ยิ่งอากาศร้อน เหงื่อก็ยิ่งออกง่าย โดยเฉพาะคนออกกำลังกายหนัก ๆ
ก็จะรู้สึกกังวลเรื่อง “กลิ่นเหงื่อติดเสื้อ”
เป็นพิเศษ บางคนเนี่ยถึงกับหมดความมั่นใจเวลามีคนมาเดินใกล้ ๆ
หรือต้องเดินเข้าไปใกล้คนอื่น
แถมยังไม่รู้จะทำยังไงเพราะซักออกยากเหลือเกิน
แม้จะเอาเสื้อไปตากแดดอย่างที่ใคร ๆ บอกกันมา
สุดท้ายกลิ่นเหงื่อเจ้าปัญหาก็ไม่หายไปซะที !!
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหมดหนทางซะทีเดียว เพราะปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการกำจัดตั้งแต่ต้นเหตุ นั่นก็คือแบคทีเรียและเชื้อรา 2 ตัวเจ้าปัญหาที่ขับกรดทำให้เกิดกลิ่นออกมา ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้กลิ่นเหงื่อติดเสื้อหายไปและไม่กลับมาอีก ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. ป้ายสครับเบกกิ้งโซดาดับกลิ่น
หากใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสูตรธรรมดาอยู่ละก็ ก่อนซักให้ใช้เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำอุ่นเล็กน้อย จากนั้นนำไปป้ายตรงจุดที่มีกลิ่นเหงื่อแล้วขยี้ ทิ้งไว้สักพัก ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำเปล่าและนำไปซักตามปกติ
2. ซักด้วยน้ำเกลือ
เครื่องปรุงในครัวอย่าง “เกลือ” ก็ใช้กำจัดกลิ่นเหงื่อได้เหมือนกัน ซึ่งขั้นตอนนั้นก็คล้าย ๆ กับวิธีการใช้เบกกิ้งโซดาเลย เริ่มจากละลายเกลือกับน้ำอุ่นในถังหรือกะละมัง ในอัตราส่วนเกลือ 3 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร แล้วนำเสื้อมาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นค่อยเอาไปซักด้วยน้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกอีกครั้ง
3. แช่น้ำส้มสายชูก่อนเปิดเครื่อง
ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูมีมากมายนัก นอกจากใช้ทำความสะอาดบ้านได้แล้ว ยังนำมาซักเสื้อเพื่อกำจัดกลิ่นเหงื่อได้อีกด้วย โดยเทน้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วยตวง ลงไปในเครื่องซักผ้า แล้วแช่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหงื่อทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที จากนั้นก็เปิดเครื่องซักตามปกติ แต่สำหรับเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหงื่อแรงแบบฝังแน่น ให้เทน้ำส้มสายชูเพิ่มอีก 1/3 ถ้วยตวง อีกครั้ง ระหว่างรอบซักด้วยน้ำเปล่า
4. ปรับพฤติกรรมตัวเอง
หลายคนกลับถึงบ้านแล้วโยนเสื้อลงตะกร้าทันที เลยทำให้กลิ่นเหม็นหมักหมมอยู่ในตะกร้า แถมยังเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียและเชื้อโรค เพราะฉะนั้นหลังจากนี้หากเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ออกกำลังกาย หากไม่สะดวกซักทันที ก็ควรนำไปผึ่งลมให้เหงื่อแห้งก่อน ค่อยนำมาใส่ตะกร้าก่อนเอาไปซัก ก็จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นได้ทางหนึ่ง
5. ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดแบคทีเรีย
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้กลิ่นเหงื่อบนเสื้อไม่หายไปซักที อาจมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ไม่เหมาะกับพฤติกรรม หากเป็นคนชอบออกกำลังกาย ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ๆ หรือเป็นคนที่มีเหงื่อออกเยอะอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีเวลาซักผ้า ถอดแล้วต้องใส่ตะกร้าทิ้งไว้หลายวัน ลองเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์ซักผ้าธรรมดา เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารแอนตี้แบคทีเรีย
นอกจากจะช่วยลดกลิ่นเหงื่อบนผ้าระหว่างวันแล้ว ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและการเกิดกลิ่นเหงื่อได้ยาวนาน ต่อให้ทิ้งเสื้อไว้ในตะกร้าหลายวัน ผ้าก็ยังไม่เหม็น ต่อให้ใส่จนเหงื่อออกไปทั้งตัว ก็เดินได้อย่างมั่นใจว่าไม่มีกลิ่นเหงื่อรบกวนจมูกคนข้าง ๆ แน่นอน
ขอบคุณที่มาจาก : kapook
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหมดหนทางซะทีเดียว เพราะปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการกำจัดตั้งแต่ต้นเหตุ นั่นก็คือแบคทีเรียและเชื้อรา 2 ตัวเจ้าปัญหาที่ขับกรดทำให้เกิดกลิ่นออกมา ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้กลิ่นเหงื่อติดเสื้อหายไปและไม่กลับมาอีก ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. ป้ายสครับเบกกิ้งโซดาดับกลิ่น
หากใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสูตรธรรมดาอยู่ละก็ ก่อนซักให้ใช้เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำอุ่นเล็กน้อย จากนั้นนำไปป้ายตรงจุดที่มีกลิ่นเหงื่อแล้วขยี้ ทิ้งไว้สักพัก ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำเปล่าและนำไปซักตามปกติ
2. ซักด้วยน้ำเกลือ
เครื่องปรุงในครัวอย่าง “เกลือ” ก็ใช้กำจัดกลิ่นเหงื่อได้เหมือนกัน ซึ่งขั้นตอนนั้นก็คล้าย ๆ กับวิธีการใช้เบกกิ้งโซดาเลย เริ่มจากละลายเกลือกับน้ำอุ่นในถังหรือกะละมัง ในอัตราส่วนเกลือ 3 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร แล้วนำเสื้อมาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นค่อยเอาไปซักด้วยน้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกอีกครั้ง
3. แช่น้ำส้มสายชูก่อนเปิดเครื่อง
ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูมีมากมายนัก นอกจากใช้ทำความสะอาดบ้านได้แล้ว ยังนำมาซักเสื้อเพื่อกำจัดกลิ่นเหงื่อได้อีกด้วย โดยเทน้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วยตวง ลงไปในเครื่องซักผ้า แล้วแช่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหงื่อทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที จากนั้นก็เปิดเครื่องซักตามปกติ แต่สำหรับเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหงื่อแรงแบบฝังแน่น ให้เทน้ำส้มสายชูเพิ่มอีก 1/3 ถ้วยตวง อีกครั้ง ระหว่างรอบซักด้วยน้ำเปล่า
4. ปรับพฤติกรรมตัวเอง
หลายคนกลับถึงบ้านแล้วโยนเสื้อลงตะกร้าทันที เลยทำให้กลิ่นเหม็นหมักหมมอยู่ในตะกร้า แถมยังเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียและเชื้อโรค เพราะฉะนั้นหลังจากนี้หากเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ออกกำลังกาย หากไม่สะดวกซักทันที ก็ควรนำไปผึ่งลมให้เหงื่อแห้งก่อน ค่อยนำมาใส่ตะกร้าก่อนเอาไปซัก ก็จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นได้ทางหนึ่ง
5. ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดแบคทีเรีย
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้กลิ่นเหงื่อบนเสื้อไม่หายไปซักที อาจมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ไม่เหมาะกับพฤติกรรม หากเป็นคนชอบออกกำลังกาย ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ๆ หรือเป็นคนที่มีเหงื่อออกเยอะอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีเวลาซักผ้า ถอดแล้วต้องใส่ตะกร้าทิ้งไว้หลายวัน ลองเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์ซักผ้าธรรมดา เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารแอนตี้แบคทีเรีย
นอกจากจะช่วยลดกลิ่นเหงื่อบนผ้าระหว่างวันแล้ว ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและการเกิดกลิ่นเหงื่อได้ยาวนาน ต่อให้ทิ้งเสื้อไว้ในตะกร้าหลายวัน ผ้าก็ยังไม่เหม็น ต่อให้ใส่จนเหงื่อออกไปทั้งตัว ก็เดินได้อย่างมั่นใจว่าไม่มีกลิ่นเหงื่อรบกวนจมูกคนข้าง ๆ แน่นอน
ขอบคุณที่มาจาก : kapook