ตั้งใจบวชแทนคุณ ไม่มีงานบวชใหญ่โต มีแค่หมอนหนึ่งใบกับผ้าไตรหนึ่งผืน

การบวชโดยนัยแล้วคือ การละทิ้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่เดิม สู่ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ใหม่ ตามครรลองแห่งมรรค เพื่อเป็นการง่าย เพื่อเป็นการสะดวก เป็นทางอันปลอดโปร่ง แก่การบรรลุถึงซึ่งวัตถุประสงค์ คือ ความบริสุทธิ์หลุดพ้น ปราศจากมิลทิน หมดจดจากความเศร้าหมอง และเป็นอิสระจากพันธนาการเครื่องร้อยรัดทั้งปวง

ชาวเน็ตโพสต์ภาพประทับใจ! แชร์กันเป็นแสนครั้ง “นาค” ตั้งใจบวชทดแทนคุณ แม้ไม่มีขบวนแห่ใหญ่โต มีเพียงเค่หมอน 1 ใบ กับผ้าไตรหนึ่งผืน

บวชทดแทนคุณ – ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Max Naruebet ได้โพสต์ภาพน่าประทับใจจนชาวเน็ตร่วมแชร์กันไปถึง 1 แสนครั้ง โดยเป็นภาพของนาคกำลังเดินพนมมือ ด้านหน้ามีผู้หญิงเดินถือพานดอกไม้ และด้านหลังมีผู้ชายอุ้มบาตรพระและถือตาลปัตร เดินท่ามกลางทางที่มีแต่ดินโคลน ด้วยสีหน้ามุ่งมั่น จนชสวเน็ตต่างพากันชื่นชมในความพอเพียง เเบบที่เราเองพอมี โดยผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว ได้โพสต์ระบุเอาไว้ผ่านเฟสบุ๊กว่า

“ต้นทุนชีวิตเราไม่เท่ากัน อย่าอิจฉาคนอื่นที่มีชีวิตดีกว่า อย่าโทษพ่อแม่ที่หาสิ่งที่เราต้องการให้ไม่ได้ สิ่งที่พ่อแม่ต้องการคือลูกเป็นคนดี บวชทดแทนคุณพ่อแม่คือสิ่งที่ลูกผู้ชายทำได้”

ย้อนกลับไปในสมัย พุ ท ธ กาล ตอนพระ พุ ท ธ เจ้าเสด็จออกผนวชท่านก็ปลงผมตรงแม่น้ำและทำการบวชอย่างสงบ เรียบง่าย และหากพิจารณาตามความเชื่อในอดีตที่มีมานานแล้ว ก็ถือกันว่า ‘งานบวช’ ควรเป็นงานที่สงบ เพราะผู้บวชกำลังจะลด ละ และต้านกิเลส แต่ในปัจจุบันพอคนจะออกบวชกลับกลายเป็นว่า เมื่อรู้ว่าตนจะต้องไปอยู่วัดและต้อง รั ก ษ า ศีลเป็นเวลานาน ก็เลยทำการเลี้ยงฉลองกันใหญ่โตก่อนบวช ซึ่งผู้เขียนได้เกิดคำถามและข้อสงสัยที่ว่า สิ่งที่ทำอยู่เฉกเช่นนี้ กำลังจะบอกว่าคนสมัยนี้รับไม่ได้ถึงการที่จะเข้ารับการ รั ก ษ า ศีลหรือไม่?

พระพยอมได้เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเนชั่น ถึงเหตุการณที่เกิดขึ้นนี้ ไว้ว่า

“ถ้าเทียบประเทศไทยกับประเทศอื่น อย่างศรีลังกาเขาจะบวชสงบเงียบ เหมือนไปงานสีดำ เพราะเขาถือว่าผู้บวชคือออกจากเรือน จากตระกูล จะไม่หวนกลับมาอีก จึงเป็นเรื่องสงบที่สุด ส่วนเรื่องที่เป็นเนื้องอกที่พอกออกมา ใส่นู่นใส่นี่ การแห่อะไรต่างๆ เนี่ย แถมบางที่ยังมี ยิ ง ปื น มันเป็นเนื้องอกที่น่าสลดใจ ว่าเมืองไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ชาว พุ ท ธ มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงทำอะไรสวนทางกับคำสอนพระ พุ ท ธ เจ้าเหลือเกิน

พระ พุ ท ธ เจ้าบอกสะอาด สว่าง สงบ แต่นี่วุ่นวาย สกปรก รกหูรกตาชาวบ้าน ที่น่ารำคาญที่สุดก็คือ เจ้าระบบเครื่องขยายเสียงเนี่ย ลำพังแตรหรือว่ากลองยาวเสียงมันดังยังไม่เท่าไหร่ แต่มันใส่เครื่องขยายที่ดังเกิน 90 เดซิเบลไป ไม่รู้หูจะแตกหรือเปล่าเนี่ย ตัวนี้แหละ ที่เป็นตัวสร้างปัญหาใหญ่”

จากคำสอนของพระพยอมที่พูดถึงเหตุการณ์นี้ พยายามชี้ให้เห็นว่าสิ่งปรุงแต่งที่มีและเกิดขึ้นภายหลังมานี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีบัญญัติไว้ในหลักธรรมทาง ศ า ส น า พุทธ และการแห่กันภายนอกวัดก็ไม่ได้เกี่ยวกับพระหรือ ศ า ส น า แต่อย่างใด เป็นสิ่งที่ผู้คนอยากจัดเพิ่มขึ้นเอง พระไม่ได้มีการรู้เห็นเป็นใจด้วย

แม้ว่าจุดประสงค์ของงานทุกงานย่อมมีการเปลี่ยนไปหรือมีการเพิ่มเติมสิ่งต่างๆ ขึ้นตามกาลเวลา หากแต่ยังคงอยู่ในเจตนารมณ์เดิมและไม่ได้เอิกเกริกจนเกินงามถึงขั้นสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นหรือทำให้ต้องมีเรื่องบาดหมางกันคงจะเป็นเรื่องที่ดีที่เราอยู่ร่วมกันได้แบบสันติ

รูปภาพจาก : Max Naruebet

เรียบเรียงโดย ปริญญาชีวิต