หลังจากที่เมื่อวานเป็นวันแรกที่เปิดให้พ่อแม่น้องๆเข้าเยี่ยมได้ที่รพ.
(แต่ต้องใส่ชุดกันเชื้อโรค ยืนคุยอยู่ปลายเตียง)
ชาวเราก็ได้ปูเสื่อกินเผือกกันต่อ ในสิ่งที่เป็นปริศนาคาใจมานาน
ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นก่อนเข้าถ้ำ เข้าไปแล้วเป็นไง อยู่ยังไง
นักข่าวไปถามพ่อน้องบิว น้องไตตั้น กับน้องดอม เอาล่ะ น้องบอกว่าวันนั้นซ้อมบอลเสร็จก็จะพากันเข้าไปในถ้ำไม่นาน กะว่าซัก 1 ชม.ก็กลับ มีแค่บางคนที่มีขนมติดตัวไปนิดหน่อย “ไม่ได้ซื้อขนมของกินอะไรเข้าไปเลย”
เออ สรุปว่าไม่มีหนม อันนี้เซอร์ไพรส์กันหมด โดนหลอกกันทั้งโลกอ่ะ เพราะนักข่าวจากไหนไม่รู้ไปถามแม่ค้าที่ไหนไม่รู้ว่าน้องๆซื้อหนมเข้าไปเยอะแยะเพื่อไปฉลองวันเกิดดอม? แถมยังระบุขนมและน้ำได้ทุกยี่ห้อทุกรสชาติอีกนะ สื่อทั่วโลกก็รายงานตามนี้กันหมด เออเอาเข้าไป สรุปโอละพ่อโอละแม่กันหมด แต่ไม่เป็นไรคนไทยเราชินกันแล้วล่ะ #ยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน ต่อๆ แล้วทีนี้ก็เข้าไปซักพัก น้ำก็ไหลเข้ามา เค้าใช้คำว่าไหลเข้ามาเยอะมาก ทุกคนตกใจมาก โค้ชเอกบอกให้เด็กรีบหนีเข้าไปที่สูง แล้วโค้ชเอกก็ดำน้ำเอาไฟฉายส่องดูก็บอกว่ากลับออกไปไม่ได้อันตราย (น้ำมาเร็วมากจนต้องทิ้งรองเท้ากับกระเป๋าไว้ด้านหน้า) ก็เลยพาเด็กหนีน้ำขึ้นที่สูง ลึกเข้าไปในถ้ำเรื่อยๆ มีบางจุดที่ดินมาอุดทางก็ช่วยกันเอามือขุดให้ผ่านไปได้ (ตรงกับที่หน่วย SEAL เจอรอยมือวันแรกๆ เลยสืบได้ว่าน่าจะหนีน้ำเข้าไปด้านใน ซึ่งถูกต้อง)
แล้วก็เลยหนีน้ำไปเรื่อยจนถึงเนินนมสาวนั่น เพื่อรอน้ำลดจะได้ออกมา โค้ชเอกบอกให้นั่งอยู่ด้วยกัน ใครหิวโค้ชเอกจะให้เปิดไฟฉายทีละกระบอกส่องหาน้ำที่หยดจากเพดานถ้ำ แต่นานๆเข้าเริ่มไม่พอก็ให้เด็กกินน้ำที่ไหลเข้ามาจนสะอาดแล้วบ้าง หรือบางครั้งก็กินน้ำขุ่นๆนั่นแหละเพื่อให้อยู่รอด โค้ชเอกสอนให้นั่งนิ่งๆ ทำสมาธิ วันที่สอง-สามหิวจนแสบท้อง ร้องไห้ (อันนี้เครดิตตกไปอยู่ร่างทรงที่มาร้องไห้หน้าถ้ำให้พ่อแม่ดูอยู่นะ เพราะนางบอกเด็กร้องไห้ หิว หนาว ทรมานทรกรรม เออมันก็พูดถูก เอ๊ะแต่เราควรให้เครดิตร่างทรงด้วยเหรอฟะ อ่ะข้ามไป) น้องไตตั้นบอกว่าน้องหนาว โค้ชเอกก็กอดน้องเอาไว้ (โอ๊ยย มีความพี่ชายย~ชั้นหนาว) แล้วสอนให้นั่งสมาธิเพื่อไม่ให้หายใจเร็วและเปลืองพลังงาน น้องบางคนมีเพ้อ เครียด ในความมืด เบียดเสียด
แล้วก็น้องๆบอกว่าตรงเนินนั่น เค้าช่วยกันตะกุยดินเพื่อให้ดินมันราบๆ จะได้นั่งนอนอยู่กันได้ น้องบอกว่าจริงๆแล้วนั่งกันอยู่สูงกว่าที่เห็นกันในคลิป แต่พอเห็นนักดำน้ำโผล่เข้ามา ก็ดีใจรีบวิ่งลงมาเรียกให้ช่วย มีคนตกน้ำไป 2 คน (ในคลิปจะได้ยินมีน้องร้องไห้ และเสียงโค้ชเอกปลอบเบาๆ “ไม่ต้องร้องๆ..” [เด็กๆคงดีใจมากจริงๆ] (อันนี้ตรงกับที่ผบ.หน่วย SEAL พูดว่าเด็กๆเห็นนักดำน้ำแล้วรีบวิ่งลงมาเรียก) จบ เพราะจำได้แค่นี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อแม่เค้าก็ไปเยี่ยมใหม่ ตอนนี้น้องหลายคนอาการดีแล้ว มีแค่บางคนที่ปอดบวม และบางคนติดเชื้อในหูชั้นกลาง ทุกคนยังต้องกินอาหารอ่อนๆๆจืดๆๆอยู่ จะกินข้าวกะเพรา หมูกะทะ ไก่ทอดตามที่พวกนางอ้อนขอยังบ่ได้เด้อ มีนางคนนึงขอขนมปังทาช็อคโกแลต อันนี้หมอให้กินได้ ตอนกัดหนมปังคงมองเพื่อนแบบ ห้าๆๆตรูชนะ เพื่อนๆในทีมดูสกิลการขออาหารของเพื่อนไว้แล้วคิดเมนูใหม่ซะนะ 5555
– ส่วนผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ หลังจบภารกิจถ้ำหลวง ผู้ว่าจะไปอยู่พะเยาแล้ว ชาวพะเยารอเปิดแชมเปญต้อนรับกันทั้งจังหวัดแล้วจ้าาาา มีสื่อไปสัมภาษณ์ท่าน ถามว่าอยากทำอะไรหลังจากนี้ ท่านบอกอยากนั่งชิวๆ แล้วเขียนเรื่องราวนี้ออกมา ท่านอายุไม่น้อยแล้วแต่ยัง dude มากอยู่เลยนะ เล่นโซเชี่ยล เรารู้อะไรกันท่านก็รู้หมดอ่ะ ท่านบอกเห็นเค้าทำ quote คำพูดของแต่ละคนออกมาเต็มเลย ตัวท่านตอนพูดหน้างานไม่ได้คิดอะไร แต่พอจบแล้วมาเห็นพวกนี้ก็รู้สึกอยากเขียนอะไรออกมาเองด้วยเพื่อถอดบทเรียน เพื่อสอนเด็กๆ และเรื่องดราม่าอะไรๆก็รู้หมด ท่านบอกตอนอยู่ที่นั่นของกินอร่อยสุดคือก๋วยเตี๋ยวกับข้าวไข่เจียว จบงานแล้วอยากไปหาราเม็งร้านดีๆกิน ท่านเป็นแฟนอะกาธาคริสตี้ เชอล็อคโฮล์มส์ และโคนันด้วยนะ
– ที่น่าสงสารสุดน่าจะเป็นแก๊งพี่เลี้ยงเด็กทั้ง 4 นำโดยหมอภาคย์ และทีม SEAL อีก 3 คน คือหลังออกจากถ้ำตอนนี้ต้องโดนกักเชื้อโรคอยู่ในห้องปลอดเชื้อในรพ.อยู่ 5 วัน แล้วสภาพนี่คือทหารหน่วยซีลเพิ่งจะทำภารกิจสำเร็จกลับมาฮึกเหิมเต็มที่หัวใจพองโต แล้วก็แว๊บ ภาพตัดมาในห้องปลอดเชื้อที่เงียบสงบสีขาวใส่ชุดโรงบาลรองเท้าสลิปเปอร์ ไม่ได้ป่วย ไม่เจ็บไม่เป็นอะไรเลยยยย แต่ต้องอยู่รพ. เห็นในคลิปนี่อยู่ไม่ติดเตียงกันเลย555 เดินไปเดินมา เช็คมือถือๆๆ เดินไปเตียงเพื่อนๆๆ ¥€€*฿&@+^%>>*¥ อยู่แบบนี้ไปอีก 5 วันนะพี่นะ ขอบคุณจริงๆ555555 วงวารรร
– ทีมสูบน้ำท่อพญานาคขับมาเองขับกลับเองนักเลงพอ เมื่อวานขับกลับไปถึงอุตรดิตถ์ก็แวะพัก แต่คือรถมันโดดเด่นมาก บวกกับมีแฟนคลับติดตามในโซเชี่ยล เทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์เลยขอจัดเลี้ยงอาหารให้ทีมท่อพญานาค และก็มอบเหรียญพระให้เป็นศิริมงคล ก่อนจะค้าง 1 คืนแล้วกลับนครปฐมต่อไป
(ทีมท่อพญานาคนี่ ผู้ว่าเคยบอกว่าเค้ามาเอง มาถึงแล้วยังไม่มีงานให้ทำ ก็เลยรออยู่ที่นั่น รออยู่หลายวัน จนในที่สุดภารกิจสูบน้ำเริ่มเวิร์คและลงตัวขึ้น ต้องการกำลังพลเลยได้เรียกท่อพญานาคเข้าไปช่วย คราวนี้จัดเต็มเลยจ้าา ผู้ว่าบอกว่าขอบคุณเค้าที่ยังรออยู่ และชาวเราก็ได้เห็นบร๊ะลานุภาพของท่านท่อพญานาคกันนั่นแหละ นักข่าวต่างประเทศถึงกับอุทานว่า “that’s f**kin awesome!!”)
– นักข่าวต่างประเทศรายงานว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์ภัยพิบัติที่ไหนในโลก ที่จบ happy ending แบบนี้ มันเป็นเรื่องราวที่สุดยอดมาก และไม่เคยต้องมารายงานข่าวเหตุการณ์ภัยพิบัติที่ไหนแล้วมีข้าวกินฟรีทุกมื้อ มีชาวบ้านมาคอยขอบคุณ ดูแล เทคแคร์ เล่นด้วย แบบนี้มาก่อน เค้าบอกว่าการทำข่าวบางทีต้องย่ำเข้าไปในไร่สับปะรดของชาวบ้าน (แต่ขออนุญาตแล้ว) (ไร่สับปะรดเป็นอะไรที่พวกฝรั่งตื่นเต้นมากกกก รักมาก เหมือนแบบรูปร่างมันคงน่ารัก บ้านเค้าไม่มีมั๊ง เห็นกรี๊ดสับปะรดกันทุกคน) แต่ชาวบ้านก็บอกเอาเลย ย่ำเข้าไปได้เลย ไม่เป็นไร พวกนักข่าวบอกว่าคนไทยดีมากๆ เมืองไทยก็สวยงามมากๆ (แน่ล่ะสิก็เล่นไปทำข่าวบนยอดดอยเบอร์นั้น)
– เห็นอดุลย์กับโค้ชเอกในคลิปที่รพ.แล้วแบบ..ดีใจอ่ะ
อดุลย์คือเด็กที่โตที่สุด เป็นพี่คอยช่วยโค้ชเอกดูแลน้องๆ
และเป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษกับฝรั่งในคลิป
ที่รพ.เตียงอดุลย์ก็อยู่ติดกับเตียงโค้ชเอก
โค้ชเอกอาจจะเป็นผู้นำแต่ความเป็นผู้ใหญ่ของเค้ามันก็คงทำให้รู้สึกผิดตามมาด้วย
แต่อดุลย์เป็นผู้นำและยังมีความเป็นเด็ก
ความเด็กของเค้าคงจะช่วยให้ไม่คิดโทษตัวเองมากนัก
เห็นจากที่น้องคุยกับฝรั่งครั้งแรกที่เจอ บอกหิวข้าว
พยายามสื่อสารให้ทุกคนรอด แต่โค้ชเอกนั่งเงียบๆ
ในรพ.โค้ชเอกก็ไม่สนกล้องในขณะที่เด็กๆชูมือโบกมือทักทาย
อดุลย์เป็นมือขวาของโค้ชเอกเสมอมา
และการที่เค้ายังคงอยู่เตียงข้างโค้ชเอกในรพ.
หวังว่าอดุลย์จะช่วยให้โค้ชเอกคลายความเครียดและก้าวผ่านความรู้สึกผิดโทษตัวเองไปได้ด้วยกันในที่สุด
ปล. นายกลุงตู่แวะขอบคุณนักดำน้ำบอก “please come again. Don’t forget Thailand is your 2nd home.” แล้วไปแซวล่ามเค้าอีกบอกแต่งงานเร็วๆนะจะไปเป็นประธานให้
ปล.2 เรื่องเกษตรกร ตอนแรกหลายๆข่าวบอกผิดด้วยล่ะ เหมือนจริงๆแล้วคือมีเกษตรกรที่เดือดร้อนอยู่ 126 ราย แต่มี 19 รายที่ไม่ขอรับเงินช่วยเหลือ เพราะอยากมีส่วนร่วมช่วยเหลือเด็กในครั้งนี้ (แต่นอกจากเงินก็มีเมล็ดพันธุ์, ปุ๋ย บลาๆๆๆให้ไปด้วยนะ ให้เยอะแค่ไหน ก็เห็นว่าเบิกมา 14 ตันแค่นั้นแหละ ละก็มีซ่อมอุปกรณ์ให้ฟรี อบรมให้ฟรี อะไรอีกหลายอย่าง)
ปล.3 ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า แกเห็นในเน็ต
ที่เป็น quote คำพูดของนักดำน้ำอังกฤษที่พูดว่า
“ผมดำน้ำมาทั้งชีวิตด้วยความหลงใหลแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไรจนสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมก็ได้คำตอบของสิ่งที่ทำมาทั้งชีวิต”
แล้วแกเลยนึกว่า มีเสียงบอกแกอยู่นะว่าแกบริหารคน
บริหารงานได้ดีมากเลย บางคนถึงกับถอดบทเรียนการทำงานของท่านในภารกิจนี้
ออกมาทำเป็น infographics ในแง่การเป็นผู้บริหาร แกก็เลยนึกว่า
ขอบพระคุณแหล่งที่มา : WaenPloy Chitt-amphai
นักข่าวไปถามพ่อน้องบิว น้องไตตั้น กับน้องดอม เอาล่ะ น้องบอกว่าวันนั้นซ้อมบอลเสร็จก็จะพากันเข้าไปในถ้ำไม่นาน กะว่าซัก 1 ชม.ก็กลับ มีแค่บางคนที่มีขนมติดตัวไปนิดหน่อย “ไม่ได้ซื้อขนมของกินอะไรเข้าไปเลย”
เออ สรุปว่าไม่มีหนม อันนี้เซอร์ไพรส์กันหมด โดนหลอกกันทั้งโลกอ่ะ เพราะนักข่าวจากไหนไม่รู้ไปถามแม่ค้าที่ไหนไม่รู้ว่าน้องๆซื้อหนมเข้าไปเยอะแยะเพื่อไปฉลองวันเกิดดอม? แถมยังระบุขนมและน้ำได้ทุกยี่ห้อทุกรสชาติอีกนะ สื่อทั่วโลกก็รายงานตามนี้กันหมด เออเอาเข้าไป สรุปโอละพ่อโอละแม่กันหมด แต่ไม่เป็นไรคนไทยเราชินกันแล้วล่ะ #ยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน ต่อๆ แล้วทีนี้ก็เข้าไปซักพัก น้ำก็ไหลเข้ามา เค้าใช้คำว่าไหลเข้ามาเยอะมาก ทุกคนตกใจมาก โค้ชเอกบอกให้เด็กรีบหนีเข้าไปที่สูง แล้วโค้ชเอกก็ดำน้ำเอาไฟฉายส่องดูก็บอกว่ากลับออกไปไม่ได้อันตราย (น้ำมาเร็วมากจนต้องทิ้งรองเท้ากับกระเป๋าไว้ด้านหน้า) ก็เลยพาเด็กหนีน้ำขึ้นที่สูง ลึกเข้าไปในถ้ำเรื่อยๆ มีบางจุดที่ดินมาอุดทางก็ช่วยกันเอามือขุดให้ผ่านไปได้ (ตรงกับที่หน่วย SEAL เจอรอยมือวันแรกๆ เลยสืบได้ว่าน่าจะหนีน้ำเข้าไปด้านใน ซึ่งถูกต้อง)
แล้วก็เลยหนีน้ำไปเรื่อยจนถึงเนินนมสาวนั่น เพื่อรอน้ำลดจะได้ออกมา โค้ชเอกบอกให้นั่งอยู่ด้วยกัน ใครหิวโค้ชเอกจะให้เปิดไฟฉายทีละกระบอกส่องหาน้ำที่หยดจากเพดานถ้ำ แต่นานๆเข้าเริ่มไม่พอก็ให้เด็กกินน้ำที่ไหลเข้ามาจนสะอาดแล้วบ้าง หรือบางครั้งก็กินน้ำขุ่นๆนั่นแหละเพื่อให้อยู่รอด โค้ชเอกสอนให้นั่งนิ่งๆ ทำสมาธิ วันที่สอง-สามหิวจนแสบท้อง ร้องไห้ (อันนี้เครดิตตกไปอยู่ร่างทรงที่มาร้องไห้หน้าถ้ำให้พ่อแม่ดูอยู่นะ เพราะนางบอกเด็กร้องไห้ หิว หนาว ทรมานทรกรรม เออมันก็พูดถูก เอ๊ะแต่เราควรให้เครดิตร่างทรงด้วยเหรอฟะ อ่ะข้ามไป) น้องไตตั้นบอกว่าน้องหนาว โค้ชเอกก็กอดน้องเอาไว้ (โอ๊ยย มีความพี่ชายย~ชั้นหนาว) แล้วสอนให้นั่งสมาธิเพื่อไม่ให้หายใจเร็วและเปลืองพลังงาน น้องบางคนมีเพ้อ เครียด ในความมืด เบียดเสียด
แล้วก็น้องๆบอกว่าตรงเนินนั่น เค้าช่วยกันตะกุยดินเพื่อให้ดินมันราบๆ จะได้นั่งนอนอยู่กันได้ น้องบอกว่าจริงๆแล้วนั่งกันอยู่สูงกว่าที่เห็นกันในคลิป แต่พอเห็นนักดำน้ำโผล่เข้ามา ก็ดีใจรีบวิ่งลงมาเรียกให้ช่วย มีคนตกน้ำไป 2 คน (ในคลิปจะได้ยินมีน้องร้องไห้ และเสียงโค้ชเอกปลอบเบาๆ “ไม่ต้องร้องๆ..” [เด็กๆคงดีใจมากจริงๆ] (อันนี้ตรงกับที่ผบ.หน่วย SEAL พูดว่าเด็กๆเห็นนักดำน้ำแล้วรีบวิ่งลงมาเรียก) จบ เพราะจำได้แค่นี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อแม่เค้าก็ไปเยี่ยมใหม่ ตอนนี้น้องหลายคนอาการดีแล้ว มีแค่บางคนที่ปอดบวม และบางคนติดเชื้อในหูชั้นกลาง ทุกคนยังต้องกินอาหารอ่อนๆๆจืดๆๆอยู่ จะกินข้าวกะเพรา หมูกะทะ ไก่ทอดตามที่พวกนางอ้อนขอยังบ่ได้เด้อ มีนางคนนึงขอขนมปังทาช็อคโกแลต อันนี้หมอให้กินได้ ตอนกัดหนมปังคงมองเพื่อนแบบ ห้าๆๆตรูชนะ เพื่อนๆในทีมดูสกิลการขออาหารของเพื่อนไว้แล้วคิดเมนูใหม่ซะนะ 5555
– ส่วนผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ หลังจบภารกิจถ้ำหลวง ผู้ว่าจะไปอยู่พะเยาแล้ว ชาวพะเยารอเปิดแชมเปญต้อนรับกันทั้งจังหวัดแล้วจ้าาาา มีสื่อไปสัมภาษณ์ท่าน ถามว่าอยากทำอะไรหลังจากนี้ ท่านบอกอยากนั่งชิวๆ แล้วเขียนเรื่องราวนี้ออกมา ท่านอายุไม่น้อยแล้วแต่ยัง dude มากอยู่เลยนะ เล่นโซเชี่ยล เรารู้อะไรกันท่านก็รู้หมดอ่ะ ท่านบอกเห็นเค้าทำ quote คำพูดของแต่ละคนออกมาเต็มเลย ตัวท่านตอนพูดหน้างานไม่ได้คิดอะไร แต่พอจบแล้วมาเห็นพวกนี้ก็รู้สึกอยากเขียนอะไรออกมาเองด้วยเพื่อถอดบทเรียน เพื่อสอนเด็กๆ และเรื่องดราม่าอะไรๆก็รู้หมด ท่านบอกตอนอยู่ที่นั่นของกินอร่อยสุดคือก๋วยเตี๋ยวกับข้าวไข่เจียว จบงานแล้วอยากไปหาราเม็งร้านดีๆกิน ท่านเป็นแฟนอะกาธาคริสตี้ เชอล็อคโฮล์มส์ และโคนันด้วยนะ
– ที่น่าสงสารสุดน่าจะเป็นแก๊งพี่เลี้ยงเด็กทั้ง 4 นำโดยหมอภาคย์ และทีม SEAL อีก 3 คน คือหลังออกจากถ้ำตอนนี้ต้องโดนกักเชื้อโรคอยู่ในห้องปลอดเชื้อในรพ.อยู่ 5 วัน แล้วสภาพนี่คือทหารหน่วยซีลเพิ่งจะทำภารกิจสำเร็จกลับมาฮึกเหิมเต็มที่หัวใจพองโต แล้วก็แว๊บ ภาพตัดมาในห้องปลอดเชื้อที่เงียบสงบสีขาวใส่ชุดโรงบาลรองเท้าสลิปเปอร์ ไม่ได้ป่วย ไม่เจ็บไม่เป็นอะไรเลยยยย แต่ต้องอยู่รพ. เห็นในคลิปนี่อยู่ไม่ติดเตียงกันเลย555 เดินไปเดินมา เช็คมือถือๆๆ เดินไปเตียงเพื่อนๆๆ ¥€€*฿&@+^%>>*¥ อยู่แบบนี้ไปอีก 5 วันนะพี่นะ ขอบคุณจริงๆ555555 วงวารรร
– ทีมสูบน้ำท่อพญานาคขับมาเองขับกลับเองนักเลงพอ เมื่อวานขับกลับไปถึงอุตรดิตถ์ก็แวะพัก แต่คือรถมันโดดเด่นมาก บวกกับมีแฟนคลับติดตามในโซเชี่ยล เทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์เลยขอจัดเลี้ยงอาหารให้ทีมท่อพญานาค และก็มอบเหรียญพระให้เป็นศิริมงคล ก่อนจะค้าง 1 คืนแล้วกลับนครปฐมต่อไป
(ทีมท่อพญานาคนี่ ผู้ว่าเคยบอกว่าเค้ามาเอง มาถึงแล้วยังไม่มีงานให้ทำ ก็เลยรออยู่ที่นั่น รออยู่หลายวัน จนในที่สุดภารกิจสูบน้ำเริ่มเวิร์คและลงตัวขึ้น ต้องการกำลังพลเลยได้เรียกท่อพญานาคเข้าไปช่วย คราวนี้จัดเต็มเลยจ้าา ผู้ว่าบอกว่าขอบคุณเค้าที่ยังรออยู่ และชาวเราก็ได้เห็นบร๊ะลานุภาพของท่านท่อพญานาคกันนั่นแหละ นักข่าวต่างประเทศถึงกับอุทานว่า “that’s f**kin awesome!!”)
– นักข่าวต่างประเทศรายงานว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์ภัยพิบัติที่ไหนในโลก ที่จบ happy ending แบบนี้ มันเป็นเรื่องราวที่สุดยอดมาก และไม่เคยต้องมารายงานข่าวเหตุการณ์ภัยพิบัติที่ไหนแล้วมีข้าวกินฟรีทุกมื้อ มีชาวบ้านมาคอยขอบคุณ ดูแล เทคแคร์ เล่นด้วย แบบนี้มาก่อน เค้าบอกว่าการทำข่าวบางทีต้องย่ำเข้าไปในไร่สับปะรดของชาวบ้าน (แต่ขออนุญาตแล้ว) (ไร่สับปะรดเป็นอะไรที่พวกฝรั่งตื่นเต้นมากกกก รักมาก เหมือนแบบรูปร่างมันคงน่ารัก บ้านเค้าไม่มีมั๊ง เห็นกรี๊ดสับปะรดกันทุกคน) แต่ชาวบ้านก็บอกเอาเลย ย่ำเข้าไปได้เลย ไม่เป็นไร พวกนักข่าวบอกว่าคนไทยดีมากๆ เมืองไทยก็สวยงามมากๆ (แน่ล่ะสิก็เล่นไปทำข่าวบนยอดดอยเบอร์นั้น)
ปล. นายกลุงตู่แวะขอบคุณนักดำน้ำบอก “please come again. Don’t forget Thailand is your 2nd home.” แล้วไปแซวล่ามเค้าอีกบอกแต่งงานเร็วๆนะจะไปเป็นประธานให้
ปล.2 เรื่องเกษตรกร ตอนแรกหลายๆข่าวบอกผิดด้วยล่ะ เหมือนจริงๆแล้วคือมีเกษตรกรที่เดือดร้อนอยู่ 126 ราย แต่มี 19 รายที่ไม่ขอรับเงินช่วยเหลือ เพราะอยากมีส่วนร่วมช่วยเหลือเด็กในครั้งนี้ (แต่นอกจากเงินก็มีเมล็ดพันธุ์, ปุ๋ย บลาๆๆๆให้ไปด้วยนะ ให้เยอะแค่ไหน ก็เห็นว่าเบิกมา 14 ตันแค่นั้นแหละ ละก็มีซ่อมอุปกรณ์ให้ฟรี อบรมให้ฟรี อะไรอีกหลายอย่าง)
ปล.3 ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า แกเห็นในเน็ต
ที่เป็น quote คำพูดของนักดำน้ำอังกฤษที่พูดว่า
“ผมดำน้ำมาทั้งชีวิตด้วยความหลงใหลแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไรจนสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมก็ได้คำตอบของสิ่งที่ทำมาทั้งชีวิต”
แล้วแกเลยนึกว่า มีเสียงบอกแกอยู่นะว่าแกบริหารคน
บริหารงานได้ดีมากเลย บางคนถึงกับถอดบทเรียนการทำงานของท่านในภารกิจนี้
ออกมาทำเป็น infographics ในแง่การเป็นผู้บริหาร แกก็เลยนึกว่า
“อืมม หรือว่าบางทีผมอาจจะมาอยู่ถูกที่ถูกเวลาจริงๆละมั๊ง..”……จ้าาาา เพิ่งรู้เหรอคะ เค้ารู้กันทั้งประเทศตั้งนานแล้วววว
ขอบพระคุณแหล่งที่มา : WaenPloy Chitt-amphai