โค้ชเอก เล่าเหตุการณ์ติดถ้ำ 2 วันแรก ชี้ เจ้าตัวไม่ได้น้อยใจอะไร (คลิป)



พระเอกพล ชุตินธโร รองเจ้าอาวาสวัดเสาหิน จ.ลำพูน ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงของนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอกสมัยบวชเรียนที่วัดเสาหิน ได้เข้าเยี่ยมอาการสมาชิกทีมหมู่ป่า อคาเดมี่ ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา เปิดเผยถึงอาการล่าสุดว่าทั้งโค้ชเอก และเด็กๆนักเตะทีมหมูป่า 12 คนอาการดีขึ้นมาก จนเกือบเป็นปกติแล้ว



และได้มีโอกาสสอบถามถึงสารทุกข์สุขดิบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตอนอยู่ในถ้ำเป็นอย่างไร ซึ่งโค้ชเอกบอกว่าไม่ได้ซื้อขนมอะไรเข้าไปมาก วันที่ 23 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่เข้าไปติดในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ตั้งใจเข้าไปเที่ยวในถ้ำเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

แต่ปรากฎว่าเข้าไปแล้วเกิดน้ำไหลหลาก ระดับน้ำในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โค้ชเอกจึงบอกให้เด็กๆ วางรองเท้าทิ้งกระเป๋าไม่เอาอะไรติดตัวไปยกเว้นไฟฉายคนละ 1 กระบอก แล้วพากันวิ่งหนีน้ำกระทั่งมาถึงเนินนมสาว แล้วขุดดินบนเนินให้เด็กนั่งอยู่ รอจนกระทั่งหน่วยนักดำน้ำและหน่วยซีลเข้าไปเจอ

ระหว่างติดอยู่ถ้ำโค้ชเอกบอกให้เด็กๆ เอาไฟฉายออกมาใช้ทีละกระบอก ส่วนขนมนำติดตัวไปให้แบ่งกันกินคนละน้อย หลังจากที่กินขนมจนหมด ไม่มีอะไรกินแล้ว ก็ให้กินแต่น้ำที่หยดตามหินงอกหินย้อนที่ไหลลงมาตามผนังถ้ำ โค้ชเอกมีความพยายามหาทางออกมาจากถ้ำแต่ออกมาไม่ได้ โค้ชเอกจึงบอกให้เด็กๆมีสติอยู่ตลอดเวลา ระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย สวดมนต์ขอให้สิ่งศักดิ์ช่วยเหลือ แล้วก็พาให้เด็กๆ นั่งสมาธิ ห้ามขยับร่างกายเพื่อประหยัดพลังงาน ให้เด็กสวดมนต์และนั่งสมาธิอยู่ในถ้ำ จนกว่าจะมีคนมาพบ



โค้ชเอกเล่าให้พระเอกพลฟังว่า วันสองวันแรกที่ติดอยู่ในถ้ำเด็กๆ รู้สึกกลัวมากแต่พอได้ฝึกสมาธิก็มีสติ สัมปชัญญะ รู้ตัวมากขึ้น ทั้งนี้โค้ชเอกยืนยันว่าไม่ได้พากันเข้าไปฉลองวันเกิดในถ้ำตามที่เป็นข่าว แต่เข้าไปเที่ยวเฉยๆ และเคยเข้าไปถึงเนินนมสาวมาหลายครั้งแล้ว แต่ตอนนั้นไม่น้ำมี

พระเอกพลที่ได้เข้าไปเยี่ยมโค้ชเอกบอกว่า โค้ชเอกไม่ได้น้อยใจอะไร และอาตมาก็ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านี้เนื่องจากต้องคำนึกถึงสภาพจิตใจของโค้ชเอก ตอนนี้โค้ชเอกยังไม่รู้ว่ามีใครมาช่วยเหลือบ้าง แต่ก็ได้ให้กำลังใจไปแล้วบอกกับโค้ชเอกว่าไม่ต้องคิดมาก มันเป็นอุบัติภัยที่เราต้องยอมรับความเป็นจริง โค้ชว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว จากนั้นโค้ชเอกก็เขียนจดหมายถึงคณะศรัทธาของวัดเสาหิน ที่ตนเคยบวช บอกว่าไม่ห่วง หลังออกจากโรงพยาบาลจะกลับมาเยี่ยมที่วันเสาหินด้วย

ขณะที่ยายของน้องไตตั้น 1 ในทีมหมูป่าที่ติดในถ้ำหลวงซึ่งมีอายุน้อยที่สุดเล่าว่า ตอนที่น้องไตตั้นติดถ้ำนั้น ต้องการไปเที่ยวเล่นแค่แป๊ปเดียวเท่านั้น แต่เมื่อกำลังออกมาเกิดฝนตกและจู่ๆ น้ำก็ทะลักเข้าถ้ำอย่างรวดเร็ว โดยน้ำที่ทะลักมานั้นมีโคลนผสมอยู่จำนวนมาก น้องไตตั้นตัวเล็กสุด โค้ชเอกจึงอุ้มน้องไตตั้นมาขี่คอ เพื่อเดินในน้ำหาช่องทางหนี



"ช่วงแรกของการติดถ้ำน้องไตตั้นร้องไห้ตลอด เพราะแสบท้อง หิวข้าวมาก โค้ชเอกจึงให้น้องไตตั้นกินหยดน้ำฝนที่ไหลมาตามซอกหินไปก่อน โดยโค้ชเอกจะคอยปลอบใจตลอด เพราะน้องไตตั้นกลัว และขวัญเสียมาก สภาพอากาศด้านในถ้ำหนาวเย็น เพราะมีน้ำตลอดเวลา โค้ชเอกจึงคอยกอดน้องไตตั้นเอาไว้ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น

ตอนที่เจ้าหน้าที่พาน้องไตตั้นออกมานั้น หมอได้ฉีดยาที่เข่าของน้อง และน้องก็ไม่รู้สึกตัวอะไร โดยตอนถึงที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ น้องไตตั้นมีเลือดกำเดาไหลเล็กน้อย เพราะร่างกายปรับสภาพไม่ทัน ซึ่งขณะนี้น้องไตตั้นก็อาการปลอดภัย เมื่อหลานกลับมาจะได้กินอิ่ม และจะผูกข้อไม้ข้อมือ เรียกขวัญหลาน ขอบคุณทุกคนที่ช่วยหลาน ขอบคุณโค้ชเอก ที่ดูแลหลานอย่างดี โค้ชเอกเก่งมาก" ยายน้องไตตั้น กล่าว





ชมคลิปวิดิโอ