คนผ่อนบ้านอยู่ดูไว้นะ รีไฟแนนซ์บ้าน ผ่อนระยะสั้น 3 ปี จะต้องไปธนาคารไหนดี

คนผ่อนบ้านอยู่ดูไว้นะ รีไฟแนนซ์บ้าน ผ่อนระยะสั้น 3 ปี จะต้องไปธนาคารไหนดี

บ้านนั้นเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ดีมาก นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ส่วนมากก็จะนิยมซื้อบ้านกัน เพื่อปล่อยเช่า หรือจะอยู่เองก็คุ้ม ไม่จะเป็นจะต้องเป็นนักลงทุนก็ซื้อบ้านได้ ซื้อเพื่อการอยู่อาศัย มันน่าภูมิใจมากเลยนะสำหรับการได้บ้านเป็นของตนเอง แต่การได้มานั้นมันน่าดีใจก็จริงแต่ว่าการจะผ่อนหมดนั้นมันไม่ง่ายเลย ดอกเบี้ยก็สูงไม่น้อยเลย แล้วมันก็ดอกเบี้ยสูงขึ้นทุกปีอีกด้วยนะ รีไฟแนนซ์บ้าน จึงเป็นทางออกที่ดี แล้วจะรีกับที่ธนาคารไหน มีสมาชิกพันทิปหมายเลข 4875211 ได้นำมาแนะนำ ลงมาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

รีไฟแนนซ์บ้าน

วันนี้จะมาเปรียบเทียบสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านระหว่าง 5 ธนาคาร ได้แก่

– ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

– ธนาคารอาคารสงเคราะห์

– ธนาคารกสิกร ไ ท ย

– ธนาคารก รุ ง ศ รี

– ธนาคารยูโอบี

จากที่ดูคร่าว ๆ แล้วคิดว่าการรีไฟแนนซ์นั้นถ้าเรารีไฟแนนซ์ในแล้วผ่อนในช่วง 1 – 3 ปี อัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารจะไม่สูงมากนัก จึงขอนำดอกเบี้ยและเงื่อนไขของแต่ละธนาคารมาเปรียบเทียบให้เห็นว่าช่วงนี้รีไฟแนนซ์ไปผ่อนไม่เกิน 3 ปีกับธนาคารไหนดี

สินเชื่อของ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

มีชื่อสินเชื่อชื่อว่า สินเชื่อรีไฟแนนซ์ “ทราบแล้วเปลี่ยน” มีอัตราดอกเบี้ย MRR = 7.75% (ณ วันที่ 25 พ.ค. 60) มีให้เลือกสองแบบคือ

1.1.อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 = 3.15% / ปีที่ 2 – 3 MRR-4.60% (เฉลี่ย 3 ปี 3.15%) / ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-2.25% (อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 4.12%)

1.2. อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ปีที่ 1 – 3 MRR-4.75% (เฉลี่ย 3 ปี 3.00%) ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-2.25% (อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 4.03%)

มีเงื่อนไขคือวงเงินกู้ Refinance ไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านบาท และ ราคาประเมิน ของหลักประกันต้องมีราคาไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท (โครงการจัดสรรทุกโครงการ)

*สิทธิพิเศษ ยกเว้นค่าประเมินหลักประกัน (โครงการจัดสรรทุกโครงการ)

ธอส.

มีสินเชื่อที่ชื่อว่า สินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance) ปี 2562 มีอัตราดอกเบี้ย MRR = 6.75% ต่อปี (ประกาศ ณ วันที่ 22 พ.ค. 2560) ปีที่ 1-3 = MRR-3.60% (3.15%) ต่อปี ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา รายย่อย = MRR-0.50% *สิทธิพิเศษ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ / ยกเว้นค่าประเมินราคาหลักประกัน / ยกเว้นค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม

ธนาคารกสิกร

มีชื่อสินเชื่อชื่อว่า ​​​​​​​​​​​​​“สุขยกบ้าน” รีไฟแนนซ์บ้าน ​กับสินเชื่อบ้านกสิกรไทย อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.12% (ประกาศ ณ วันที่ 16 พ.ค. 2560) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 = MRR-3.22% (ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.90%) หลังจากนั้นจนตลอดอายุสัญญา MRR-1.50% (อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.97%) *สิทธิพิเศษ ฟรีค่าจดจำนองสูงสุด 200,000 บาท

ธนาคารยูโอบี

สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ยูโอบี โฮมโลน อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.75% (ประกาศ ณ วัน ที่ 1 พฤษภาคม 2562)ปีที่ 1 – 2 MRR-2.23% / ปีที่ 3 MRR-1.75% (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี) อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 5.86% ต่อปี
*พิเศษ ยกเว้นค่าจดจำนอง ไม่เกิน 100,000 บาท *เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร

หากเราดูที่อัตราดอกเบี้ยจจะเห็นได้ว่าอัตราดอกเบี้ยในช่วงปีที่ 1 – 3 ของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แบบที่ 2 ถูกสุดอยู่ที่ 3.00% และอัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาก็ถูกที่สุดอยู่เช่นกัน อยู่ที่ 4.03% แต่หากเราพิจารณาเงื่อนไขพิเศษต่างๆ ที่ทางธนาคารมีให้แล้ว จะเห็นได้ว่าทาง ธอส. นั้นให้สิทธิพิเศษมากกว่าเจ้าอื่นๆ ซึ่งมีดอกเบี้ยแตกต่างกับธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ 0.15% เท่านั้นเอง

รีไฟแนนซ์บ้าน

พอรีไฟแนนซ์จริงๆ แล้ว เมื่อบวกค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ค่าประเมินหลักประกัน ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าจดจำนอง ฯลฯ ก็อาจทำให้งบบานปลายได้ นอกจากนี้ด้วยเงื่อนไขของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ที่ว่าจะต้องมีวงเงินกู้ไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านบาท และราคาประเมินของหลักประกันต้องมีราคาไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งก็สูงพอสมควร จึงอาจไม่มีความยืดหยุ่นพอสำหรับผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์แล้ววงเงินที่ต้องผ่อนนั้นเหลือไม่เยอะ ในที่นี้ ธอส. จึงเป็นธนาคารที่ได้เปรียบสุดในการรีไฟแนนซ์ หากคิดจะผ่อนชำระ ระยะสั้น แบบไม่เกิน 3 ปี

เรื่องราวความรู้ดีๆ แบบนี้ต้องขอบคุณสมาชิกพันทิปหมายเลข 4875211 ที่ได้นำข้อมูลมาแบ่งปันประสบการณ์และแม้ยังไม่ได้ซื้อบ้าน แต่มีแผนที่จะซื้อก็ควรจะหาความรู้เอาไว้ พอถึงเวลาขึ้นมาจริง ๆ จะได้ผ่อนบ้านหมดตามสัญญาเช่า แถมยังเป็นการช่วยลดดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้อย่างดี และการรีไฟแนนซ์ยังใช้ในเรื่องอื่นได้ด้วยนะ เช่น การผ่อนรถ ก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามสำหรับท่านที่มีแผนจะผ่อนบ้านอย่าลืมวางแผนการเงินให้ดี และมองให้ไกลว่าจะผ่อนไปกี่ปี การเงินพร้อมหรือไม่ เพราะหากไม่แน่ใจอาจจะลำบากมากก็ได้นะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://pantip.com/topic/38871295