เพาะเห็ดเผาะกินเอง เลียนแบบธรรมชาติ ออกดอกจนเก็บไม่ทัน เหลือกินเอาไว้ขายได้

ซึ่งในตอนนี้เป็นช่วงหน้าฝนแน่นอนว่าสำหรับใครหลายๆคนก็มักจะนึกถึงอาหารที่มีกันอยู่ในช่วงนี้เท่านั้นโดยในวันนี้เราจะพาทุกคนนั้น รู้จักกับเห็ดชนิดหนึ่งกันที่บอกเลยว่าและที่มีราคาแพงแต่ก็มีคนหลายคนยอมจ่ายเพื่อได้รับประทานการนั้นก็คือ … เห็ดเผาะ หรือ เห็ดถอบ นั้นเอง..

โดยในตอนนี้เห็ดเผาะนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ กำลังกลายเป็นที่ต้องการในตลาดเป็นอย่างมากซึ่งในบางครั้งก็แทบจะไม่พอต่อความต้องการของผู้บริโภคหรือบางครั้งในการซื้อขายก็ไม่เป็นอย่างดีและวันนี้เราก็จะเอาเทคนิคดีๆมาฝากกับคนที่ชื่นชอบเหตุผลมาฝากกันซึ่งแทบจะไม่ต้องหาซื้อที่ไหนเพราะมีวิธีที่สามารถปลูกเองได้แบบง่ายๆไม่ต้องเผาป่าเผาไร่ได้ไม่ต้องทำให้ฝนตกแต่อย่างใด จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเรามารู้จักกับ ดร.อานนท์ เอื้อตระกลู ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส ด้านการเพาะเห็ด องค์การสหประชาชาติ ประจำปี พ.ศ. 2524-2548 ที่จะมาเผยวิธีการเพาะปลูก

โดยทาง ดร.อานนท์ ได้มีการบอกว่า เห็ดเผาะ มีด้วยกัน 2 สายพันนั่นก็คือ “เห็ดเผาะหนัง” สีดำเนื้อกรอบ ๆ และ “เห็ดเผาะฝ้าย” เนื้ออ่อนนิ่ม ด้วยเหตุทั้งสองชนิดนี้จะเกิดในฤดูฝนไม่มีรากเป็นก้อนกลมๆมีเปลือกแข็งจะคอยอยู่ด้านในซึ่งถูกนิยมนำมารับประทานอาหารในช่วงที่ยังเป็นต่อเท่านั้นซึ่งมีรสชาติที่ดีและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกทั้งยังมีคุณสมบัติทางใหญ่ด้วยจึงทำให้กลายเป็นที่นิยมและมีความต้องการในแต่ละชนิดมีเพิ่มถึง 10,000 กรัม/คน/ปี เลยทีเดียว

“ผมว่าตอนนี้เรื่องเห็ดคนสนใจกันมาก ตอนที่ผมสอนใหม่ ๆ เมื่อปี 2516 ไทยยังสั่งเห็ดนำเข้า ยังไม่มีการเพาะเห็ดมาก คนไทยสมัยนั้นกินเห็ดแค่ 235 กรัม/คน/ปี แต่หลังจากที่รณรงค์และเผยแพร่เรื่องเห็ด จากนั้นมาเพียงแค่ 5 ปีให้หลัง ไทยสามารถเพาะเห็ดฟางได้มากถึง 60,000 ตันมากที่สุด”

ในปัจจุบันนั้นประเทศไทยก็สามารถเพาะเห็ดเพาะได้อย่างยั่งยืนโดยเพียงแค่เอาเชื้อเห็ดเผาะมาใส่ในรากของต้นตระกูลอย่างเช่น ต้นยางนา ต้นเหียง ต้นพลวง มะค่า เต็งรัง เพราะเหตุนี้เมื่อเข้าไปสู่รากไม้ก็จะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วเพราะมีเส้นใยสำหรับเห็ดเผาะไว้ไปเกาะอยู่ที่ปลายรากและสามารถย่อยอาหารจำพวก กฟอสฟอรัสให้รากพืชแข็งแรง และป้องกันโรคอย่างอื่นมาทำลายรากของต้นไม้นั้น ได้อีกด้วย ….

เพราะตามต้นไม้ที่เราเห็นจะอยู่ในทุกวันนี้นอกจากจะเจริญเติบโตด้วยการสังเคราะห์แสงที่มีมากถึงประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์แล้วแต่ก็ยังมีรากกลุ่มนึงที่ชื่อว่า “ไมคอร์ไรซา” รากลุ่มนี้จะอาศัยอยู่ตามพื้นดินเพื่ออาหารที่อยู่ตามร่างพื้นดินของต้นไม้ซึ่งเจ้าตัวนี้แหละถึงเป็นเชื้ออย่างดีสำหรับเห็ดเผาะ นั้นเองขณะเดียวกันเห็ดก็อาศัยพลังงานและเอ็นไซม์ที่มีประโยชน์จากพืช ซึ่งจะอยู่ร่วมอาศัยซึ่งกันและกันเช่นนี้ ไปจนหมดอายุขัยของต้นไม้ เช่น ไม้ยางนาที่เป็นไม้เนื้อหอม สามารถมีอายุได้นานกว่า 700 ปี

และยังมีความเชื่อผิดๆชาวบ้านมาช่วยกันได้ก็คือยิ่งเผาพื้นที่มากเท่าไหร่ก็จะสามารถยิ่งเก็บเห็ดได้ง่ายและมีผลผลิตมากขึ้นซึ่งบอกได้เลยว่าความคิดนี้ผิดอย่างละตัวเองเพราะในปีถัดไปกลับกลายเป็นว่าที่จะได้มากขึ้นเหตุเกิดในโรงเพาะต้นไม้ได้รับบาดเจ็บซึ่งอาหารต้นไม้ที่เป็นตัวสั่งอาหารให้กับเห็ดตายไปก็จะไม่มีเหตุผลก่อนขึ้นอีกเลยนั่นเอง

สำหรับการเพาะเห็ดเพาะนั้นก็สามารถทำได้ดังนี้

วิธีที่ 1

ขั้นตอนที่ 1 เอาเห็ดเผาที่แก่ มาแกะะเอาสปอร์ข้างใน ออกมา

ขั้นตอนที่ 2 นำไปผสมน้ำให้เข้ากัน จะได้น้ำสีดำๆ

ขั้นตอนที่ 3 นำน้ำราดไปที่โคลนต้นไม้ ในปีถัดไปก็จะมีเห็ดเผาะเกิดตามรากไม้ต้น เมื่อต้นไม้โตพอประมาณสัก 2 ปี ให้เริ่มเก็บได้ และจะเกิดที่ต้นไม้ต้นนี้ทุก ๆ ปี

วิธีที่ 2

ขั้นตอนที่ 1 เอาเห็ดเผาที่แก่ มาแกะะเอาสปอร์ข้างใน ออกมา

ขั้นตอนที่ 2 ไปรดกล้าต้นไม้ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละครั้ง

ขั้นตอนที่ 3 ต้นกล้าถ้าเริ่มมีเนื้อเยื่อ เห็ดเผาะเจริญเติบโตแล้ว ให้นำไปปลูกได้ หรือให้นำต้นกล้าไปปลูกทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ยางนาสักระยะ ก็จะได้ต้นกล้าที่ติดเชื้อ “เห็ดเผาะ” ไปด้วย แต่เมื่อในปีถัดไปมี เห็ดเผาะ”เกิดขึ้น อย่าพึ่งเก็บเพราะต้นไม้ยังไม่แข็งแรงพอ

จึงเรียกได้ว่าวิธีนี้ถ้าหากเรานำเห็ดเผาะไปราดบนต้นยางนาแล้วเพียงแค่ 2-3 ปีก็จะสามารถมีเหตุเพราะขึ้นมาไว้รับประทานได้และสามารถเก็บกินได้อีก 100 ปีเลยก็ว่าได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่เชื้อเห็ดใหม่เลยและผลผลิตก็จะสูงขึ้นอย่างเรื่อยๆทุกปีซึ่งนี่ก็คือเป็นอีกหนึ่งวิธีทางที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการปลูกเพื่อสร้างอาชีพในระยะยาวนั้นเอง