักเงินเดือนเพื่อชำระเงินคืนกองทุนของผู้กู้ยืมทุกรายในกลุ่มหน่วยงานเอกชน
จากจำนวนเงินที่เคยแจ้งหัก เป็นแจ้งให้นายจ้างหักเงินของผู้กู้ยืมทุกรายๆ
ละ 10 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2563
3.ลดเบี้ยปรับ 80%
สำหรับผู้กู้ยืมทุกกลุ่มที่ค้างชำระหนี้ และปิดบัญชีในครั้งเดียว
กรณีผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี
ติดต่อชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
กรณีผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดี ลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ที่เว็บไซต์ กยศ.
โดยผู้กู้ยืมต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนชำระหนี้ปิดบัญชี
โดยขยายระยะเวลาเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นวันที่ 30
กันยายน 2563
4.ลดเบี้ยปรับ 75%
เฉพาะผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ
(ไม่ค้างชำระ)
โดยติดต่อชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
โดยให้ขยายระยะเวลาเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563
เป็นให้สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563
5.พักชำระหนี้ให้แก่ผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 ปี
ผู้กู้ยืมที่มีสถานะยังไม่ถูกดำเนินคดี จะได้รับการผ่อนผันการชำระหนี้ตามเงื่อนไข
-กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายปี ได้รับสิทธิผ่อนผันการชำระหนี้งวดปี 2563
เป็นเวลา 2 ปี นับแต่วันที่กองทุนอนุมัติ
โดยผู้กู้ยืมจะกลับมาชำระหนี้งวดปี 2563 ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2565
และงวดที่เหลือในปีถัดไป
-กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายเดือน ให้ผ่อนผันการชำระหนี้ 24 เดือน
นับตั้งแต่เดือนถัดไปที่กองทุนอนุมัติ โดยในระหว่างพักชำระหนี้ดังกล่าว
กองทุนจะไม่ถือว่าผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ กองทุนจะหยุดคิดดอกเบี้ย
เบี้ยปรับ
หรือค่าธรรมเนียมผิดนัดชำระหนี้ทั้งงวดที่ค้างชำระก่อนหน้าและงวดที่อยู่ระหว่างผ่อนผันการชำระหนี้
จนกว่าระยะเวลาพักชำระหนี้จะสิ้นสุด
โดยขยายเวลาให้ผู้กู้ยืมสามารถลงทะเบียนยื่นคำขอรับสิทธิได้ทางเว็บไซต์
กยศ. เดิมที่สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นให้สิ้นสุดวันที่ 31
พฤษภาคม 2563
6.ผ่อนผันการชำระหนี้
ในกรณีสถานการณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้และไม่เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
สามารถยื่นคำขอผ่อนผันและส่งเอกสารหลักฐานไม่น้อยกว่า 60 วัน
ก่อนครบกำหนดชำระหนี้ในวันที่ 5 กรกฎาคม
ซึ่งเป็นไปตามประกาศของกองทุนที่มีอยู่เดิมแล้ว ดังนี้
-กรณีผู้กู้ยืมที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 8,008 บาทต่อเดือน
สามารถขอผ่อนผันได้ไม่เกิน 2 คราวๆละไม่เกิน 1 ปี
นับจากวันที่ได้รับอนุมัติ ซึ่งในช่วงเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน
ผู้กู้ยืมไม่ต้องชำระหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย
รวมถึงยกเว้นเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ได้รับการผ่อนผัน
-กรณีผู้กู้ยืมที่มีรายได้ถดถอย
สามารถขอผ่อนผันให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ได้ตั้งแต่ 1.5 – 2.5
เท่าของระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามสัญญากู้ยืมเดิม
โดยขึ้นอยู่กับมูลหนี้คงเหลือ
ในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี
และผู้กู้ยืมจะต้องทำบันทึกข้อตกลงกับกองทุน
เพื่อนำยอดหนี้คงเหลือมาคำนวณใหม่และเฉลี่ยให้ชำระในแต่ละเดือนเท่าๆ
กันภายในระยะเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน
7.งดการขๅยทอดตลาด
สำหรับผู้กู้ยืม และ/หรือผู้ค้ำประกัน
ที่กองทุนได้ดำเนินการยึดทรัพย์ไว้ทุกราย
และขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขๅยทอดตลาด
กองทุนจะยื่นคำร้องของดการขๅยทอดตลาดทุกรายไปจนถึงสิ้นปี 2563
โดยจะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้กู้ยืม และ/หรือ
ผู้ค้ำประกันที่ถูกยึดทรัพย์ รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น
ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม ผู้รับจำนองที่ยึดไว้ (ถ้ามี)
8.ชะลอการบังคับคดี
สำหรับผู้กู้ยืม และ/หรือผู้ค้ำประกันทุกคดี
กองทุนจะชะลอการบังคับคดีไว้ ยกเว้นกรณีที่คดีใกล้ขาดอายุความ
กองทุนจำเป็นต้องดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายแต่จะงดการขๅยทอดตลาดไว้
แหล่งที่มา : zapver555.com